เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ จ่าฝูงศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก ควักกระเป๋าจ่าย 12 ล้านบาท ส่งนักเตะดาวรุ่ง 8 ราย เดินทางไปร่วมฝึกซ้อมกับ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี สโมสรชั้นนำในเวทีเดอะแชมเปียนชิป อังกฤษ เป็นเวลา 6 เดือน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา
เมื่อเวลาประมาณ 11.10 น. วันจันทร์ที่ผ่านมา 8 แข้งดาวรุ่งบุรีรัมย์ฯ ออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน BR 069 สายการบิน อีวา แอร์ เพื่อเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ โดยมี "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรเดินทางมาส่งแข้งดาวรุ่งไปเรียนตามหลักสูตรเลสเตอร์ อะคาเดมี
ซึ่งนักเตะที่ได้รับการผลักดันครั้งนี้ ประกอบด้วย กีรติ เขียวสมบัติ, ยศพล เทียงดาห์, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อุกฤษณ์ วงศ์มีมา, ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, ปิยพงษ์ หอมขจร, อาทิตย์ พรหมพันธ์ และ เชาว์วัตน์ วีระชาติ
โดย "บิ๊กเน" เผยกับทีมข่าว MGR Sport ถึงความตั้งใจในการให้โอกาสดาวรุ่งทั้งในทีมบุรีรีมย์ พีอีเอ และ บุรีรัมย์ เอฟซี "ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่นักเตะเยาวชนของไทยได้โอกาสไปฝึกซ้อมกับสโมสรชั้นนำอย่าง เลสเตอร์ ซิตี ซึ่งผู้เล่นอายุเกิน 18 ปีอย่าง กีรติ, อุกฤษณ์, ยศพล และ ชิติพัทธ์ จะไปซ้อมกับทีมสำรองเลสเตอร์ ขณะที่พวกอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่าง ณัฐวุฒิ, ปิยพงษ์, อาทิตย์ และ เชาว์รวัตน์ จะฝึกซ้อมในศูนย์ฝึกเลสเตอร์ อะคาเดมี โดยผมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อให้ดาวรุ่งเหล่านี้ไปอบรมภาษาอังกฤษ เรียนรู้การก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเตะอาชีพ ภายใต้หลักสูตรบริหารการจัดการฟุตบอลอาชีพสมัยใหม่ ภายในระยะเวลา 6 เดือน ค่าเรียนตกคนละ 5,000 ปอนด์ (ประมาณ 250,000 บาท) เมื่อรวมกับค่าเดินทาง ค่ากิน ค่า่อยู่ตลอด 6 เดือนก็ประมาณคนละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปี เมื่อเรียนจบ เราจะต่อวีซ่าให้กลับไปฝึกซ้อมต่ออีกเป็นเวลา 6 เดือน"
"การส่งเด็กไปครั้งนี้ผมเชื่อว่านักเตะจะได้พัฒนาทักษะทั้งพื้นฐาน ความแข็งแกร่งในการเล่นฟุตบอล รวมถึงซึมซับความเป็นมืออาชีพ โดยเราเล็งเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ยิ่ง ไม่ใช่แค่ดาวรุ่งได้ไปและสัมผัสเพียงเท่านั้น แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อกลับมานำไปใช้ในชีวิตจริง นอกจากบุรีรัมย์ฯ จะได้ประโยชน์ ทีมชาติไทยก็จะมีนักเตะสายเลือดใหม่เพื่อลุ้นขึ้นทดแทนรุ่นพี่ๆ ในอนาคตด้วย ส่วนปีหน้าทางสโมสรมีแนวโน้มที่จะส่งเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี ไปหาประสบการณ์ต่างแดนในลักษณะเดียวกัน"
ด้าน "เจ้าป็อป" กีรติ กล่าวเช่นกันว่า "ต้องขอขอบคุณท่านประธานสโมสรที่ให้ผมและน้องๆ ได้โอกาสไปฝึกปรือฝีเท้ากับเลสเตอร์ ซึ่งผมจะพยายามฝึกฝนตัวเองเพื่อกลับมาเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องกว่าเดิม จะได้กลับมาช่วยบุรีรัมย์ พีอีเอ ล่าแชมป์ต่อไปในฤดูกาลหน้า"
ขณะที่ อุกฤษณ์ เผยว่า "ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับโอกาสดีเช่นนี้ ซึ่งผมจะพยายามเก็บเกี่ยวเทคนิค ประสบการณ์ ความรู้ที่ได้จากอังกฤษกลับมาให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยสโมสรและทีมชาติต่อไป ส่วนการที่ทีมชาติต้องการเรียกตัวกลับมาแข่งซีเกมส์ที่อินโดนีเซียปลายปีนี้ ผมก็ยินดีที่จะกลับมาเสมอ"
ซึ่งเรื่องดังกล่าว "บิ๊กเน" ขานรับเป็นการทิ้งท้ายว่า "กรณีที่ อุกฤษณ์ ต้องกลับมาช่วยทีมซีเกมส์ ผมได้คุยกับคุณเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีมแล้ว โดยบอกว่าเด็กจะได้ประโยชน์หากได้อยู่ร่วมฝึกกับเลสเตอร์ และจะเป็นผลดีต่อทีมชาติในอนาคตมากกว่า แต่ถ้าทีมชาติต้องการตัว ผมพร้อมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายให้นักเตะบินกลับมาเก็บตัวกับทีมชาติไทย 2 สัปดาห์ก่อนลุยซีเกมส์"
