“คีย์แมน” ช้างศึก ทวงทองซีเกมส์

ASTVผู้จัดการรายวัน – เหลืออีกเพียง24วัน มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่26ณ กรุงจาการ์ตา และปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย จะได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 11–22 พฤศจิกายน 2554 หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่แฟนกีฬาชาวไทยตั้งความหวังไว้มากที่สุด หนีไม่พ้นภารกิจทวงแชมป์สมัยที่ 9 ในรอบสิบปีหลังสุดของขุนพลแข้งเลือดใหม่ ภายใต้การคุมทีมของ เกษม จริยวัฒนวงศ์ และ ประพล พงษ์พานิช หัวหน้าผู้ฝึกสอน โดยมี “เจ้าแซม” รณชัย รังสิโย กองหน้าดาวเด่น บีอีซี เทโรศาสน รวมถึงผู้เล่นหน้าใหม่ฝีเท้าดีเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการล่าเหรียญทองครั้งนี้

โดย เกษม จริยวัฒนวงศ์ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดลุย “อิเหนาเกมส์” ได้เรียกนักเตะที่ผ่านการตัดตัวทั้งหมด 20 ราย เข้ารายงานตัวฝึกซ้อมและฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับภารกิจครั้งสำคัญ แม้ปราศจากผู้เล่นจากทีมชุดใหญ่อย่าง กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารฝีมือดีจากเมืองทองฯ ยูไนเต็ด และ ธีราธร บุญมาทัน แบ็คซ้ายดาวรุ่งของ บุรีรัมย์ พีอีเอ มาเสริมทีม แต่ “บิ๊กกาเซ็ม” มั่นใจด้วยศักยภาพทีมชุดนี้ที่นำมาโดย รณชัย รังสิโย, อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ซึ่งเพิ่งกลับมาจากชุบตัวที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี รวมถึงเลือดใหม่อย่าง สารัช อยู่เย็น มีทีเด็ดพอที่จะพาทีมช้างศึกกลับมาผงาดเป็นเบอร์ 1 แห่งวงการลูกหนังอาเซียนอีกครั้ง

ซึ่ง รณชัย กัปตันทีมวัย 23 ปี ลั่นขอทำผลงานให้เต็มที่ “ผมรู้สึกกดดันพอสมควรในการรับใช้ทีมชาติไทยชุดนี้ เพราะถือเป็นภารกิจที่ยากยิ่งสำหรับการทวงแชมป์ฟุตบอลซีเกมส์กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่แฟนบอลต้องผิดหวังกับผลงานในคราวก่อนที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นกัปตันทีมชุดนี้ ผมก็ตั้งเป้าพาทีมกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้ง เพื่อลบความผิดหวังครั้งก่อนให้ได้”

ด้าน อุกฤษณ์ วงศ์มีมา นายด่านดาวรุ่งค่ายบุรีรัมย์ เอฟซี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ “บิ๊กกาเซ็ม” ให้ความมั่นใจเป็นพิเศษ กล่าวเช่นกันหลังบินด่วนกลับมาจากอังกฤษเพื่อสมทบกับทีม “ผมไม่รู้สึกกดดันมากนักเมื่อเทียบกับซีเกมส์ครั้งก่อน ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นและการได้ฝึกซ้อมกับเลสเตอร์ ซิตี ทำให้ฟอร์มดีขึ้น และผมก็หวังว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมดนั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับการลงเฝ้าเสาให้ทีมชาติไทยครั้งนี้”

ส่วน “เจ้าตัง” สารัช อยู่เย็น กองกลาง “กิเลนทะเลใต้” เอฟซี ภูเก็ต ทีมแห่งศึกดิวิชั่น 1 ไทย ที่ติดทีมชาติชุดซีเกมส์เป็นครั้งแรกเผยบ้างว่า“ในฐานะที่เป็นหน้าใหม่ของทีมชุดนี้ ทำให้ผมรู้สึกกดดันมากเป็นพิเศษ แต่หลังจากได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงได้แข้งรุ่นพี่และสตาฟโค้ชช่วยกันปรับจูนก็ทำให้ตัวเองผ่อนคลายลง ดังนั้นหากได้รับโอกาสลงสนามผมก็จะทำผลงานให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าลูกยิงไกลจากแถวสองและการวางบอลอันเป็นอาวุธหลักของผมน่าจะเป็นประโยชน์กับทีมไม่มากก็น้อย”

ขณะที่ เกษม แสดงทรรศนะถึง 3 แข้งคีย์แมน “ช้างศึกไทย” ชุดนี้ด้วยว่า “สำหรับ รณชัย มีศักยภาพการทำประตูที่ดี พิสูจน์ได้จากผลงานในระดับสโมสรไทยลีก ซึ่งผมมองว่าซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นการแจ้งเกิดของ รณชัย อย่างเต็มตัว ส่วน อุกฤษณ์ การได้ไปร่วมซ้อมกับเลสเตอร์ จะนำเอาประสบการณ์ความแน่นอนมาช่วยส่งเสริมทีมได้แน่นอน ด้าน สารัช ถือเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่น่าจับตามองยิ่งชั่วโมงนี้ เพราะเป็นนักเตะสไตล์กล้าเล่น ทะลุทะลวงเปิดเกมให้ทีมได้ ที่สำคัญลูกยิงไกลสามารถหวังผลได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์”

อย่างไรก็ตาม “บิ๊กกาเซ็ม” ทิ้งท้ายเชิงปรามลูกทีมห้ามประมาทเป็นอันขาด เนื่องจากผลงานของทัพนักเตะไทยใน “เวียงจันทน์เกมส์ 2009” ถือเป็นบทเรียนชั้นดีสำหรับการเตรียมทีมบุกแดนอิเหนาครั้งนี้ “หากทุกคนยังจำได้ นักเตะที่ลงแข่งซีเกมส์คราวก่อนต่างมีศักยภาพสูงพอที่จะคว้าเหรียญทองได้ไม่ยาก แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นตามที่หวัง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเตรียมทีมครั้งนี้ นอกจากทักษะและสภาพร่างกายของนักเตะที่ต้องฟิตสมบูรณ์ เมื่อลงไปทำหน้าที่ในสนามก็ไม่ควรประมาทคู่ต่อสู้เป็นอันขาด แม้ภารกิจครั้งนี้ค่อนข้างยาก เพราะคู่แข่งอย่าง มาเลเซีย แชมป์เก่า หรือ อินโดนีเซีย เจ้าภาพต่างเป็นทีมที่น่ากลัว แต่ผมและลูกทีมก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อลบความผิดหวังจากคราวก่อนให้จงได้”