"จิรายุ" ปลื้มจ่อถือธงไตรรงค์พิธีเปิดซีเกมส์

จิรายุ รักษาแก้ว นักตบลูกยางหนุ่มเผยเพิ่งทราบว่า ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย เตรียมทาบทามให้เป็นคนทำหน้าที่ถือธงไตรรงค์นำขบวนนักกีฬาไทยในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจ แต่ถ้าได้รับเลือกจริงก็ถือเป็นเกียรติของชีวิต

มหกรรมกีฬาแห่งมวลชนชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายนนี้ที่สนามเกโลรา ศรีวิจายา ในเมืองปาเล็มบัง ซึ่งเบื้องต้น “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ ได้เล็งติดต่อให้ จ่าอากาศโท จิรายุ รักษาแก้ว นักวอลเลย์บอลชาย วัย 24 ปี หรือ จ่าสิบเอก สุริยันต์ เป๊ะชาญ นักกีฬาเซปักตะกร้อจอมเก๋า วัย 37 ปี คนใดคนหนึ่งให้ทำหน้าที่ถือธงไตรรงค์นำขบวนนักกีฬาทีมชาติไทยลงสู่สนามในพิธีเปิด

ผู้สื่อข่าว MGR Sport มีโอกาสสอบถาม “เจ้าเจมส์” ในระหว่างฝึกซ้อมร่วมกับทัพนักตบลูกยางหนุ่มทีมชาติไทยที่อาคารกีฬาในร่ม การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ก่อนได้รับคำตอบว่า “ผมยังไม่ทราบเลยว่าจะได้เป็นตัวเลือกให้ทำหน้าที่ถือธงชาติไทยนำคณะนักกีฬาไทยลงสู่สนามในพิธีเปิดการแข่งขัน ซึ่งหากผมได้รับความไว้วางใจจริงๆ ก็นับว่าเป็นเกียรติครั้งสำคัญของชีวิต เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้ถือธงในการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ ส่วนสาเหตุที่คุณธนาจะเลือกผมจริงๆ ก็คงเป็นเพราะบุคลิกและส่วนสูง”

ทั้งนี้ "บิ๊กต้อม" ที่อยู่ในระหว่างเดินทางไปประชุมกับฝ่ายจัดการแข่งขันซีเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสรุปเรื่องโปรแกรมการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ รวมถึงความพร้อมล่าสุด เปิดเผยว่ากำลังพิจารณาคนถือธงนำคณะนักกีฬาทีมชาติไทย โดยอาจจะเลือกคนที่ไม่่ติดแข่งขันในวันพิธีเปิด ซึ่งโอกาสที่ จิรายุ จะได้รับเลือกมีสูง เนื่องจากในวันที่ 11 พฤศจิกายน วอลเลย์บอล จะมีเพียงการประชุมผู้จัดการทีม แต่จะตรงกับการแข่งขันวันแรกของ เซปักตะกร้อ

นอกจากนั้น เจ้าของความสูง 194 เซนติเมตร ซึ่งอยู่ในชุดคว้าเหรียญเงินซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ สปป.ลาว ยังกล่าวถึงเป้าหมายส่วนตัวใน “อิเหนาเกมส์” ครั้งนี้ว่า “ผมและเพื่อนร่วมทีมฝึกซ้อมอย่างหนักซึ่งตั้งใจว่าจะคว้าเหรียญทองกลับมาฝากพี่น้องชาวไทยให้ได้ ส่วนคู่แข่งสำคัญเป็น อินโดนีเซีย เจ้าภาพที่เราแพ้ในรอบชิงเหรียญทองครั้งที่แล้ว 2-3 เซต รวมถึงกองเชียร์อินโดนีเซียที่ค่อนข้างหัวรุนแรงน่าจะคอยกดดันเราตลอด แต่ผมยังเชื่อว่าเรามีการพัฒนาที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะเอาชนะพวกเขาได้”