xs
xsm
sm
md
lg

เสื้อกล้ามไทยบู๊ซีเกมส์ ปรับตัวกฎใหม่ก่อน อลป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขุนพลมวยสากลสมัครเล่นไทย พร้อมสู้ศึกซีเกมส์ครั้งที่ 26
ASTV ผู้จัดการรายวัน – ขุนพลมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เก็บตัวฝึกซ้อมกันอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังร้างสังเวียนมานานนับตั้งแต่มีปัญหาการแย่งสิทธิ์นั่งเก้าอี้นายกสมาคมฯ ก่อนจะลงเอยที่ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ได้รั้งตำแหน่งประมุข แต่เมื่อเมฆหมอกพัดผ่านไปทัพเสื้อกล้ามไทยก็มีโจทย์ให้ต้องกลับมาทำการบ้านกันอีกหลังกลับมาจากเวทีชิงตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2012 สนามแรกในศึกเวิลด์ บ็อกซิง แชมเปียนชิป ที่ประเทศอาเซอร์ไบจาน เนื่องจากสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา) ปรับกฎการให้คะแนนหมัดใหม่จากเดิมที่ต้องชกเข้าเป้า 100 เปอร์เซ็นต์มาเป็นเข้าเป้าเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ก็นับคะแนน

แน่นอนว่าการคืนสังเวียนระดับนานาชาติหนแรกในรอบหลายเดือนทำให้นักชกไทยยังไม่คุ้นเคยกับกฎการให้คะแนนแบบใหม่ โดยผลงานที่อาเซอร์ไบจานซึ่งไทยมี แก้ว พงษ์ประยูร เพียงคนเดียวที่เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย และมี ฉัตรชัย บุตรดี กับ สายลม อาดี ที่เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเรายังต้องปรับตัวอีกพอสมควร ดังนั้น กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย จึงเปรียบเสมือนเวทีที่จะให้ขุนพลเสื้อกล้ามไทยได้ปรับสไตล์การชกให้เข้ากับกฎใหม่ของไอบา เพื่อให้พร้อมสำหรับลุยศึกใหญ่อย่าง ลอนดอนเกมส์ 2012

ด้าน พ.ต.ธง ทวีคูณ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยพูดถึงเรื่องนี้ว่า “หลังกลับมาจากเวิลด์ บ็อกซิง แชมเปียนชิป ผมก็สั่งให้นักมวยทุกคนปรับสไตล์การชกทันที ซึ่งเราจะชกแล้วบล็อกหมัดแบบเดิมไม่ได้ หากบล็อก 2-3 หมัดก็ต้องรีบโต้ เพราะกฎใหม่ทำให้คะแนนไหลมากขึ้น ถ้าเราขยันออกหมัดเท่ากับว่าโอกาสชนะก็มีสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในการชกที่อาเซอร์ไบจานจะเห็นได้ว่าไม่มีคู่ไหนที่คะแนนอยู่ที่หลักหน่วย แต่แต้มจะขึ้นหลักสิบแทบทั้งนั้น”

อย่างไรก็ตาม “โค้ชธง” กล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมาบรรดานักมวยที่เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นที่อาคารกีฬาในร่มภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ต่างก็เริ่มปรับวิธีการชกให้เข้ากับกฎใหม่ได้ดีขึ้น “เวลาจับคู่กันลงนวมซ้อม ผมได้สั่งให้แต่ละคนออกหมัดกันมากขึ้น ถ้าคู่ชกต่อย 2 หมัดเราก็ต้องพยายามเอาคืนอีก 4 หมัด รวมถึงปรับสปีดหมัดให้เร็วขึ้น ซึ่งตอนนี้ถือว่าคุ้นเคยกับโจทย์ที่ไอบามอบให้มากขึ้นแล้ว โดยเราจะได้วัดผลงานกันอย่างจริงจังในซีเกมส์ที่อินโดนีเซีย เพื่อให้รู้ว่าเราพร้อมแค่ไหนกับการคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2012 สนามต่อไปที่ประเทศคาซัคสถาน ในเดือนเมษายนปีหน้า”

