หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอก ลิเวอร์พูล ตอบโต้คำกล่าวหาเหยียดสีผิวจาก ปาทริซ เอฟรา แบ็กซ้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด ที่ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยยืนยันไม่เคยคิดดูถูกใคร
กลายเป็นประเด็นร้อนหลังจบเกมแดงเดือดที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อ เอฟรา ให้สัมภาษณ์กับ "กานัล ปลุส" ( Canal + ) สถานีโทรทัศน์บ้านเกิดเมืองน้ำหอมว่าถูก ซัวเรซ ใช้คำพูดเหยียดสีผิวไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และต่อมา สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ก็ประกาศจะสอบสวนข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล แสดงการป้องปกกองหน้าทีมชาติอุรุกวัยผ่านทางโฆษกของสโมสรที่กล่าวว่า "ประการแรกเลยไม่มีใครในทีม ลิเวอร์พูล รู้ข้อกล่าวหานี้เมื่อตอนที่ เคนนี ดัลกลิช (ผู้จัดการทีม) ถูกเรียกไปยังห้องผู้ตัดสินหลังจบเกม 20 นาที และทางเราก็ได้สอบถามกับ หลุยส์ ซัวเรซ แล้วซึ่งเขาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้คำพูดอะไรที่สื่อไปในการเหยียดผิว"
ล่าสุด ซัวเรซ ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาด้วยตัวเองโดยเขียนผ่านทาง "เฟซบุ๊ก" ว่า "ผมทุกข์ใจมากที่ถูกกล่าวหาว่าเหยียดผิว สิ่งเดียวที่ผมสามารถพูดได้ก็คือผมเคารพทุกคนเสมอ คนเราก็เหมือนๆกัน ผมลงไปในสนามด้วยความคิดแบบเด็กตัวเล็กๆผู้ซึ่งสนุกกับสิ่งที่เขาทำ ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง"
ทั้งนี้ ซัวเรซ ซึ่งย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคม ก็พัวพันกับเหตุการณ์อื้อฉาวหลายครั้ง โดยที่ตกเป็นเป้าวิจารณ์จากทั่วโลกคือในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ดาวยิงวัย 24 ปีใช้มือปัดบอลระหว่างเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ระหว่าง อุรุกวัย กับ กานา และ อุรุกวัย ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปจากการชนะดวลจุดโทษ
ขณะที่ระดับสโมสร ดาวยิงฟันจอบก็เคยถูกแบนยาว 12 นัดสมัยเล่นกับ อาแจ็กซ์ จากการไปกัดผู้เล่นคู่แข่งทีม พีเอสวี ไอน์โฮเฟน