ASTVผู้จัดการรายวัน - ศึกเพลย์ออฟ เฟดเอ็กซ์ คัพ ของกอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ เดินทางมาถึงรายการสุดท้ายของซีรีส์ คือรายการ "ทัวร์ แชมเปียนชิป" แข่งขันที่สนาม อีสต์ เลก กอล์ฟ คลับ ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน 2554 โดยรายการนี้นอกจากมีเงินรางวัลรวมชิงชัยจำนวน 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 240 ล้านบาท) แล้ว ยังตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะคะแนนเฟดเอ็กซ์ คัพ เพื่อรับเงินโบนัสก้อนใหญ่จำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 300 ล้านบาท)
หลังจบบีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป รายการที่ 3 ของศึกเพลย์ออฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักกอล์ฟที่ทำคะแนนเฟดเอ็กซ์ คัพ ติด 30 อันดับแรกผ่านเข้ามาสู่รายการทัวร์ แชมเปียนชิป โดยก่อนเริ่มการแข่งขันสัปดาห์นี้คะแนนถูกเซตใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิ์ชนะเฟดเอ็กซ์ คัพ แต่เพียง 5 อันดับแรกเท่านั้นที่สามารถกำหนดชะตาตัวเอง ซึ่งหมายความว่าถ้าหากคว้าชัยบนสนามอีสต์ เลก ก็รับเงินโบนัสทันที ส่วนอันดับอื่นๆยังต้องลุ้นอีกต่อให้พวกที่อยู่ 5 อันดับแรกผลงานแย่ โดยท้อป 5 ที่มีสิทธิ์ซิวพ็อกเกตมันนี 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯเป็นใครบ้างมีดังนี้
1. เวบบ์ ซิมป์สัน รั้งบนหัวตารางคะแนนจากฟอร์มการเล่นที่กำลังเข้าฝัก นอกจากคว้าแชมป์ดอยช์แบงค์ แชมเปียนชิป รายการที่ 2 ของศึกเพลย์ออฟและเป็นแชมป์ที่ 2 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ที่แล้ว ยังเพิ่งจบอันดับ 5 ร่วมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยผลงานล่าสุดนั้นถือเป็นการจบท้อปเทนรายการที่ 10 ของโปรวัย26 ปีในฤดูกาลนี้ สถิติเป็นรองเพียง ลุก โดนัลด์ สวิงมือ 1 ของโลกที่จบท้อปเทน 12 รายการ
ซิมป์สัน ยังพออุ่นใจอีกเล็กน้อยสำหรับโอกาสคว้าเงินโบนัส เพราะสถิติที่ผ่านมาผู้รั้งอันดับหนึ่งก่อนลงเล่นรายการทัวร์ แชมเปียนชิป มักเป็นผู้ชนะเฟดเอ็กซ์ คัพ คือ ไทเกอร์ วูดส์ (2007, 2009) และ วีเจย์ ซิงห์ (2008) ยกเว้นปีที่แล้วที่ จิม ฟิวริก กระโดดจากอันดับ 11 มาคว้าเงินโบนัส เนื่องจาก แมตช์ คูชาร์ ผู้นำตารางคะแนน ณ เวลานั้นฟอร์มหลุดจบแค่ 25 ร่วมบนสนามอีสต์ เลก
2. ดัสติน จอห์นสัน หลายคนคิดว่าโปรวัย 27 ปีมีดีเพียงแค่การตีไกล เนื่องจากติด 4 อันดับแรกในระยะการไดร์ฟของทัวร์มาตลอดนับแต่เป็นสมาชิกของทัวร์ แต่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จอห์นสัน พัฒนาในส่วนของการเล่นบนกรีนจนดีขึ้นเป็นลำดับ จากที่เคยมีสถิติ 63.7 เปอร์เซนต์เป็นอันดับ 129 ของทัวร์ เมื่อปี 2008 แต่ฤดูกาลนี้มีสถิติ 68.5 เปอร์เซนต์เป็นอันดับ 17 ของทัวร์ และเกมการเล่นที่ครบเครื่องก็ทำให้เจ้าตัวคว้าแชมป์เดอะ บาร์เคลย์ส รายการแรกของศึกเพลย์ออฟ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
3. จัสติน โรส เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ติดท้อป 5 ของตารางคะแนนเฟดเอ็กซ์ คัพ มาตั้งแต่เริ่มแรกของศึกเพลย์ออฟ โดยชัยชนะจากรายการบีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้โปรวัย 31 ปีทะยานจากอันดับ 34 ขึ้นมารั้งอันดับ 3 บนตารางคะแนน สำหรับการเข้าร่วมชิงชัยรายการทัวร์ แชมเปียนชิป นอกเหนือจากความมั่นใจที่พกมาเต็มเปี่ยมแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกประการคือผลงานของ โรส บนสนามอีสต์ เลก 2 ครั้งหลังสุด สามารถทำสกอร์ดีกว่าอีเวนพาร์ 5 จาก 8 รอบหรือคิดเป็น 62.5 เปอร์เซนต์ ซึ่งดีที่สุดเมื่อเทียบกับผู้เล่นท้อป 5 คนอื่น
4. ลุก โดนัลด์ เป็นนักกอล์ฟที่จบท้อปเทนมากที่สุดจำนวน 12 รายการโดยคว้าแชมป์ 1 รายการจากศึกแอคเซนเจอร์ แมตช์เพลย์ แชมเปียนชิป เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ความคงเส้นคงวาดังกล่าวก็ทำให้โปรชาวอังกฤษกลายเป็นมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน นอกจากนี้ก้านเหล็กวัย 33 ปียังอาจคว้ารางวัลผู้เล่นแห่งปีของพีจีเอ ทัวร์ ด้วย ถ้าหากผลงานในรายการทัวร์ แชมเปียนชิป ดีกว่าเมื่อปีที่แล้วซึ่งเป็นรองแชมป์ โดยเปรียบเทียบกับ แมตช์ คูชาร์ เจ้าของตำแหน่งผู้เล่นแห่งปีเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งจบท้อปเทน 11 รายการและชนะรายการเดียว ดังนั้น โดนัลด์ จึงมีโอกาสไม่น้อยเช่นกัน
5. แมตช์ คูชาร์ เป็นนักกอล์ฟที่ทำคะแนนเฟดเอ็กซ์ คัพ สูงสุดโดยไม่คว้าแชมป์รายการใดเลยในปีนี้แต่จบท้อปเทน 9 รายการ เกมการเล่นของโปรวัย 33 ปีตกลงไปเมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้วโดยเฉพาะการพัตต์และถูกมองว่าโอกาสในรายการทัวร์ แชมเปียนชิปน้อยกว่าท้อป 5 คนอื่น อย่างไรก็ตามมองข้ามไม่ได้ เพราะ คูชาร์ เค้นฟอร์มเก่งออกมาเพื่อแก้ตัวจากการพลาดเงินโบนัสให้แก่ ฟิวริก เมื่อปีที่แล้ว
