ASTVผู้จัดการรายวัน-ในขณะที่รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดไทยฮอนด้าสิงห์แซก ยังคงยืนระยะในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกมาได้เป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน แต่จากฟอร์มการบิดที่ตกต่ำอย่างหน้าใจหายในปีนี้ ส่งผลให้มีคำถามเกิดจากคอกีฬาความเร็วเมืองไทยว่าขึ้นว่านอกจาก "ฟีม" แล้วยังพอจะมีดาวรุ่งไทยคนไหนพอที่จะก้าวขึ้นมาแข่งขันในโลกได้บ้าง ซึ่งหนึ่งในนักบิดที่เนื้อหอมที่สุดในเวลานี้หนีไม่พ้น "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดวัย 17 ปี จากจังหวัดชลบุรี
ก่อนหน้านี้ชื่อของ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดดาวรุ่งสังกัดฮอนด้า เอลฟ์ สมาร์ท สปอร์ตทีม อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูของแฟนกีฬาความเร็วบ้านเรามากนัก ทว่าหลังจากกรณีพิพาทบนแทร็กกับหนุ่ม "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงษ์ วโรกร นักบิดจากทีมปนัดดา เรซซิง ในศึกจักรยานยนต์ อาร์ทูเอ็ม ซูเปอร์ไบค์ รุ่น1000โปร ที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิต นครชัยศรี เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ชื่อของนักบิดวัย 17 ปี กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมในสนามแข่งอยู่พักใหญ่ อย่างไรก็ดีด้วยฟอร์มการบิดที่ไปสะดุดตาแมวมองจากทีมแข่งในยุโรป ส่งผลให้ "แสตมป์" มีโอกาสดีที่จะได้ขยับเข้าสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติในฤดูกาลหน้า
ล่าสุดนักบิดสังกัดฮอนด้า เอลฟ์ สมาร์ท สปอร์ตทีม ที่อยู่ในความดูและของ "ซูเปอร์เบิร์ด" แสน เชยศักดิ์ นักบิดคนดังของไทย ได้รับการทาบทามจากทีมสต็อป แอนด์ โก (แซก) ซึ่งเป็นต้นสังกัดของรัฐภาคย์ในศึกโมโตทูชิงแชมป์โลก ดึงตัวไปทดสอบรถโมโตทูเวอร์ชันปี 2010 ที่สนามเซกา เซอร์กิต ประเทศสเปนในช่วงวันที่ 10-11 ก.ย.นี้ หลังจากก่อนหน้านี้ เอดูอาร์โด เปราเลส เจ้าของทีมได้เคยมีการเปิดโอกาสให้กับคู่ปรับอย่าง "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงษ์ ได้ทดลองนำรถคันเดียวกันลงบิดทดสอบมาแล้วในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งหนุ่มแสตมป์เผยผ่าน MGR SPORT ก่อนออกเดินทางไปยังประเทศสเปนในช่วงกลางดึกของคืนวันศุกร์ที่ 9 ก.ย.ว่า "นี่คือโอกาสที่ดีของผมที่ได้ไปร่วมทำงานกับทีมในระดับโมโตทู ผมจำเป็นต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด โดยจะใช้รถฮอนด้า-บิโมตา 600 ซีซี ลงบิดที่สนามในประเทศสเปน ซึ่งผมเองไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องของเวลาต่อรอบ แต่ต้องการที่จะใช้เป็นบันไดในการก้าวขึ้นสู่การแข่งขันระดับโลกในอนาคต"
พร้อมกันนี้ แสตมป์ ที่เคยมีดีกรีไปคว้าแชมป์ในการแข่งขันมาเลเซีย ซูเปอร์ซีรีย์ส 2010 ที่สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย ยังตอบข้อสักถามที่ว่าคิดอย่างไรที่โอกาสของตัวเองที่อาจได้ก้าวขึ้นมาแทนที่รัฐภาคย์ในอนาคตว่า "ในบรรดานักบิดของเมืองไทยรวมถึงในระดับเอเชีย พี่ฟีมคือนักบิดที่ดีที่สุด ฉะนั้นผมคงไม่คิดที่จะก้าวไปแทนที่พี่เขาแน่นอน แต่หนึ่งในเป้าหมายและความฝันของผมรวมถึงนักบิดทุกคนคือการได้เข้าแข่งขันระดับชิงแชมป์โลกไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม"
ขณะเดียวกันนอกจากแสตมป์จะได้รับโอกาสจากทีมสต็อป แอนด์ โก (แซก) ของสเปนแล้ว ยังมีรายงานว่า มีแมวมองของทีมแข่งรุ่นโมโตทรี (MOTO3) จากทั้งอิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ ที่กำลังติดต่อทาบทามนักบิดดาวรุ่งไทยรายนี้ไปเข้าร่วมการแข่งขันโมโตทรีชิงแชมป์โลกในปี 2012 อีกด้วย โดยการแข่งขันรุ่นดังกล่าวสหพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ็ม) มีการปรับกติการด้วยการนำเอารถเครื่องยนต์ 250 ซีซี 4 จังหวะเข้ามาแทนที่การแข่งขันรุ่น 125 ซีซี ในฤดูกาลหน้า
ด้านนายธงชัย วงษ์สวรรค์ สมาคมกีฬาแข่งจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย เผยถึงโอกาสของนักบิดไทยกับการแข่งขันระดับโลกว่า "จริงๆแล้วเวลานี้นักบิดดาวรุ่งของไทยที่มีแววขึ้นชั้นไปสู่ระดับนานาชาติได้มีอยู่ 4-5 คน ซึ่งแสตมป์คือหนึ่งในนั้น เรื่องของฝีมือแน่นอนว่ายังมีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงโดยเฉพาะประสบการณ์ แต่อย่างน้อยการที่เขาไปเข้าตาแมวมองของทั้งทีมโมโตทู และโมโตทรี ก็เป็นการการันตีได้ว่าเด็กคนนี้อนาคตไกลแน่นอน"
ท้ายที่สุดปฏิเสธไม่ได้ว่าการก้าวไปเป็นนักบิดระดับโลกอย่างที่ รัฐภาคย์ รุ่นพี่วัย 23 ปี ยืนระยะมาเป็นปีที่ 5 นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ดีหาก "แสตมป์" สามารถพิสูจน์ความเร็วบนแทร็กให้กับทีมแข่งในยุโรปได้เห็นรวมถึงมีผู้สนับสนุนที่ลงตัว บางทีในฤดูกาล 2012 อาจมีนักบิดไทยไปโลดแล่นในศึกเวิลด์จีพีมากกว่าหนึ่งคนก็เป็นได้