จิมมี คอนเนอร์ส อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน เข้าหารือ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเปิดศูนย์ฝึกอะคาเดมีเทนนิสในประเทศไทย ให้กับเยาวชนจนเติบโตเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ คาดหาก กกท. ไม่พร้อมเล็งใช้ เมืองพัทยา เป็นสถานที่รองรับ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2554 "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดโอกาสให้ เจมส์ สกอตต์ จิมมี คอนเนอร์ส อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลก ชาวอเมริกัน เข้าพบ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อาคาร 25 ชั้น ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย
สำหรับประเด็นสำคัญที่ขอเข้าพบครั้งนี้คือการร่วมปรึกษาหารือเพื่อเปิด "จิมมี คอนเนอร์ส เทนนิส อะคาเดมี" ขึ้นในประเทศไทย โดยเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลมประเภทชายเดี่ยว 8 สมัย เผยว่า "จากที่ได้เปิดศูนย์ฝึกเทนนิสอะคาเดมีขึ้นหลายแห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นเกิดความสนใจที่จะเปิดศูนย์ฝึกที่ประเทศไทยเนื่องจากนักเทนนิสทีมชาติไทยมีฝีมือดีหลายรายที่สำคัญประเทศไทยมีความเหมาะสมในการที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางเทนนิสเอเชีย อีกทั้งยังสะดวกแก่การเดินทางสำหรับประเทศอื่นในทวีปเอเชียที่เฉลี่ยนแล้วไม่เกิน 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามหากประสบความสำเร็จในการได้เปิดอะคาเดมีแล้วหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันและพัฒนาวงการเทนนิสในประเทศไทย"
ขณะเดียวกัน "บิ๊กหนุ่ม" ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความพร้อมที่ประเทศไทยจะเปิด "จิมมี คอนเนอร์ส เทนนิส อะคาเดมี" ว่า "ถือเป็นเรื่องที่อดีตนักเทนนิสระดับโลกได้ให้ความสนใจประเทศไทยและมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเปิดศูนย์พัฒนาเยาวชน ในส่วนสถานที่เบื้องต้นด้วยการสร้างสนามเทนนิส 12 คอร์ต ซึ่งหากพื้นที่ภานในการกีฬาแห่งประเทศไทยไม่เอื้ออำนวยก็อาจจะไปสร้างที่ พัทยา จ.ชลบุรี หรือสถานที่อื่นตามความเหมาะสม โดยจะเปิดรับสมัครเยาวชนตามจำนวนอายุจนสามารถเติบโตเป็นนักเทนนิสมืออาชีพได้"
"ทั้งนี้ปัจจุบัน จิมมี ก็ยังเล่นเทนนิสในระดับซีเนียร์ จึงอยากที่จะนำความสามารถที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด จึงสอดคล้องกับนโยบายและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากีฬาอาชีพของ กกท. ที่ต้องการพัฒนานักกีฬาเทนนิสตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงการเป็นนักเทนนิสมืออาชีพ และผลักดันการเปิดอะคาเดมีทุกชนิดกีฬาอีกด้วย" ผู้ว่า กกท. กล่าว
จากนั้นเวลา 16.00 น. "บิ๊กหนุ่ม" ได้นำ จิมมี และคณะ เดินทางไปที่สนามฝึกกีฬาเทนนิสภายใน กกท. เพื่อเป็นวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักกีฬาเยาวชนของไทย "เทนนิส คลีนิค" จำนวน 30 คน เพื่อนำไปสู่การเป็นนักเทนนิสมืออาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