คอลัมน์ "ลูกฟุตบอลสีชมพู" โดย "ไม้ขีดไฟ"
วันจันทร์นี้มีเรื่องราวในแวดวงฟุตบอลให้พูดคุยหลายเรื่อง ทั้งในและนอกสนาม
เริ่มที่ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซีและทีมชาติอังกฤษ คดีเหยียดผิวแอนทอน เฟอร์ดินานด์ กองหลังทีมควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ยังอยู่ระหว่างสอบสวน แถมสื่อรายงานว่าตำรวจมีเทปบันทึกเสียง ‘เจที’ เหยียดผิววัยโจ๋อยู่ในมืออีกชุด ถ้าผลการสอบสวนออกมาว่ามีความผิด ปลอกแขนกัปตันทีมชาติต้องหลุดเป็นครั้งที่ 2 และอาจหลุดยาวถ้าต้องเข้าไปชดใช้กรรมในคุก
หนักใจแทน ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ที่ต้องพบปัญหากัปตันทีมครั้งแล้วครั้งเล่า หลังพาทีมเข้าไปเล่นยูโร 2012 รอบสุดท้าย การทำทีมน่าจะราบรื่น ปราศจากปัญหานอกสนาม แต่สิ่งไม่ควรเกิดกลับเกิดขึ้นจนได้ คาเปลโล่เปรยกับสื่ออังกฤษว่าเขาไม่เคยเห็นการเหยียดผิวในวงการฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งแสดงนัยว่าเขาต้องการช่วย ‘เจที’ ให้ได้สวมบทกัปตันทีมต่อไป
แต่อังกฤษไม่ใช่อิตาลี ที่พฤติกรรมเหยียดผิวไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เรื่องที่คาเปลโล่ซึ่งเป็นชาวอิตาลีคิดว่าเล็ก อาจไม่เล็กก็ได้
แม้อายุย่าง 36 ปี ชื่อเดวิด เบ็คแฮม ยังหอม ทีมปารีส ในลีก เอิง อยากได้ตัวขนาดลงทุนตัดเสื้อล่วงหน้า ทั้งๆ ที่นักเตะยังไม่หมดสัญญากับแอล.เอ. กาแลกซี ในเมเจอร์ ลีก
ข่าวลือล่าสุดปูดว่า เดวิด เบ็คแฮม ต้องการมีส่วนร่วมกับทีมฟุตบอลสหราชอาณาจักรในโอลิมปิก เกมส์ เขาจึงอยากเล่นในพรีเมียร์ลีกมากกว่า โดยเฉพาะกับทีมในลอนดอนชื่อทอตแน่ม ฮอตสเปอร์
หรือว่าแบ็คแฮมต้องการขึ้นค่าจ้างจากทีมปารีสจากการเซ็นสัญญาครั้งสุดท้ายก้อนใหญ่กว่าที่สโมสรชั่งกิโลฯ เตรียมไว้ เรื่องนี้น่าติดตาม
ฤดูหนาวใกล้เข้ามาทุกขณะ สัปดาห์หน้าลีกยุโรปจะหยุดให้เกมทีมชาติ ทีมต่างๆ จะได้เวลาปรับปรุงพัฒนาฟอร์มให้เข้าที่เข้าทาง นักเตะที่บาดเจ็บได้ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแกร่ง ทีมในพรีเมียร์ลีก นับแต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน, วูล์ฟ, วีแกน ล้วนต้องการช่วงเวลานี้ทั้งสิ้น
ฟอร์มคืนวันเสาร์เป็นตัวอย่างที่ดี แมนฯ ยูฯ เล่นในรังเอาชนะซันเดอร์แลนด์ 1 – 0 เด็กเก่า เวส บราวน์ ทำเข้าประตูตัวเอง ลิเวอร์พูลเล่นในรังกับน้องใหม่สวอนซีเสมอแบบไม่มีประตู เคนนี่ เดลกลิช มีงานมากกว่าที่คิดเอาไว้ เชลซีบุกไปเฉือนแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0 – 1 ซึ่งไม่ใช่ฟอร์มของทีมจะเป็นแชมป์ เอฟเวอร์ตันที่เคยแข็งแกร่งยังไม่น่าเชื่อถือ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงบุกเฉือนควีนส์ปาร์คฯ 2 – 3 ดูน่าพอใจ แต่เสียให้เจ้าบ้าน 2 ประตู รูปฟอร์มมันพร่องไปเล็กน้อย พรีเมียร์ลีกยังเหลือ 27 เกม แถมซิตี้ต้องเล่นถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย ถ้าแผงหลังยังมีปัญหาจะยืนระยะยาก
