คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
ความสับสนทั้งเรื่องราวในชีวิตคู่ของตนเองที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง ระหว่างชีวิตนักเทนนิสอาชีพ กับ นักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูด ดูเหมือนใกล้จะถึงทางตัน ขณะที่ผลงานในสนามของ อังเดร ก็ดูจะเต็มกลืนเข้าไปทุกทีเมื่อเขาลงสนามเหมือนนักเทนนิสที่กำลังร่วงโรยและไร้พลัง
ช่วงเวลา 10 วันที่หวังว่าจะฟื้นคืนชีวิตครอบครัวกับบรู๊ค ชีลด์ที่ “เมาท์ เพลซองต์” (Mount Pleasant) ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น อังเดร ยังรู้สึกถึงช่องว่างที่ยังไม่สามารถเติมเต็มระหว่างเขากับภรรยากสาว ขณะที่อีกใจหนึ่งก็กระหวัดไปถึงการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นสุดท้าย นักเทนนิสหนุ่มจากลาสเวกัส ตัดสินใจฝึกซ้อมหลังจากทำตัวขี้เกียจมานาน และคนที่เขาเลือกที่จะลงสนามเพื่อซ้อมเทนนิสด้วยนั้นเป็นนักเทนนิสสมัครเล่นที่เต็มใจจะลงสนามเป็นคู่ซ้อมให้กับ อดีตมือหนึ่งโลกอย่างอังเดร ด้วยความเต็มใจ
หลังการซ้อมผ่านไปกับนักเทนนิสมือสมัครเล่น ดูเหมือน “เมาท์ เพลซองต์” จะสร้างแต่ความน่าเบื่อให้กับนักเทนนิสหนุ่ม เพราะภรรยาของเขายังคงต้องอยู่กับกองถ่าย การใช้เวลาร่วมกันจึงมีไม่ค่อยมาก สุดท้ายอังเดรตัดสินใจที่จะเดินทางไปเตรียมตัวลงสนามทำการแข่งขันที่สตุ๊ตการ์ต และในระหว่างการเปลี่ยนไฟลท์จากไมอามี่ ไปยัง สตุ๊ทการ์ด นั้นอังเดร ได้พบกับ พีท ที่สนามบินมันเป็นเรื่องบังเอิญ ที่อังเดร เองไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะระหว่างเขากับ พีท นั้นเปรียบเสมือนเพื่อนและศัตรูในเวลาเดียวกัน ขณะที่อังเดรอธิบายความรู้สึกไว้ในบันทึกของตนเองว่า
“บรรดาผู้สื่อข่าวกีฬามักเปรียบเทียบผมกับ พีท อยู่บ่อยครั้ง และพวกเขามักจะเขียนในทำนองชื่นชมพีทมากกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะบุคลิกที่ดูใจดีและอบอุ่นแตกต่างจากผมที่มักจะแสดงความก้าวร้าว และเจ้าอารมณ์อยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นตรงกับผู้สื่อข่าวพวกนั้นคือความกระหายในชัยชนะของพีท เพราะในระหว่างที่ผมกำลังทำเรื่องเหลวไหลและตั้งคำถามกับตนเองเกี่ยวกับเทนนิส พีท กลับเต็มไปด้วย “ไฟ” ในการลงสู่สนาม “ไฟ” ที่สามารถเอาชนะใครก็ได้ หากแต่ “ไฟ”ชนิดนั้นได้ดับมอดลงไปแล้วในตัวผม”
อังเดร ตกรอบแรกในสตุ๊ตการ์ต เป็นการตกรอบแรกที่ทำให้ แบรด กิลเบิร์ต ต้องยื่นข้อเสนอกับนักเทนนิสในความดูแล ด้วยคำพูดที่ว่า “ตลอดฤดูกาลนี้คุณเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตนเอง บางแมทช์แค่คุณพยายามและใส่ใจกับมันคุณก็สามารถเอาชนะได้แต่คุณไม่ทำ ขณะที่ผลงานที่แสดงออกมานั้นเหมือนการประจานตัวเอง เหมือนการทำร้ายตนเอง ถึงเวลานี้คุณมีทางเลือกสองทาง ทางแรก คือเลิกเล่นเทนนิสไปเลย หรือ จะเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมด เพราะมิเช่นนั้นแล้วผมคงทำงานกับคุณต่อไม่ได้”
นั่นคือการยื่นคำขาดจาก โค้ช คู่ใจที่อากัสซี่ เป็นฝ่ายเลือกมาร่วมงาน คำตอบที่เขาให้ กับแบรดกลับไป สั้นๆแต่ได้ใจความว่า “ผมเชื่อว่าตนเองยังไม่อยากอำลาวงการ และยังต้องการจะลงสนามต่อไป ผมคงต้องพึ่งคุณแบรด ช่วยบอกทีว่าผมต้องทำอย่างไรบ้าง”
