สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ตั้งข้อหาเพื่อเอาผิด หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอก ลิเวอร์พูล ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้คำพูดเหยียดสีผิว ปาทริซ เอฟรา ฟูลแบ็ก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด ที่ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
หลังจบเกมที่สนามแอนฟิลด์ เอฟรา ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ "กาเนลปุส" (Canel +) ของเมืองน้ำหอมว่าถูกกองหน้าทีมชาติอุรุกวัยใช้คำพูดเหยียดสีผิวไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง "มีกล้องโทรทัศน์ตั้งหลายตัว คุณจะเห็นเลยว่าเขา (ซัวเรซ) พูดคำนั้นใส่ผมไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง พฤติกรรมแบบนั้นไม่ควรมีอีกแล้วในยุคนี้ เขาพยายามจะยั่วให้ผมโกรธ"
ซัวเรซ ปฏิเสธข้อกล่าวหาจาก เอฟรา อย่างหนักแน่น ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ต้นสังกัด และ เคนนี ดัลกลิช เจ้านายชาวสกอตก็แสดงการสนับสนุนลูกทีมอย่างเต็มที่
ด้าน เอฟเอ ดำเนินการสอบสวนนับแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น และล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (16 พ.ย.)ได้ตั้งข้อหาต่อดาวยิงวัย 24 ปีโดยออกแถลงการณ์ว่า "เอฟเอ ตั้งข้อหา หลุยส์ ซัวเรซ ของลิเวอร์พูล จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเกมที่ ลิเวอร์พูล เตะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามแอนฟิดล์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2011"
"มีข้อกล่าวหาว่า ซัวเรซ ใช้คำพูดหรือการกระทำที่เป็นการหมิ่นประมาทหรือดูถูกต่อ ปาทริซ เอฟรา ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งผิดกฎของ เอฟเอ ข้อกล่าวหายังอ้างถึงเรื่องของเชื้อชาติหรือสีผิวของ ปาทริซ เอฟรา โดย เอฟเอ จะไม่แสดงความเห็นใดๆเพิ่มเติม ณ เวลานี้" แถลงการณ์ของ เอฟเอ
ขณะที่ ลิเวอร์พูล หลังจากรับทราบว่า ซัวเรซ ถูกตั้งข้อหาจาก เอฟเอ ก็ได้มีแถลงการณ์ออกมาเช่นกัน โดยยังให้การสนับสนุนผู้เล่นของทีมอย่างเต็มที่ "เราจะมีการพูดคุยเรื่องนี้กับเขาเมื่อเขากลับมาจากการรับใช้ทีมชาติ แต่เขาจะปฏิเสธข้อหาและเราคาดว่าเขาจะขอให้มีการไต่สวนส่วนตัว หลุยส์ ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะลบล้างมลทินให้ชื่อของเขาจากข้อกล่าวหาของ ปาทริซ เอฟรา และสโมสรก็สนับสนุน หลุยส์ อย่างเต็มที่"