"บิ๊กหนุ่ม" แจงศาลโลกคุ้มครองเเค่นักชก-โค้ช

"บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ต่างเห็นพ้องกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทยฯ และ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานโอลิมปิคฯ จากการร่างคำแปลคำสั่งกรณีที่ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลกคุ้มครองเพียงนักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชเท่านั้น ซึ่งไม่รวมสมาคมมวยสากลสมัครเล่นที่ฟ้องร้องไปหลังถูกถอดถอนคำว่า "แห่งประเทศไทย"



เมื่อเวลา 13.00 น. วันอังคารที่ 19 กรกฏาคม 2554 นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายบริหาร ในฐานะคณะทำงานสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ได้เรียกนักมวยเข้าทำการเก็บตัวระหว่างวันที่ 19 กรกฏาคม - 19 กันยายนนี้ พร้อมชี้แจงการดำเนินงาน ให้กับนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ ณ อาคาร 200 เตียง การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) หัวหมาก

โดยมีนักชกและคู่ฝึกซ้อมมาเข้าร่วมเก็บตัวทั้งสิ้น 13 ราย แบ่งเป็นชาย 10 ราย คือ สิบเอกวรพจน์ เพรชขุ้ม, นายอำนาจ รื่นเริง, ส.อ.สุริยา ปราสาทหินพิมาย, นายวุฒิชัย มาสุข, จ่าตรีสายลม อาดี, จ.ท.อังคาร ชมภูพวง, นายอนันต์ ป้องเขต, นายอภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์, นายสันติ เจ๊ะอาหลี และฉัตรชัย บุตรพรม ที่ได้เรียกเข้ามาเพิ่ม ส่วน จ.ส.ต.แก้ว พงษ์ประยูร, ได้แจ้งมาว่าติดภารกิจ ขณะที่นักชกหญิงมีเข้ามาเก็บตัว 3 รายคือ น.ส.ทัศมาลี ทองจันทร์, น.ส.เอี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม และ น.ส.โสภิดา สะทุมทรัพย์

และผู้ฝึกสอนอีก 6 คน ประกอบด้วย จ.อ.สุบรรณ์ พันโนน, จ่าสิบเอกกามนิตย์ นารีรักษ์, ส.อ.สมศักดิ์ อุทัยดา, จ่าเอกชัยชุมพล ชำนาญมาก, ส.อ.ชาญณรงค์ ดีแป้น และ โอมาร์ พารากอน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน

จากนั้นนายมนตรี รองผู้ว่ากกท. ได้เริ่มชี้แจงต่อที่ประชุมถึงกรอบการทำงานของชุดเฉพาะกิจใน 4 หัวข้อ คือ รายชื่อของคณะกรรมการมวยสากลฯ, การเตรียมทีมนักกีฬา, งบประมาณ และ สรุปการเตรียมความพร้อม โดยที่พักนักกีฬาจะให้ใช้อาคาร 200 เตียง จนถึงวันที่ 23 ก.ค.จะให้เข้าพักที่อาคาร 300 เตียงแทน ส่วนเรื่องการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันคัดเลือกโอลิมปิค สนามแรก ในศึกเวิลด์แชมเปียนชิพ ที่ประเทศอาเซอร์ไบจัน นั้นยืนยันว่าจะส่ง 8 รุ่น

หลังจบการประชุม นายมนตรี เผยถึงความคืบหน้าที่ศาลกีฬาโลกให้ความคุ้มครองสมาคมมวยสากลสมัครเล่นชุดเก่า เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม ที่ผ่านมาว่า "ยังไม่เห็นเอกสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากศาลกีฬาโลก ส่วนความชัดเจนของคณะทำงานเฉพาะกิจนนี้คงต้องเดินหน้าต่อไปตามโปรแกรมเดิม ซึ่งทาง สมาคมมวยฯ ชุดเก่าก็ยังไม่ได้มีการติดต่อมาแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าทาง กกท.และ คณะกรรมการโอลิมปิคฯ จะเป็นผู้พิจารณาว่าให้สมาคมมวยฯ ดำเนินงานต่อหรือไม่"

"โดยในวันที่ 20 กรกฏาคม 2554 คณะทำงานเฉพาะกิจจะส่งเอกสารรายชื่อสมาชิก, ประวัติ, ข้อบังคับต่างๆ ให้ทาง กกท.และ โอลิมปิคฯ รับรองเพื่อส่งต่อให้ สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบา) ในวันที่ 25 กรกฏาคม เพื่อพิจารณาให้การรับรองคณะทำงานชุดนี้เพื่อดำเนินกิจการสมาคมมวยฯ ต่อไป"

พร้อมกันนี้ วรพจน์ เพชรขุ้ม ในฐานะหัวหน้าขุนพลเสื้อกล้าม เผยถึงความรู้สึกว่า "รู้สึกดีใจมากที่ กกท. ได้ให้ความสำคัญนักมวย ในการแต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 9 คนขึ้นมา พร้อมยังชื่นชมถึงทีมงานทุกคนว่าน่าจะเป็นทีมงานที่แข็งแกร่ง จึงทำให้นักชกทุกคนมีขวัญกำลังใจที่ดีขึ้น และจะพยายามตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อมุ่งมั่นเพื่อคว้าโควตาไปเล่นในโอลิมปิคให้ได้"