ความสับสนทั้งเรื่องราวในชีวิตคู่ของตนเองที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง ระหว่างชีวิตนักเทนนิสอาชีพ กับ นักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูด ดูเหมือนใกล้จะถึงทางตัน ขณะที่ผลงานในสนามของ อังเดร ก็ดูจะเต็มกลืนเข้าไปทุกทีเมื่อเขาลงสนามเหมือนนักเทนนิสที่กำลังร่วงโรยและไร้พลัง
ช่วงเวลา 10 วันที่หวังว่าจะฟื้นคืนชีวิตครอบครัวกับบรู๊ค ชีลด์ที่ “เมาท์ เพลซองต์” (Mount Pleasant) ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น อังเดร ยังรู้สึกถึงช่องว่างที่ยังไม่สามารถเติมเต็มระหว่างเขากับภรรยากสาว ขณะที่อีกใจหนึ่งก็กระหวัดไปถึงการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นสุดท้าย นักเทนนิสหนุ่มจากลาสเวกัส ตัดสินใจฝึกซ้อมหลังจากทำตัวขี้เกียจมานาน และคนที่เขาเลือกที่จะลงสนามเพื่อซ้อมเทนนิสด้วยนั้นเป็นนักเทนนิสสมัครเล่นที่เต็มใจจะลงสนามเป็นคู่ซ้อมให้กับ อดีตมือหนึ่งโลกอย่างอังเดร ด้วยความเต็มใจ
หลังการซ้อมผ่านไปกับนักเทนนิสมือสมัครเล่น ดูเหมือน “เมาท์ เพลซองต์” จะสร้างแต่ความน่าเบื่อให้กับนักเทนนิสหนุ่ม เพราะภรรยาของเขายังคงต้องอยู่กับกองถ่าย การใช้เวลาร่วมกันจึงมีไม่ค่อยมาก สุดท้ายอังเดรตัดสินใจที่จะเดินทางไปเตรียมตัวลงสนามทำการแข่งขันที่สตุ๊ตการ์ต และในระหว่างการเปลี่ยนไฟลท์จากไมอามี่ ไปยัง สตุ๊ทการ์ด นั้นอังเดร ได้พบกับ พีท ที่สนามบินมันเป็นเรื่องบังเอิญ ที่อังเดร เองไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะระหว่างเขากับ พีท นั้นเปรียบเสมือนเพื่อนและศัตรูในเวลาเดียวกัน ขณะที่อังเดรอธิบายความรู้สึกไว้ในบันทึกของตนเองว่า
“บรรดาผู้สื่อข่าวกีฬามักเปรียบเทียบผมกับ พีท อยู่บ่อยครั้ง และพวกเขามักจะเขียนในทำนองชื่นชมพีทมากกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะบุคลิกที่ดูใจดีและอบอุ่นแตกต่างจากผมที่มักจะแสดงความก้าวร้าว และเจ้าอารมณ์อยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นตรงกับผู้สื่อข่าวพวกนั้นคือความกระหายในชัยชนะของพีท เพราะในระหว่างที่ผมกำลังทำเรื่องเหลวไหลและตั้งคำถามกับตนเองเกี่ยวกับเทนนิส พีท กลับเต็มไปด้วย “ไฟ” ในการลงสู่สนาม “ไฟ” ที่สามารถเอาชนะใครก็ได้ หากแต่ “ไฟ”ชนิดนั้นได้ดับมอดลงไปแล้วในตัวผม”
อังเดร ตกรอบแรกในสตุ๊ตการ์ต เป็นการตกรอบแรกที่ทำให้ แบรด กิลเบิร์ต ต้องยื่นข้อเสนอกับนักเทนนิสในความดูแล ด้วยคำพูดที่ว่า “ตลอดฤดูกาลนี้คุณเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตนเอง บางแมทช์แค่คุณพยายามและใส่ใจกับมันคุณก็สามารถเอาชนะได้แต่คุณไม่ทำ ขณะที่ผลงานที่แสดงออกมานั้นเหมือนการประจานตัวเอง เหมือนการทำร้ายตนเอง ถึงเวลานี้คุณมีทางเลือกสองทาง ทางแรก คือเลิกเล่นเทนนิสไปเลย หรือ จะเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมด เพราะมิเช่นนั้นแล้วผมคงทำงานกับคุณต่อไม่ได้”
นั่นคือการยื่นคำขาดจาก โค้ช คู่ใจที่อากัสซี่ เป็นฝ่ายเลือกมาร่วมงาน คำตอบที่เขาให้ กับแบรดกลับไป สั้นๆแต่ได้ใจความว่า “ผมเชื่อว่าตนเองยังไม่อยากอำลาวงการ และยังต้องการจะลงสนามต่อไป ผมคงต้องพึ่งคุณแบรด ช่วยบอกทีว่าผมต้องทำอย่างไรบ้าง”
