ASTV ผู้จัดการรายวัน – หลังจากสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ สะสางปัญหาภายในพร้อมทั้งเตรียมได้สิทธิ์การเป็นสมาชิกของสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา) กลับคืนมาอีกครั้งก็ถึงเวลาที่ขุนพลเสื้อกล้ามไทยจะได้ก้าวสู่สังเวียนระดับนานาชาติแล้ว โดยเริ่มที่การลุยศึกไอบา เวิลด์ แชมเปียนชิป ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน อันเป็นสนามแรกของการคัดเลือกเข้าไปชิงความเป็นหนึ่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก “ลอนดอนเกมส์ 2012” ที่ประเทศอังกฤษ
สำหรับนักชกทั้ง 8 รายที่จะออกเดินทางในวันที่ 18 กันยายนนี้เพื่อไปไล่ล่าตั๋วสู่เมืองผู้ดี ประกอบด้วย รุ่น 49 กก. แก้ว พงษ์ประยูร, รุ่น 52 กก. ฉัตรชัย บุตรดี, รุ่น 56 กก. วรพจน์ เพชรขุ้ม, รุ่น 60 กก. สายลม อาดี, รุ่น 64 กก. วุฒิชัย มาสุข, รุ่น 69 กก. อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์, รุ่น 75 กก. สุริยา ปราสาทหินพิมาย และรุ่น 81 กก. เกรียงไกร สุขคุ้ม
ด้าน จ่าเอกชัยชุมพล ชำนาญมาก หนึ่งในทีมงานผู้ฝึกสอนวิเคราะห์ถึงโอกาสบรรลุเป้าหมายในแต่ละรุ่น เริ่มจากรุ่น 49 กก. แก้ว มีสถิติค่อนข้างดีในการเจอคู่ต่อสู้รุ่นเดียวกันโดยเคยชนะทั้ง ซู ซิหมิง จากจีน, นักชกจากรัสเซียและอินเดีย ส่วนคู่แข่งอื่นๆ น่าจะมาจาก เกาหลีใต้, มองโกเลีย และอุซเบกิสถาน ขยับมาที่รุ่น 52 กก. แม้ อำนาจ รื่นเริง ที่เคยปราบกำปั้นจากทั้ง ฟิลิปปินส์ แชมป์เอเชียนเกมส์ 2010, ยูเครน, อุซเบกิสถาน จะไม่ได้ไปชก แต่ ฉัตรชัย ที่ชนะ อำนาจ ในการคัดเลือกน่าจะเป็นตัวแทนที่ฝากความหวังได้
ในรุ่น 56 กก. วรพจน์ พกดีกรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์หนล่าสุดบวกกับประสบการณ์ไปล่าสิทธิ์ลุยโอลิมปิกหนที่ 3 ในชีวิต แม้จะมีคู่แข่งสำคัญจาก ยูเครน, รัสเซีย, มองโกเลีย แต่ความเจนจัดของ วรพจน์ ทำให้เป็นความหวังสูงสุดของทีมชุดนี้ รุ่น 60 กก. สายลม รอลุ้นกับกำปั้นจาก อินเดีย แชมป์เอเชียนเกมส์และคอมมอนเวลธ์เกมส์, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน หรือ คิวบา ทว่าด้วยฟอร์มล่าสุดของ สายลม ที่กำลังเข้าฝักจึงเป็นอีกรุ่นที่มีลุ้นเช่นกัน
รุ่น 64 กก. คู่แข่งส่วนใหญ่มาจากชาติอดีตสหภาพโซเวียตอย่าง คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน, คีร์กิซสถาน, ยูเครน ส่วน วุฒิชัย ก็เพิ่งได้เหรียญทองแดงจากกวางเจาเกมส์มาจึงพอมีลุ้นสอดแทรกได้บ้าง ข้ามมาที่รุ่น 69 กก. นับว่าเป็นด่านหินสำหรับ อภิเชษฐ์ เนื่องจากมีแชมป์โลกและแชมป์เอเชียนเกมส์อย่าง เซริค ซาปิเยฟ จากคาซัคสถานขวางทางอยู่ รวมทั้งนักมวยจาก อุซเบกิสถาน, จีน, ยูเครน, รัสเซีย ทำให้ต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อย ขณะที่รุ่นใหญ่ทั้ง 75 กก. สุริยา และ 81 กก. เกรียงไกร ซึ่งเต็มไปด้วยนักมวยที่แข็งแกร่งกว่าถูกตั้งความหวังน้อยที่สุด
เมื่อพิจารณาทุกเหลี่ยมมุมแล้ว “เสธ.อ้าย” พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมเสื้อกล้ามไทยคนปัจจุบันกล่าวว่าความหวังในการคว้าโควตาไปชกในลอนดอนเกมส์ 2012 ของสนามที่อาเซอร์ไบจานอยู่ที่ 3 รุ่นเป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะในรุ่นเล็กอย่าง 49 กก., 52 กก. และ 56 กก. ถือว่ามีโอกาสสูง แต่ในขณะเดียวกันก็หวังว่ารุ่นอื่นๆ จะสอดแทรกขึ้นมาสร้างเซอร์ไพรส์ได้บ้าง อย่างไรก็ตาม หากทำไม่ได้ตามเป้าหมายก็ยังมีสนามต่อไปที่ประเทศคาซัคสถานช่วงต้นปีหน้าให้ไล่ล่าตั๋วโอลิมปิกอีก
ในส่วนของนักชก วรพจน์ เพชรขุ้ม วัย 30 ปี ความหวังรุ่น 56 กก.กัปตันทีมชุดนี้กล่าวว่า “แม้จะมีปัญหาของผู้ใหญ่ในสมาคม แต่เราก็ฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องจนตอนนี้ความพร้อมอยู่ที่ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนตัวผมเองตั้งใจว่าจะคว้าสิทธิ์ไปโอลิมปิกให้ได้ที่สนามอาเซอร์ไบจาน เพื่อไปชกที่ซีเกมส์ปลายปีนี้ด้วยความมั่นใจและหมดกังวล ซึ่งโอลิมปิกครั้งนี้น่าจะเป็นหนสุดท้ายที่รับใช้ทีมชาติไทย หลังจากนั้นก็อาจไปรับราชการทหารบกที่ตนเองสังกัดหรือไม่ก็ไปเป็นครูประจำสถาบันการพลศึกษา จ.กระบี่”
ขณะที่ แก้ว พงษ์ประยูร วัย 31 ปี ความหวังรุ่น 49 กก. ก็บอกว่า “ผมมุ่งมั่นว่าจะได้ไปชกในโอลิมปิกที่อังกฤษเป็นอย่างมาก เพราะหากได้ไปแล้วทำผลงานดีก็อาจถือโอกาสนั้นอำลาทีมชาติไทยเลย ซึ่งหลังจากนั้นผมวางแผนเอาไว้ 2 อย่างคือ กลับไปอยู่กับครอบครัว ใช้ชีวิตเป็นข้าราชการทหารที่ จ.เพชรบูรณ์ หรือไม่ก็ลองผันไปชกอาชีพสัก 2-3 ปีขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายในช่วงนั้น” ซึ่งแฟนหมัดมวยชาวไทยต้องคอยติดตามว่าขุนพลเสื้อกล้ามจะได้ไปโลดแล่นบนสังเวียน “เอ็กเซล เอ็กซิบิชัน เซ็นเตอร์” ในกรุงลอนดอนให้เราได้ลุ้นเหรียญทองโอลิมปิกกันกี่รุ่น