xs
xsm
sm
md
lg

"ชิม ศิษย์ต่าย"ร้อง"บิ๊กหนุ่ม"ตรวจอัดฉีดสอยคิว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ชิม ศิษย์ต่าย" กอบกิจ พลาจิณ ยื่นหนังสือร้องเรียน "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ช่วยตรวจสอบเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติด่วน หลังประสบความสำเร็จคว้า 3 รองแชมป์สอยคิวระดับนานาชาติ ผ่านมาถึง 7 ปีแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินสักบาท
ชิม ศิษย์ต่าย (ขวา) ยื่นหนังสือร้อง ผู้ว่าการ กกท. (กลาง)
ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณี "ชิม ศิษย์ต่าย" นายกอบกิจ พลาจิณ นักสอยคิวทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย เจ้าของตำแหน่งรองแชมป์พูลโลกคนล่าสุด เคยทำผลงานถึง 3 รองแชมป์ ในการแข่งขันระดับนานาชาติ

เริ่มจากรองแชมป์ สนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์โลกอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ไอร์แลน์ปี 2547, รองแชมป์ สนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์เอเชียอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ไทย ปี 2548 และรองแชมป์ สนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์เอเชียอายุไม่เกิน 21 ปี ที่อิหร่าน ปี 2549 ซึ่งทั้งหมดผ่านมาถึง 7 ปีแล้วทว่ายังไม่ได้รับเงินอัดฉีดจนได้ทวงถามไปยังเจ้าหน้าที่สมาคมฯ แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน จึงเกิดปัญหาคาใจมาจนถึงปัจจุบัน

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ชั้น 11 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ภายในกกท.หัวหมาก "ชิม ศิษย์ต่าย" ได้ทำหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยื่นต่อ "บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการกกท.เพื่อเป็นตัวกลางในการประสานและเร่งติดตามดำเนินการ

ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งให้ นายมนตรี ไชยพันธ์ รองผู้ว่าการกกท.ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นผู้ดูแลติดตามเรื่องนี้เป็นการด่วน ซึ่งคาดว่า หลังจบ "อิเหนาเกมส์" ทุกอย่างคงรู้เรื่อง แม้ว่า จะผ่านมาถึง 7 ปีแล้ว แต่ก็ต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่า ปัญหาที่ผ่านมาติดขัดตรงไหนบ้าง รวมไปถึงกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆว่า เข้าตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่

ทั้งนี้ "บิ๊กหนุ่ม" เปิดเผยหลังได้อ่านจดหมายร้องเรียนแล้ว ว่า "จะต้องขอดูรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ เสียก่อนว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นทางสมาคมฯ ได้ทำหนังสือขอรับเงินกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติมายัง กกท.หรือไม่ รวมไปถึงกฏระเบียบข้อบังคับต่างๆสำหรับนักกีฬาที่จะได้รับเงินจากกองทุน พัฒนากีฬาแห่งชาติว่า เข้าข่ายหรือไม่อย่างไร"

"ที่สำคัญเรื่องนี้มันก็เนิ่นนานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ตนยังไม่ได้มาเป็นผู้ว่า กกท.อย่างไรก็ตามรู้สึกเห็นใจนักกีฬาที่ทุมเทเสียสละทำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ แต่เรื่องแบบนี้ก็ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่สมาคมด้วยว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากอะไร เพื่อหาทางช่วยเหลือกันต่อไป"

ขณะที่ "ชิม ศิษย์ต่าย" ได้เผยถึงเหตุผลที่เดินทางมาเพื่อต้องการมายื่นหนังสือเรียกร้องสิทธิ์ที่พึงจะได้รับ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับความกระจ่างหรือคำตอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยเลย ดังนั้นจึงอยากมาตามเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเองว่ามันติดขัดปัญหาตรงไหนบ้าง เพื่อจะได้รับรู้ข้อมูลและเกิดความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน หากไม่ได้รับเงินอัดฉีดจำนวนนี้ก็จะได้ทำใจและไม่ต้องมาคิดมากอีก

เนื่องจากที่ผ่านมามีนักสอยคิวรุ่นน้องคนอื่นๆ ที่เคยประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับตัวเองก็ได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติกันทุกคน ขณะที่ตัวเองก็มีผลงานมากมายเป็นถึง 3 รองแชมป์ทั้งในระดับโลก 1 ครั้ง และเอเชียถึง 2 สมัยติดต่อกันทำไมจึงไม่ได้รับการพิจารณาเหมือนนักกีฬาคนอื่น

"หวังว่า กกท.จะเป็นที่พึ่งสำหรับนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และเร่งติดตามเรื่องนี้เพื่อเสนอต่อสาธารณะชนเป็นการด่วน เพราะตัวเองยังมีความเชื่อว่า ยังมีนักกีฬาอีกหลายคนที่มีกรณีเดียวกันกับตัวเอง แต่ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะกล้าออกมาพูดมากน้อยแค่ไหน" นายกอบกิจ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น