เมื่อเวลาประมาณ 11.10 น. วันจันทร์ที่ผ่านมา 8 แข้งดาวรุ่งบุรีรัมย์ฯ ออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน BR 069 สายการบิน อีวา แอร์ เพื่อเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ โดยมี "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรเดินทางมาส่งแข้งดาวรุ่งไปเรียนตามหลักสูตรเลสเตอร์ อะคาเดมี
ซึ่งนักเตะที่ได้รับการผลักดันครั้งนี้ ประกอบด้วย กีรติ เขียวสมบัติ, ยศพล เทียงดาห์, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อุกฤษณ์ วงศ์มีมา, ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา, ปิยพงษ์ หอมขจร, อาทิตย์ พรหมพันธ์ และ เชาว์วัตน์ วีระชาติ
โดย "บิ๊กเน" เผยกับทีมข่าว MGR Sport ถึงความตั้งใจในการให้โอกาสดาวรุ่งทั้งในทีมบุรีรีมย์ พีอีเอ และ บุรีรัมย์ เอฟซี "ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่นักเตะเยาวชนของไทยได้โอกาสไปฝึกซ้อมกับสโมสรชั้นนำอย่าง เลสเตอร์ ซิตี ซึ่งผู้เล่นอายุเกิน 18 ปีอย่าง กีรติ, อุกฤษณ์, ยศพล และ ชิติพัทธ์ จะไปซ้อมกับทีมสำรองเลสเตอร์ ขณะที่พวกอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่าง ณัฐวุฒิ, ปิยพงษ์, อาทิตย์ และ เชาว์รวัตน์ จะฝึกซ้อมในศูนย์ฝึกเลสเตอร์ อะคาเดมี โดยผมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อให้ดาวรุ่งเหล่านี้ไปอบรมภาษาอังกฤษ เรียนรู้การก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเตะอาชีพ ภายใต้หลักสูตรบริหารการจัดการฟุตบอลอาชีพสมัยใหม่ ภายในระยะเวลา 6 เดือน ค่าเรียนตกคนละ 5,000 ปอนด์ (ประมาณ 250,000 บาท) เมื่อรวมกับค่าเดินทาง ค่ากิน ค่า่อยู่ตลอด 6 เดือนก็ประมาณคนละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปี เมื่อเรียนจบ เราจะต่อวีซ่าให้กลับไปฝึกซ้อมต่ออีกเป็นเวลา 6 เดือน"
"การส่งเด็กไปครั้งนี้ผมเชื่อว่านักเตะจะได้พัฒนาทักษะทั้งพื้นฐาน ความแข็งแกร่งในการเล่นฟุตบอล รวมถึงซึมซับความเป็นมืออาชีพ โดยเราเล็งเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ยิ่ง ไม่ใช่แค่ดาวรุ่งได้ไปและสัมผัสเพียงเท่านั้น แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อกลับมานำไปใช้ในชีวิตจริง นอกจากบุรีรัมย์ฯ จะได้ประโยชน์ ทีมชาติไทยก็จะมีนักเตะสายเลือดใหม่เพื่อลุ้นขึ้นทดแทนรุ่นพี่ๆ ในอนาคตด้วย ส่วนปีหน้าทางสโมสรมีแนวโน้มที่จะส่งเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี ไปหาประสบการณ์ต่างแดนในลักษณะเดียวกัน"
ด้าน "เจ้าป็อป" กีรติ กล่าวเช่นกันว่า "ต้องขอขอบคุณท่านประธานสโมสรที่ให้ผมและน้องๆ ได้โอกาสไปฝึกปรือฝีเท้ากับเลสเตอร์ ซึ่งผมจะพยายามฝึกฝนตัวเองเพื่อกลับมาเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องกว่าเดิม จะได้กลับมาช่วยบุรีรัมย์ พีอีเอ ล่าแชมป์ต่อไปในฤดูกาลหน้า"
ขณะที่ อุกฤษณ์ เผยว่า "ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับโอกาสดีเช่นนี้ ซึ่งผมจะพยายามเก็บเกี่ยวเทคนิค ประสบการณ์ ความรู้ที่ได้จากอังกฤษกลับมาให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยสโมสรและทีมชาติต่อไป ส่วนการที่ทีมชาติต้องการเรียกตัวกลับมาแข่งซีเกมส์ที่อินโดนีเซียปลายปีนี้ ผมก็ยินดีที่จะกลับมาเสมอ"
ซึ่งเรื่องดังกล่าว "บิ๊กเน" ขานรับเป็นการทิ้งท้ายว่า "กรณีที่ อุกฤษณ์ ต้องกลับมาช่วยทีมซีเกมส์ ผมได้คุยกับคุณเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีมแล้ว โดยบอกว่าเด็กจะได้ประโยชน์หากได้อยู่ร่วมฝึกกับเลสเตอร์ และจะเป็นผลดีต่อทีมชาติในอนาคตมากกว่า แต่ถ้าทีมชาติต้องการตัว ผมพร้อมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายให้นักเตะบินกลับมาเก็บตัวกับทีมชาติไทย 2 สัปดาห์ก่อนลุยซีเกมส์"