วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยังคงยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้นำเงินจากโครงการ “โกล์” (GOAL) ของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จำนวน 860,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26 ล้านบาท) ไปใช้โดยละเมิดกฎด้านจริยธรรม หลังจากถูกจี้ให้นำหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์
สืบเนื่องจาก “บังยี” ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจนำงบสนับสนุนการพัฒนาฟุตบอลภายใต้โครงการ “โกล์” ของฟีฟ่าไปใช้โดยละเมิดกฎด้านจริยธรรมด้วยการนำเงิน 860,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26 ล้านบาท) ไปใช้ในการก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก บนที่ดินของตัวเอง แบ่งเป็น 460,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 14 ล้านบาท) ในการสร้างสนามหญ้าเทียมเมื่อปี 2004 และอีก 400,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 12 ล้านบาท) ในการก่อสร้างอาคาร 3 หลัง
ล่าสุด คณะกรรมการจริยธรรมของ ฟีฟ่า เตรียมเดินหน้าสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นนี้เพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ โดยเบื้องต้นได้มีการเรียกร้องให้ นายวรวีร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารฟีฟ่านำเอกสารหลักฐานเรื่องการโอนที่ดินให้กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ “โกล์” มาแสดงเพื่อยืนยันความโปร่งใสภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ มิฉะนั้นจะเริ่มดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม “บังยี” ซึ่งนั่งเก้าอี้คณะกรรมการบริหารของฟีฟ่ามานาน 14 ปียังคงย้ำถึงความบริสุทธิ์ของตนผ่านทางเว็บไซต์ของ สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ว่า “ผมพร้อมที่จะสู้คดีในชั้นศาล และผมก็พอจะรู้ด้วยว่าใครที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้” โดยนายกลูกหนังไทยยังยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้ส่งมอบไปให้บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโดยตรง และไม่มีเงินที่เข้ากระเป๋าตัวเองหรือสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เลย พร้อมทั้งเผยว่ามีหนังสือที่ระบุว่าได้อนุญาตให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นำที่ดินของตนไปใช้ประโยชน์โดยไม่คิดค่าเช่าด้วย