xs
xsm
sm
md
lg

จับเข่าคุย "ทีมบอส" เอ็กซเรย์ "รัฐภาคย์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอดูอาร์โด เปราเลส ทีมบอสสต็อป แอนด์ โก (แซก)
ASTVผู้จัดการรายวัน-ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกมีคิวกลับมาดวลความเร็วกันอีกครั้งในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ที่สาธารณรัฐเช็ก โดยสิ่งที่คอความเร็วชาวไทยยังคงต้องจับตาคือผลงานในช่วง 8 สนามสุดท้ายของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ว่าจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้หรือไม่ ซึ่งคนที่จะมาเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด หนีไม่พ้น เอดูอาร์โด เปราเลส ทีมบอสค่าย สต็อป แอนด์ โก (แซก) ทีมแข่งต้นสังกัดจากประเทศสเปน



นักบิดหนึ่งเดียวของไทยสังกัดทีมไทยฮอนด้าสิงห์แซกทำผลงานในการแข่งขันรุ่นโมโตทู 600 ซีซี ในช่วง 9 สนามแรกของฤดูกาล 2011 ด้วยการเก็บได้เพียง 4 คะแนน รั้งอยู่อันดับ 29 จากนักบิดกว่า 40 คน ในตารางแชมเปียนชิป ซึ่งนับว่าเป็นผลงานที่ไม่น่าประทับใจนัก จนมีคำถามเกิดขึ้นว่า "ฟีม" จะคืนฟอร์มเก่งได้หรือไม่ในช่วง 8 สนามที่เหลือของปีนี้

โดย MGR SPORT มีโอกาสได้สัมภาษณ์ เอดูอาร์โด เปราเลส เจ้าของทีมสต็อป แอนด์ โก (แซก) ซึ่งเป็นทีมบอสประจำตัวนักบิดของไทยมาเป็นเวลา 5 ปีเต็ม ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วง 9 สนามแรก ซึ่งทีมบอสสแปนิชเผยว่า "แน่นอนว่า ผลงานที่ออกมาถือเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับคนไทย เพราะฝีมือระดับฟีมควรจะต้องมีลุ้นท็อป 10 หรือท็อป 15 ได้ แต่ด้วยปัญหาด้านสุขภาพและความมั่นใจทำให้เข้าไม่อยู่ในฟอร์มที่ควรจะเป็น"

"ในเวลานี้ต้องบอกว่าสภาพร่างกายด้านกายภาพของเขาสมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ แต่เรื่องของสมองซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสั่งการบนแทร็กความเร็วในความคิดของผมมองว่าเขายังไม่ร้อย แต่อย่างน้อยจากผลงานสนามล่าสุดที่เยอรมนีฟีมแสดงให้เราเห็นแล้วว่าเขามีจิตใจที่พร้อมจะแข่งขันอยู่ตลอดเวลา" เปราเลสร่ายยาว

พร้อมกันนี้ทีมบอสแซกยังตอบข้อซักถามถึงเรื่องของการเซ็ตอัพรถ ฮอนด้า-FTR ของทีมงาน ที่ดูจะทำเวลาต่อรอบไล่หลังนักบิดกลุ่มหัวแถวอยู่พอสมควรว่า "ช่วงแรกรถของเราอาจมีปัญหาบ้าง แต่หลังผ่าน 2-3 สนามแรก ผมคิดว่าทุกอย่างลงตัวขึ้น ซึ่งในส่วนของทีมมีการทำงานกันอย่างหนัก เรามีเปลี่ยนหัวหน้าทีมช่างจากไซมอน เบลสเดล ชาวอังกฤษมาเป็นอเล็กซ์ ซัลอัต ซึ่งการทำงานของเขากับฟีมก็เป็นไปด้วยดี"

อย่างไรก็ดีเปราเลสยอมรับว่าการเซ็ตอัพรถและการทำเวลาต่อรอบในการแข่งขันรุ่นโมโตทูที่มีแต่คู่แข่งระดับท็อปของโลกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย "การจะเซ็ตอัพรถให้ลงตัวต้องใช้เวลา มีหลายทีมในปีนี้ที่มีปัญหาหนักกว่าเรา ผมอยากจะยกตัวอย่างย้อนไปในปี 2010 ทีมงานสเตฟาน บราเดิล ก็ใช้เวลาเป็นปีในฤดูกาลที่แล้วลองผิดลองถูกกับรถแข่งคาเลกซ์ กว่าที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแถวหน้าของโมโตทูในฤดูกาลนี้

ด้านสไตล์การขับที่หลายคนวิจารณ์ว่าฟีมยังขาดลูกบู๊โดยเฉพาะการกล้าได้กล้าเสียในการแซงคู่แข่งนั้น เปราเลสมองว่า "จุดนี้ผมมองว่าไม่ใช่ปัญหา ฟีมเองเป็นนักขับที่มีสไตล์เป็นของตัวเองคล้ายๆกับดานี เปโดรซา (นักบิดโมโตจีพีของเรปโซลฮอนด้า) ซึ่งเมื่อถึงเวลาต้องแซงหรือต้องบู๊ ฟีมก็เคยทำให้เห็นมาแล้วอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมันต้องขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสด้วย"

ส่วนเป้าหมายในช่วง 8 สนามสุดท้ายเริ่มจากการแข่งขันรายการเช็ก กรังด์ปรีซ์ ที่สนามเบอร์โน เซอร์กิต ในสาธารณรัฐเช็กวันที่ 14 ส.ค.นี้ บอสใหญ่ชาวสเปนมองตามความเป็นจริงว่า "ฟีมจะต้องจบการแข่งขันท็อป 25 ให้ได้ จากนั้นค่อยคิดเรื่องการขยับขึ้นไปต้องติดท็อป 15 เพื่อเก็บคะแนนในตารางแชมเปียนชิป ซึ่งถือเป็นงานหนักพอสมควร"

ท้ายที่สุดทีมบอสคู่บุญเจ้าลิงน้อยยังคงเชื่อมั่นในความสามารถของนักบิดวัย 23 ปี ว่า "ในวันที่ฟีมสมบูรณ์เต็มร้อย เขาคือนักบิดพรสวรรค์ที่มีทั้งเบสิคและความเร็ว เขามีดีที่จะอยู่ในโมโตทูต่อไป รวมถึงมีฝีมือที่จะก้าวขึ้นไปโมโตจีพีในอนาคตได้แน่นอน"
ฟีม-เปราเลส บนกริดสตาร์ท
รัฐภาคย์ มีงานสุดหิน 8 เรซสุดท้าย
รถFTR หมายเลข 14  ยังเร็วไม่พอ
กำลังโหลดความคิดเห็น