ทีมที่ฟอร์มฉูดฉาดก่อนฤดูหนาวกลายเป็นอาร์เซนอล ที่เก็บชัยชนะสวยหรู 4 เกมติดต่อกัน จากเกือบท้ายตารางตอนเปิดฤดูกาลพุ่งพรวดขึ้นมาอยู่อันดับ 7 มีคะแนน 19 เท่าลิเวอร์พูล แต่ผลประตูได้เสียน้อยกว่า คืนวันเสาร์เปิดบ้านถล่มเวสต์บรอมวิช 3 – 0 พอชี้ให้เห็นว่าเกมรับที่หลวมโพรกกับมาแข็งแกร่ง หลังนักเตะบาดเจ็บหลับมาเกือบพร้อมหน้า นักเตะซื้อใหม่อย่างแพร์ มาร์แตซัคเกอร์กับจู่กับโธมัส แฟร์มาเล่น ได้อย่างรู้ใจ นักเตะซื้อใหม่อย่างแชร์วินโญ่ ยืนทำเกมแผงหน้าได้อย่างน่ากลัว ทั้งการกลับมาเล่นอย่างสุดยอดของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคมย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับทีมอื่นๆ
ต้นฤดูกาลอาร์แซน เวนเกอร์ ถูกด่าโทษฐานขายไข่ลูกยอดอย่างเชส ฟราเบกัส กับซาเมียร์ นาสรี่ ออกไป แถมมีข่าวสโมสรเตรียมหาผู้จัดการทีมคนอื่นมาแทน ตอนนี้เวนเกอร์กลับมาลุ้นอันดับ ‘ท็อปโฟร์’ โอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ยังไม่ปิดสนิท ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เก็บได้ 8 คะแนน อยู่อันดับ 1 ของกลุ่ม F เข้ารอบน็อกเอ้าต์ไปแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์
แฟน ๆ ‘ไอ้ปืนใหญ่’ ได้ยิ้มแย้มแจ่มใส หลังทุกข์ตรมโศกเศร้าตลอด 5 – 6 เกมแรกของฤดูกาล ยามนี้ลูกฟุตบอลเปลี่ยนจากสีดำ - ขาวกลายเป็นสีชมพู น่าอิจฉาจริงๆ
วันจันทร์นี้มีเรื่องราวในแวดวงฟุตบอลให้พูดคุยหลายเรื่อง ทั้งในและนอกสนาม
เริ่มที่ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซีและทีมชาติอังกฤษ คดีเหยียดผิวแอนทอน เฟอร์ดินานด์ กองหลังทีมควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ยังอยู่ระหว่างสอบสวน แถมสื่อรายงานว่าตำรวจมีเทปบันทึกเสียง ‘เจที’ เหยียดผิววัยโจ๋อยู่ในมืออีกชุด ถ้าผลการสอบสวนออกมาว่ามีความผิด ปลอกแขนกัปตันทีมชาติต้องหลุดเป็นครั้งที่ 2 และอาจหลุดยาวถ้าต้องเข้าไปชดใช้กรรมในคุก
หนักใจแทน ฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ที่ต้องพบปัญหากัปตันทีมครั้งแล้วครั้งเล่า หลังพาทีมเข้าไปเล่นยูโร 2012 รอบสุดท้าย การทำทีมน่าจะราบรื่น ปราศจากปัญหานอกสนาม แต่สิ่งไม่ควรเกิดกลับเกิดขึ้นจนได้ คาเปลโล่เปรยกับสื่ออังกฤษว่าเขาไม่เคยเห็นการเหยียดผิวในวงการฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งแสดงนัยว่าเขาต้องการช่วย ‘เจที’ ให้ได้สวมบทกัปตันทีมต่อไป
แต่อังกฤษไม่ใช่อิตาลี ที่พฤติกรรมเหยียดผิวไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เรื่องที่คาเปลโล่ซึ่งเป็นชาวอิตาลีคิดว่าเล็ก อาจไม่เล็กก็ได้
แม้อายุย่าง 36 ปี ชื่อเดวิด เบ็คแฮม ยังหอม ทีมปารีส ในลีก เอิง อยากได้ตัวขนาดลงทุนตัดเสื้อล่วงหน้า ทั้งๆ ที่นักเตะยังไม่หมดสัญญากับแอล.เอ. กาแลกซี ในเมเจอร์ ลีก
