“ฉัตรชัย บุตรดี ยอดกำปั้นไทยสอนเชิง เฮียท ออง ของเมียนมาร์ 26-11 หมัด ทะลุเข้าสู่รอบชิงเหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ สายลม อาดี พ่ายให้ ฟิลิปปินส์ ไปอย่างน่าเสียดาย
ศึกมวยสากลสมัครเล่นชาย ชิงแชมป์ “อิเหนาเกมส์” ที่กรุงปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 รอบรองชนะเลิศ กำปั้นไทยมีคิวขึ้นสังเวียน 2 คน
เริ่มจาก รุ่น 52 กก. ฉัตรชัย บุตรดี ฟาดกำปั้นกับ เฮียท ออง ของเมียนมาร์ ซึ่งยกแรก ขุนพลเสื้อกล้ามไทยอาศัยเชิงมวยที่เหนือกว่ามากดึงจังหวะต่อยเน้นทำแต้มเป็นหลัก ทำให้ทิ้งห่างไปถึง 14-3 ยกถัดมา นักชกเมียนมาร์ยังหาช่องทางเจาะไม่ได้ เนื่องจาก ฉัตรชัย การ์ดแน่นและดึงจังหวะต่อยทำแต้มเป็นระยะหนีเป็น 20-6 ขึ้นยกสุดท้าย ฉัตรชัย ดูต่อยประคองตัวก่อนเอาชนะไปไม่ยาก 26-11 หมัด เข้าไปชิงเหรียญทองในวันจันทร์ที่ 21 พ.ย.นี้ กับ ฮูลิโอ เบรีย ของเจ้าภาพที่ล้ม ซาลูดาร์ เรย์ จากฟิลิปปินส์ 29-17 หมัด
ภายหลัง ฉัตรชัย กล่าวว่า “วันนี้ถือว่าชกได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะโค้ชสั่งให้ชกแบบประคองตัว หลังคะแนนนำพอสมควรแล้ว ถือเป็นการเซฟร่างกายก่อนแข่งรอบชิงชนะเลิศ โดยการเจอนักชกเจ้าภาพ แม้เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่ผมก็มั่นใจเต็มร้อยว่าจะเอาเหรียญทองสมัยที่สองกลับมาให้ได้”
ส่วนคู่ต่อมาในรุ่น 60 กก. สายลม อาดี ลงสังเวียนดวล ชาร์ลี ซัวเรซ นักชกฝีมือดีของฟิลิปปินส์ ยกแรก สายลม พยายามอาศัยช่วงชกที่ยาวกว่าเข้าทำ และเมื่อ ซัวเรซ ถลำเข้ามาก็จะรัวหมัดหนึ่งสองเข้าที่ลำตัว แต่หมดยกนำเพียง 2-1 ยกถัดมา มวยตากาล็อกเริ่มออกลูกชวนทะเลาะสาวเท้าเร่งเครื่องต่อยทำให้ ซัวเรซ พลิกกลับมานำบ้าง 5-4 เข้าสู่ยกสุดท้าย สายลม ต้องเปลี่ยนแผนหันมาเดินหน้าลุยรัวหมัดแต่ไม่ทันการณ์ ซัวเรซ เอาชนะไป 11-9 เป็นเหตุให้ สายลม ได้เพียงเหรียญทองแดง
ภายหลัง สายลม เผยว่า "จุดเปลี่ยนของเกมคงอยู่ที่ยกที่สอง คุ่ต่อสู้บุกเข้าหาจนตั้งตัวไม่ทัน ส่วนตัวผมมีอาการบาดเจ็บที่นิ้วมือข้างขวาที่ประสบตอนคัดเลือกโอลิมปิกติดตัวมา แต่ก็ถือเป็นข้ออ้างไม่ได้ ทั้งนี้ต้องขอโทษแฟนๆ มวยที่ทำให้ผิดหวัง หลังจากนี้ไปคงต้องมีเรื่องให้แก้กันอีกเยอะสำหรับตัวผม เพื่อกลับมาแข่งขันในรายการต่อๆ ไป"
