คอลัมน์ "ON TRACK" โดย เด็กปั๊ม
สัปดาห์ที่แล้วผมเองเพิ่งจะประมวลรวมเอาผลงานของนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตของไทยที่ไปโลดแล่นในต่างแดนอยู่หมาดๆ พอถึงช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีข่าวฮือฮาตามมาในทันทีเมื่อ "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดวัย 17 ปี เจ้าของลูกถีบบรรลือโลก ได้รับเชิญจากทีมสต็อป แอนด์ โก (SAG) ให้เดินทางไปทดสอบรถโมโตทู ถึงประเทศสเปน
โดยการไปในครั้งนี้ของนักบิดวัย 17 ปี ที่ควงคู่ "ซูเปอร์เบิร์ด" แสน เชยศักดิ์ พี่เลี้ยงคู่ใจไปทดสอบรถที่สนามเชก้า ในสเปน เป็นที่น่าสังเกตว่า เปราเลส มีจุดประสงค์อะไร หลังก่อนหน้านี้ "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงษ์ วโรกร คู่ปรับของแสตมป์ จากทีมปนัดดา เรซซิง ก็เคยได้รับโอกาสดังกล่าวมาแล้วเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำถามที่นี่คือการหาตัวแทนของรัฐภาคย์ ในปี 2012 หรือไม่
การที่นักบิดไทยทั้ง 2 คนมีโอกาสได้ไปทดสอบกับทีมแข่งโมโตทูถึงสเปน แน่นอนว่า ถือเป็นโอกาสดีครับที่ทั้งแสตมป์ และติ๊งโน๊ตจะได้สัมผัสกับการทำงานรวมถึงรถฮอนด้า-HB4 ซึ่งเป็นรถตัวที่ฟีมใช้บิดโมโตทูเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ส่วนประเด็นที่จะดึงคนใดคนหนึ่งไปแทนที่ "ฟีม" นั้นผมเองค่อนข้างมั่นใจว่ายังไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากประสบการณ์ของทั้งคู่ที่ยังมีไม่มากพอในระดับนานาชาติ
ขณะเดียวกันจากการที่ "แสตมป์" ได้รับเชิญจากทีมบอสของสต็อป แอนด์ โก ต้นสังกัดของ "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ มองดูผิวเผินอาจถือเป็นเรื่องดีกับนักบิดไทย แต่ในอีกมุมหนึ่งผมเองมีโอกาสได้คุยกับ "อาเล็ก" ธงชัย วงษ์สวรรค์ ประธานสมาพันธ์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทยถึงประเด็นนักบิดไทยกำลังจะโกอินเตอร์ในครั้งนี้
โดยบิ๊กบอสหนวดงามประจำ ส.บิด 2 ล้อไทย ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องเป็นทีมสต็อป แอนด์ โก (SAG) เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา ทีมแข่งจากสเปนทีมนี้สอบตกเรื่องของการเซ็ตอัพรถให้กับนักบิดของไทยเรา ขณะที่ในปีนี้หากมองผลงานของฟีม นอกจากเจ้าตัวจะมีปัญหาสุขภาพจนโชว์ฟอร์มไม่ออกแล้ว เรื่องของทีมงานก็ยังต้องบอกว่าเซ็ตรถกันไม่เอาอ่าวจริงๆ
ซึ่งประเด็นนี้ผมเองเห็นด้วย 100 เปอร์เซนต์ครับ อย่างในเรซล่าสุดที่มิซาโน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอย่างที่ไหนที่ฟีมต้องลงแข่งโดยไม่มีหัวหน้าช่างดูแลตลอด 3 วันของการแข่งขัน เนื่องจาก อเล็กซ์ ซัลอัต ติดภารกิจสำคัญไปเฝ้าภรรยาที่กำลังจะคลอดลูกแฝด ซึ่งผลที่ออกมารถของฟีมมีปัญหาตลอด 3 วันและเจ้าตัวก็มีปัญหาล้มถึง 3 ครั้งจนไม่จบการแข่งขัน
สรุปแบบรวบรัดตัดความ ไม่ว่าจะเป็นแสตมป์หรือติ๊งโน๊ต หากจะขยับเข้าสู่เวทีแข่งระดับโลก การแข่งขันรุ่น โมโตทรี 250 ซีซี 4 จังหวะ ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกบรรจุแทนที่125 ซีซี ในปีหน้า น่าจะเป็นบันไดขั้นแรกที่เหมาะสมที่สุดในการก้าวไปบิดเวิลด์ จีพี
ส่วนอนาคตของ "ฟีม" ผมยังเชื่อว่าเขายังไม่หมดไฟที่จะบิดต่อในรุ่นโมโตทู แต่หากยังคงเป็นภายใต้สังกัดสต็อป แอนด์ โก เห็นทีพวกเราคงต้องนั่งก่ายหน้าผากกันอีกครั้งเป็นแน่ล่ะครับ
