"บิ๊กสิน" สินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสอยคิวไทย เร่งตรวจสอบเงินอัดฉีด "ชิม ศิษย์ต่าย" กอบกิจ พลาจิณ ที่ยังไม่ได้รับถึง 7 ปีด่วน หลังเจ้าตัวร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน และ กกท.เองก็ไม่ได้รับรายงานก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณี "ชิม ศิษย์ต่าย" กอบกิจ พลาจิณ นักแทงทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย เจ้าของตำแหน่งรองแชมป์พูลโลกคนล่าสุด ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองไม่เคยได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่จริงผลงานความสามารถที่ผ่านเป็นถึง "3 รองแชมป์" ในการแข่งขันระดับนานาชาติ เริ่มจาก รองแชมป์ ศึกสนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์โลกปี 2547 ที่ไอร์แลน์, รองแชมป์ ศึกสนุกเกอร์เยาวชนเอเชียปี 2548 ที่ไทย และ รองแชมป์ ศึกสนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์เอเชียปี 2549 ที่อิหร่าน ซึ่งทั้งหมดผ่านมาถึง 7 ปีแล้ว แม้ว่า ก่อนหน้านี้ทาง นายมนตรี ไชยพันธ์ รองผู้ว่ากกท.ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจเอกสารย้อนหลังไปแล้วก็ตาม ปรากฏว่า ไม่มีหนังสือ หรือจดหมายเพื่อจะรับเงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติจากสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด ทั้งที่จริงตามหลักปฏิบัติของสมาคมกีฬาทั่วๆไป ทุกครั้งที่นักกีฬาเดินทางไปแข่งขัน จะต้องชี้แจงรายละเอียดตลอดจนผลงานต่างๆมายังกกท.ให้รับทราบ
ล่าสุด "บิ๊กสิน" นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เพิ่งจะรับทราบข้อมูลจากสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่สมาคมเป็นการด่วนว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไร ขั้นตอนในการขอตัวเดินทางไปแข่งขันนั้น ถูกต้องตามกฏระเบียบข้อบังคับหรือไม่ เนื่องจากผ่านมาถึง 7 ปีแล้ว และทำไมก่อนหน้านี้ กอบกิจ ไม่ยอมออกมาเรียกร้องสิทธิ์ที่ตัวเองควรจะได้รับ ส่วนตัวเมื่อรับทราบเรื่องราวต่างๆแล้วก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะดำเนินการให้เป็นการด่วน เพราะเงินรางวัลความสำเร็จของนักกีฬาสมาคมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว มีแต่จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา"
"ที่ผ่านมาสมาคมก็ไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับกรณีแบบนี้ เนื่องจากรู้ดีว่า นักกีฬาแต่ละคนกว่าจะประสบความสำเร็จมายืนตรงจุดนี้ได้ ต้องฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆมากมาย แถมยังต้องทุ่มเทเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติ ดังนั้นต้องขอเวลาดูเอกสารย้อนหลังไปก่อนว่า ติดขัดปัญหาตรงจุดไหนบ้าง รวมไปถึงจะได้ประสานงานผ่านไปยัง กกท.เพื่อติดตามเรื่องนี้ให้ กอบกิจ เนื่องจากตัวเองมีภาระกิจหน้าที่ต้องดูแลหลายอย่าง โดยเฉพาะความหวัง 2 เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย" นายสินธุ กล่าว