ศึกมวยสากลสมัครเล่นชาย ชิงแชมป์ “อิเหนาเกมส์” ที่กรุงปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 รอบรองชนะเลิศ กำปั้นไทยมีคิวขึ้นสังเวียน 2 คน
เริ่มจาก รุ่น 52 กก. ฉัตรชัย บุตรดี ฟาดกำปั้นกับ เฮียท ออง ของเมียนมาร์ ซึ่งยกแรก ขุนพลเสื้อกล้ามไทยอาศัยเชิงมวยที่เหนือกว่ามากดึงจังหวะต่อยเน้นทำแต้มเป็นหลัก ทำให้ทิ้งห่างไปถึง 14-3 ยกถัดมา นักชกเมียนมาร์ยังหาช่องทางเจาะไม่ได้ เนื่องจาก ฉัตรชัย การ์ดแน่นและดึงจังหวะต่อยทำแต้มเป็นระยะหนีเป็น 20-6 ขึ้นยกสุดท้าย ฉัตรชัย ดูต่อยประคองตัวก่อนเอาชนะไปไม่ยาก 26-11 หมัด เข้าไปชิงเหรียญทองในวันจันทร์ที่ 21 พ.ย.นี้ กับ ฮูลิโอ เบรีย ของเจ้าภาพที่ล้ม ซาลูดาร์ เรย์ จากฟิลิปปินส์ 29-17 หมัด
ภายหลัง ฉัตรชัย กล่าวว่า “วันนี้ถือว่าชกได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะโค้ชสั่งให้ชกแบบประคองตัว หลังคะแนนนำพอสมควรแล้ว ถือเป็นการเซฟร่างกายก่อนแข่งรอบชิงชนะเลิศ โดยการเจอนักชกเจ้าภาพ แม้เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่ผมก็มั่นใจเต็มร้อยว่าจะเอาเหรียญทองสมัยที่สองกลับมาให้ได้”
ส่วนคู่ต่อมาในรุ่น 60 กก. สายลม อาดี ลงสังเวียนดวล ชาร์ลี ซัวเรซ นักชกฝีมือดีของฟิลิปปินส์ ยกแรก สายลม พยายามอาศัยช่วงชกที่ยาวกว่าเข้าทำ และเมื่อ ซัวเรซ ถลำเข้ามาก็จะรัวหมัดหนึ่งสองเข้าที่ลำตัว แต่หมดยกนำเพียง 2-1 ยกถัดมา มวยตากาล็อกเริ่มออกลูกชวนทะเลาะสาวเท้าเร่งเครื่องต่อยทำให้ ซัวเรซ พลิกกลับมานำบ้าง 5-4 เข้าสู่ยกสุดท้าย สายลม ต้องเปลี่ยนแผนหันมาเดินหน้าลุยรัวหมัดแต่ไม่ทันการณ์ ซัวเรซ เอาชนะไป 11-9 เป็นเหตุให้ สายลม ได้เพียงเหรียญทองแดง
ภายหลัง สายลม เผยว่า "จุดเปลี่ยนของเกมคงอยู่ที่ยกที่สอง คุ่ต่อสู้บุกเข้าหาจนตั้งตัวไม่ทัน ส่วนตัวผมมีอาการบาดเจ็บที่นิ้วมือข้างขวาที่ประสบตอนคัดเลือกโอลิมปิกติดตัวมา แต่ก็ถือเป็นข้ออ้างไม่ได้ ทั้งนี้ต้องขอโทษแฟนๆ มวยที่ทำให้ผิดหวัง หลังจากนี้ไปคงต้องมีเรื่องให้แก้กันอีกเยอะสำหรับตัวผม เพื่อกลับมาแข่งขันในรายการต่อๆ ไป"
