คอลัมน์ ON TRACK / เด็กปั๊ม
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกปิดฤดูกาลกันมาได้พักใหญ่ เท่ากับว่าแฟนความเร็ว 2 ล้อจะต้องรอกันไปอีกร่วม 5 เดือนกว่าที่ฤดูกาล 2012 จะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในสนามแรกของปีที่โลไซอัล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ต้องบอกว่าโมโตจีพีฤดูกาลใหม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องกฎกติกามากมายซึ่งเป็นหัวข้อที่ "เด็กปั๊ม" ขออนุญาตหยิบยกมาพูดคุยกันครับ
คอความเร็วหลายคนคงจะพอทราบกันไปแล้วว่าในฤดูกาลหน้า ดอร์นา (เจ้าของสิทธิประโยชน์ประจำศึกโมโตจีพี) รวมถึง เอฟไอเอ็ม (สหพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ) ได้ปรับกติกาเครื่องยนต์ในรุ่นโมโตจีพีจาก 800 ซีซี กลับไปใช้เครื่องความจุ 1,000 ซีซีอีกครั้ง ขณะที่ในรุ่น 125 ซีซี เดิมก็จะเปลี่ยนเป็นรุ่นโมโตทรี ภายใต้เครื่องยนต์ 250 ซีซี 4 จังหวะ มีเพียงรุ่นโมโตทู 600 ซีซี ที่รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ทำการแข่งขันอยู่ ที่ยังคงกติกาเดิมเอาไว้
แต่ที่ลงลึกในรายละเอียดมากกว่านั้นสำหรับรุ่นใหญ่คือการที่เอฟไอเอ็มเปิดโอกาสให้กับทีมแข่งอิสระที่ไม่ใช่ทีมแข่งโรงงานเหมือนกับ ฮอนด้า,ยามาฮ่า,ดูคาติ หรือแม้แต่ซูซูกิ (ปัจจุบันถอนตัวจากโมโตจีพีไปแล้ว) เข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งจะทำให้มีรถแข่งในโมโตจีพี 2012 เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่ราว 16-17 คัน เป็น 22 คันบนกริดสตาร์ท หลังมีทีมแข่งจากรุ่นโมโตทูถึง 6 ทีมตบเท้าเข้าร่วม รวมถึงทีมแข่งใหม่เอี่ยมอีกหนึ่งเจ้าสมัครเข้าร่วมบิดในปีหน้า
โดยผู้จัดเองได้เปิดโอกาสสำหรับทีมใหม่ด้วยการคลอดกฎ Claiming Rule Teams (CRT) ขึ้นมา เท่ากับว่าในรุ่นโมโตจีพีนอกจากจะมีรถแข่งทีมโรงงานของพวกนักบิดอย่างเคซีย์ สโตเนอร์ (โรงงานฮอนด้า) ,ฮอร์เก ลอเรนโซ (โรงงานยามาฮ่า) รวมถึงวาเลนติโน รอสซี (โรงงานดูคาติ) แล้ว ยังจะมีทีมแข่งอิสระต้นทุนต่ำเข้าร่วมแข่งขันบนแทร็กเดียวกัน
ซึ่งไอ้เจ้ากฎ CRT ที่ว่านี้ เปิดโอกาสให้ทีมแข่งที่ไม่ได้สังกัดโรงงาน เลือกใช้เฟรมรถได้อย่างอิสระ (คล้ายๆกับในรุ่นโมโตทู) ขณะที่เครื่องยนต์ก็ไฟเขียวให้ใช้เครื่องจากรถตลาดที่มีขายในโชว์รูมทั่วไป และนำมาปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า ที่มีรุ่น CBR1000 หรือยี่ห้ออื่นๆอย่างบีเอ็มดับเบิลยู หรือ อพริเลีย ที่มีเครื่องความจุ 1,000 ซีซี มาถึงจุดนี้หลายคงคงสงสัยว่า แล้วรถแข่งของทีมเหล่านี้จะไปสู้กับรถโรงงานที่แรงขั้นเทพได้อย่างไร
จุดนี้เองครับเป็นจุดที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม แม้ว่าในกฎ CRT จะระบุว่าทีมแข่งอิสระสามารถใช้เครื่องยนต์ได้ทั้งหมด 12 เครื่องต่อฤดูกาล (ทีมโรงงานใช้ได้แค่ 6 เครื่อง) และสามารถขยายความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุดที่ 24 ลิตร (ทีมโรงงานเต็มถังได้แค่ 21 ลิตร) ก็ตาม แต่ถ้าเทียบสมรรถนะกันตามจริงแล้วคงต้องบอกว่ายากเหมือนกันที่รถแข่งทีมเล็กจะขึ้นไปบี้กับรถที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะได้
อย่างไรก็ดีผมเองมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณสุทธิสาร แววสมณะ กูรูมอเตอร์ไซค์ของไทย ซึ่ง "น้าบาน" มองว่า เครื่องยนต์ 1,000 ซีซี 4 สูบแถวเรียงในรถตลาดทั่วไป หากได้รับการปรับแต่งดีๆ เข้ากับเฟรมรถที่ลงตัวก็มีลุ้นทำเวลาสู้กับทีมใหญ่ที่ใช้รถโรงงานได้เช่นกัน งานนี้กว่าจะได้เห็นหน้าเห็นหลัง บรรดารถแข่งทีมอิสระคงต้องรอดูผลทดสอบช่วงวินเตอร์เทสต์ปีใหม่นี้ล่ะครับ ว่าความเหลื่อมล้ำในโมโตจีพี 2012 จะมีมากหรือน้อยเพียงใด