จากนั้น นายมนตรี ได้พาคณะนักมวย ผู้ฝึกสอน ไปยังศูนย์ฝึกกีฬาในร่มเพื่อฝึกซ้อม โดยมี "บิ๊กอ๊อด" พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ มาให้กำลังใจ พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทแก่นักมวยว่า "ขอให้มั่นใจในการทำงานของคณะกรรมการชั่วคราวชุดนี้ ในการส่งตัวนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันได้ และเชื่อว่าจะไม่มีอุปสรรคใดๆ ขอให้ตั้งใจฝึกซ้อมโดยให้คำนึงถึงประเทศชาติ, แฟนกีฬาชาวไทย เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในการไปโอลิมปิคให้ได้ ขอให้ทุกคนโชคดีและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"

ขณะเดียวกัน "บิ๊กจา" พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ กล่าวหลังจากที่เดินไปประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นและมีโอกาสได้ปรึกษากับ ชิง กั๊ว วู ประธานไอบา ว่า "ตนยังไม่เห็นเอกสารคำสั่งของศาลกีฬาโลกที่ให้การคุ้มครองสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแต่อย่างใด ซึ่งจากนี้ไปคงจะไม่มีการไกล่เกลี่ยกับสมาคมวยฯ ชุดเก่าแล้ว เพราะเป็นที่แน่ชัดว่า ไอบา ไม่ประสงค์ที่ร่วมงานกับสมาคมฯ ชุดเก่า ทั้งนี้ตนได้ทำการพูดคุยประธานไอบา ในส่วนที่ได้ให้อำนาจคณะทำงานทั้ง 9 คนชุดนี้ดำเนินการ ดังนั้นสมาคมฯ ชุดเก่า จึงไม่มีสิทธิดำเนินการแล้ว"

"ซึ่งหลังจากตั้งคณะกรรมการทั้ง 9 คนแล้ว จากนี้ต้องส่งเอกสารประวัติของสมาชิก, ร่างกฏข้อบังคับโดยอิงกับกฏของไอบา เพื่อเป็นธรรมนูญชั่วคราว ในการดำเนินงาน และต้องส่งเอกสารในวันที่ 25 กรกฏาคม เพื่อให้ทางคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ทำการอนุมัติ และให้ ไอบา รับรองต่อไปภายในสิ้นเดือนนี้"

ทั้งนี้ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงคำสั่งของศาลกีฬาโลกว่า "จากการแปลคำสั่งไม่มีข้อความใดที่บ่งบอกว่าศากีฬาโลกให้ความคุ้มครองสมาคมมวยสากลสมัครเล่น มีเพียงว่าคุ้มครองนักกีฬาและเจ้าหน้าเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นักกีฬาไทยจะได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆ ทั้งนี้ศาลกีฬาโลกก็ยังไม่ได้ตัดสินชี้ขาดในคำสั่งของ ไอบา อีกด้วย ที่สำคัญสมาคมมวยฯ ถูกถอดถอนคำว่า "แห่งประเทศไทย" ไปก่อนที่จะฟ้องศาลกีฬาโลก ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะได้รับการคุ้มครอง"

ด้าน วสันต์ ฝีมือช่าง ทนายประจำสมาคมมวยสากลสมัครเล่น เผยถึงความคืบหน้าของสมาคมฯ ที่มีความเห็นแตกต่างว่า "จากนี้ไปสมาคมฯ จะเดินหน้าเข้าหา กกท. เพื่อร่วมปรึกษา หารือ หลังจากที่ศาลกีฬาโลกให้ความคุ้มครองสมาคมฯ ขณะเดียวกันต้องทวงสิทธิ์คำว่า "แห่งประเทศไทย" ที่ถูกถอดถอนไป ส่วนการส่งรายชื่อนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันก็อาจจะส่งร่วมกับ กกท. หรือสมาคมฯ ส่งเองก็อยู่ที่ดุลพินิจ ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด คาดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้ศาลกีฬาโลกจะมีการพิพากษาคดีนี้"

จากการร่างคำแปลศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2554 มีคำสั่งดังนี้
1.คำขอให้มีมาตรการให้ความคุ้มครองเป็นการชั่วคราว ซึ่งยื่นโดยสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2554 ในกรณีที่ ศาลกีฬาโลก 2011/A/2500 ระหว่างสมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ และ ไอบา เกี่ยวกับคำตัดสินของ ไอบา เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม 2554 นั้น ได้รับการอนุญาตเป็นบางส่วน
2.คำตัดสินลงวันที่ 1 กรกฏาคม 2554 ของ ไอบา ที่ได้รับการคัดค้านนั้น ศาลกีฬาโลก ขอพักการพิจารณาและชี้ขาดตัดสิน
3.นักกีฬามวยและเจ้าหน้าที่ในสังกัดของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ จะต้องไม่ถูกกีดกันในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามวยระดับชาติ หรือ นานาชาติใดๆ โดยมีเงื่อนไขว่า พวกเขาเหล่านั้นต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง จนกว่าจะมีมติชี้ขาดออกมาโดยศาลกีฬาโลก
4.ค่าธรรมเนียมคำสั่งนี้จะถูกกำหนดในคำตัดสินชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ หรือในการชี้ขาดคดีอื่นใดของอนุญาโตตุลาการนี้
5.คำขออื่นๆ ทั้งหมดถูกยก