สำหรับการขึ้นสังเวียนในมหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียนที่แดนอิเหนา โดยทัพเสื้อกล้ามไทยยกพลถึงปลายทางแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะมีการจับสลากแบ่งสายในการประชุมผู้จัดการทีมวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายนนี้ จากนั้นจึงเริ่มแข่งขันวันแรกในวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่ง พ.ต.ธง วิเคราะห์ถึงคู่แข่งที่สำคัญว่า “ในบรรดาชาติอาเซียนด้วยกันมี ฟิลิปปินส์ ที่น่าจับตามอง โดยพวกเขามีนักชกที่ผ่านศึกเวิลด์ แชมเปียนชิป ที่อาเซอร์ไบจาน ในรุ่น 49 กิโลกรัม นอกจากนั้นก็มี อินโดนีเซีย เจ้าภาพ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่น่าหนักใจก็คือเล่ห์กลของทางเจ้าภาพที่ไม่รู้ว่าจะงัดลูกตุกติกอะไรออกมาใช้กับคู่แข่งบ้างไม่รุ่นใดก็รุ่นหนึ่ง แต่ถ้าเราชกทำคะแนนให้ขาดก็น่าจะตัดปัญหาตรงนี้ได้”

ส่วนความพร้อมล่าสุด “โค้ชธง” เผยว่า “นักมวยของเราพร้อมที่จะขึ้นชก 100 เปอร์เซ็นต์แล้วไม่ว่าจะเป็นทีมชายหรือทีมหญิง โดยนักชกหญิงก็ให้ลงนวมซ้อมกับนักชกชายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ส่วนนักชกชายก็ฟิตสมบูรณ์ทุกคนรวมทั้ง มนัส บุญจำนงค์ ที่กลับมาชกครั้งแรกในรอบ 3 ปีกว่าในรุ่น 75 กิโลกรัม ซึ่งตอนนี้ก็ทำน้ำหนักเกือบเท่าพิกัดแล้ว แม้โปรแกรมฝึกซ้อมที่ผ่านมาจะไม่หนักเท่ากับคนอื่นๆ เนื่องจากร้างเวทีไปนาน เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ แต่สภาพความฟิตก็อยู่ในเกณฑ์ดี ทว่าประสบการณ์ที่มีอยู่น่าจะช่วยให้เขาเอาตัวรอดได้สบาย”

ขณะที่ “เจ้าเติ้ล” มนัส ซึ่งขยับขึ้นมาจากรุ่น 64 กิโลกรัมก็กล่าวว่า “ การกลับมาชกครั้งนี้ผมน่าจะคว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้ แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่อังกฤษ เป็นการปิดฉากการรับใช้ชาติ หากซีเกมส์ครั้งนี้ทำผลงานได้ดี ผมก็มั่นใจว่าจะคว้าโควตาโอลิมปิกได้ ส่วนเรื่องที่ ไอบา ปรับกฎการนับคะแนนใหม่นั้นผมไม่หนักใจ เนื่องจากมันเข้าทางผมพอดี เพราะสไตล์การชกของผมจะออกหมัดเร็วสลับกับขยับออกมาดูเชิง ซึ่งแต่ละหมัดจะไม่โดน 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ดังนั้น กติกานี้น่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับผมมากกว่า”

ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ตั้งเป้าใน “อิเหนาเกมส์” ไว้ที่ 6 เหรียญทองเป็นอย่างต่ำ โดยหวังไว้ที่นักชกชาย 4 รุ่น คือ แก้ว พงษ์ประยูร (49 กิโลกรัม), ฉัตรชัย บุตรดี (52 กิโลกรัม), วรพจน์ เพชรขุ้ม (56 กิโลกรัม) และ สายลม อาดี (60 กิโลกรัม) ด้านนักชกหญิงลุ้น 2 รุ่น คือ เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม (54 กิโลกรัม) และ ทัศมาลี ทองจันทร์ (57 กิโลกรัม) ส่วนที่มีลุ้นสอดแทรก คือ อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ (69 กิโลกรัม ชาย), มนัส บุญจำนงค์ (75 กิโลกรัม ชาย), โสภิดา สะทุมรัมย์ (51 กิโลกรัม หญิง) และ สุดาพร สีสอนดี (60 กิโลกรัม หญิง)
พ.ต.ธง ทวีคูณ หวังใช้ซีเกมส์เป็นเวทีปรับตัวให้เข้ากับกฎใหม่ของไอบา
มนัส บุญจำนงค์ เรียกความฟิตกลับมาชกในรุ่น 75 กิโลกรัม
เจ้าเติ้ล ขอคว้าเหรียญทองซีเกมส์เรียกความมั่นใจก่อนไปโอลิมปิกสมัยที่ 3
วรพจน์ เพชรขุ้ม หนึ่งในความหวังเหรียญทอง
ฉัตรชัย บุตรดี เลือดใหม่ไฟแรงในรุ่น 52 กิโลกรัม
ฟิตซ้อมเต็มที่ก่อนขึ้นเวที อิเหนาเกมส์
ทัศมาลี ทองจันทร์ เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2010 ความหวังของนักชกหญิง
กำลังโหลดความคิดเห็น