ข่าวลือล่าสุดปูดว่า เดวิด เบ็คแฮม ต้องการมีส่วนร่วมกับทีมฟุตบอลสหราชอาณาจักรในโอลิมปิก เกมส์ เขาจึงอยากเล่นในพรีเมียร์ลีกมากกว่า โดยเฉพาะกับทีมในลอนดอนชื่อทอตแน่ม ฮอตสเปอร์
หรือว่าแบ็คแฮมต้องการขึ้นค่าจ้างจากทีมปารีสจากการเซ็นสัญญาครั้งสุดท้ายก้อนใหญ่กว่าที่สโมสรชั่งกิโลฯ เตรียมไว้ เรื่องนี้น่าติดตาม
ฤดูหนาวใกล้เข้ามาทุกขณะ สัปดาห์หน้าลีกยุโรปจะหยุดให้เกมทีมชาติ ทีมต่างๆ จะได้เวลาปรับปรุงพัฒนาฟอร์มให้เข้าที่เข้าทาง นักเตะที่บาดเจ็บได้ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแกร่ง ทีมในพรีเมียร์ลีก นับแต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน, วูล์ฟ, วีแกน ล้วนต้องการช่วงเวลานี้ทั้งสิ้น
ฟอร์มคืนวันเสาร์เป็นตัวอย่างที่ดี แมนฯ ยูฯ เล่นในรังเอาชนะซันเดอร์แลนด์ 1 – 0 เด็กเก่า เวส บราวน์ ทำเข้าประตูตัวเอง ลิเวอร์พูลเล่นในรังกับน้องใหม่สวอนซีเสมอแบบไม่มีประตู เคนนี่ เดลกลิช มีงานมากกว่าที่คิดเอาไว้ เชลซีบุกไปเฉือนแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0 – 1 ซึ่งไม่ใช่ฟอร์มของทีมจะเป็นแชมป์ เอฟเวอร์ตันที่เคยแข็งแกร่งยังไม่น่าเชื่อถือ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงบุกเฉือนควีนส์ปาร์คฯ 2 – 3 ดูน่าพอใจ แต่เสียให้เจ้าบ้าน 2 ประตู รูปฟอร์มมันพร่องไปเล็กน้อย พรีเมียร์ลีกยังเหลือ 27 เกม แถมซิตี้ต้องเล่นถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย ถ้าแผงหลังยังมีปัญหาจะยืนระยะยาก
ทีมที่ฟอร์มฉูดฉาดก่อนฤดูหนาวกลายเป็นอาร์เซนอล ที่เก็บชัยชนะสวยหรู 4 เกมติดต่อกัน จากเกือบท้ายตารางตอนเปิดฤดูกาลพุ่งพรวดขึ้นมาอยู่อันดับ 7 มีคะแนน 19 เท่าลิเวอร์พูล แต่ผลประตูได้เสียน้อยกว่า คืนวันเสาร์เปิดบ้านถล่มเวสต์บรอมวิช 3 – 0 พอชี้ให้เห็นว่าเกมรับที่หลวมโพรกกับมาแข็งแกร่ง หลังนักเตะบาดเจ็บหลับมาเกือบพร้อมหน้า นักเตะซื้อใหม่อย่างแพร์ มาร์แตซัคเกอร์กับจู่กับโธมัส แฟร์มาเล่น ได้อย่างรู้ใจ นักเตะซื้อใหม่อย่างแชร์วินโญ่ ยืนทำเกมแผงหน้าได้อย่างน่ากลัว ทั้งการกลับมาเล่นอย่างสุดยอดของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคมย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับทีมอื่นๆ
ต้นฤดูกาลอาร์แซน เวนเกอร์ ถูกด่าโทษฐานขายไข่ลูกยอดอย่างเชส ฟราเบกัส กับซาเมียร์ นาสรี่ ออกไป แถมมีข่าวสโมสรเตรียมหาผู้จัดการทีมคนอื่นมาแทน ตอนนี้เวนเกอร์กลับมาลุ้นอันดับ ‘ท็อปโฟร์’ โอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ยังไม่ปิดสนิท ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เก็บได้ 8 คะแนน อยู่อันดับ 1 ของกลุ่ม F เข้ารอบน็อกเอ้าต์ไปแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์
แฟน ๆ ‘ไอ้ปืนใหญ่’ ได้ยิ้มแย้มแจ่มใส หลังทุกข์ตรมโศกเศร้าตลอด 5 – 6 เกมแรกของฤดูกาล ยามนี้ลูกฟุตบอลเปลี่ยนจากสีดำ - ขาวกลายเป็นสีชมพู น่าอิจฉาจริงๆ