คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
ความอ่อนไหวทางอารมณ์ของ อังเดร คือจุดเปลี่ยนสำคัญในการแข่งขัน และแมทช์ที่สตุ๊ตการ์ต อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นภายในของ นักเทนนิสหนุ่มได้เป็นอย่างดี
การลงสนามโดยที่จิตใจยังคงอยู่ที่ ลอสแองเจลลิส กับปัญหาที่ยังค้างคาระหว่างเขา และ บรู๊ค ชีลด์ พลันเมื่อปัญหาเพียงแค่พื้นรองเท้าขาด และต้องขอยืมจากคนดูในคอร์ตการแข่งขัน เพราะตนเองไม่ได้เตรียมรองเท้าสำรองมา จึงเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายบนหลังลา พร้อมกับคำถามที่ถามตนเองว่า “เรากำลังทำอะไรอยู่” และท้ายที่สุดอังเดร ต้องเดินออกจากสนามในฐานะผู้แพ้ พร้อมกับความคิดอำลาวงการ
แต่ดูเหมือนสิ่งที่อังเดร คิดจะไม่ได้เป็นจริงไปเสียทุกเรื่อง หลังต้องจบการแข่งขันที่ สตุ๊ตการ์ต ด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และพ่ายแพ้แบบหมดรูป ความคิดอำลาวงการของนักเทนนิสหนุ่มเป็นอันพับไป พร้อมกับการเดินทางสู่แกรนด์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่น ซึ่งอังเดร รู้ดีว่าทั้งสภาพใจและสภาพกายของเขายังไม่พร้อมดี เมื่อชายหนุ่มประสบอุบัติเหตุล้มจนมีแผนที่ศีรษะภายในห้องพัก จนทำให้ปรากฎตัวในรอบแรกด้วยสภาพที่มีพลาสเตอร์ปิดแผนบริเวณหัวคิ้ว ขณะที่หัวเข่าต้องพันผ้ากันปวดเอาไว้
สภาพของนักเทนนิสเช่นอังเดร ที่ต้องลงสนามโดยที่ร่างกายเต็มปรากฎอาการบาดเจ็บอย่างชัดเจน ได้กลายเป็นจุดสนใจของแฟนเทนนิสและสื่อมวลชน ขณะที่คู่แข่งของชายหนุ่มคือนักเทนนิสโนเนมจากอาร์เจนติน่า อังเดร อธิบายถึงลักษณะของ กาสตัน เอตลิส ไว้ในหนังสือของตนเองว่า “เอตลิส เป็นนักเทนนิสหนุ่มที่ผ่านสู่เมนดรอว์จากรอบควอลิฟายด์ มองแค่แวบแรกผมก็รู้สึกได้เลยว่าจะสามารถเอาชนะได้ตั้งแต่ในห้องล๊อกเกอร์รูม แต่ในวันนี้ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ผมอาจแพ้ให้กับ นักเทนนิสจากอาร์เจนติน่า และสร้างประวัติศาสตร์ตกรอบเร็วที่สุดในฐานะแชมป์เก่า”
หากสิ่งที่อากัสซี่ คิดเกิดเป็นผลที่ตรงกันข้าม เพราะนักเทนนิสหน้าใหม่และอ่อนประสบการณ์อย่าง กาสตัน เอตลิส นั้นพลาดเองบ่อยครั้งจนทำให้เห็นจุดอ่อนชัดเจน ซึ่งในท้ายที่สุดอังเดร เป็นฝ่ายก้าวข้ามอุปสรรคแรกในการป้องกันแชมป์มาได้และบันไดดังกล่าวได้ทอดยาวไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ อันทำให้เขาได้พบกับเพื่อนและคู่ปรับเก่า จิม คูเรียร์ นักเทนนิสที่เคยร่วมสถาบัน บอริเทียรี่ มาด้วยกัน
ก่อนลงสนามออสเตรเลียน โอเพ่น นั้น แบรด กิลเบิร์ต ให้กำลังใจอากัสซี่ ซึ่งอยู่ในสภาพไม่พร้อมว่า “อาจมีสิ่งดีๆรออยู่ข้างหน้าที่เมลเบิร์นก็ได้” หากสิ่งดีๆที่แบรด บอกกับ อังเดร คือการได้โค่นคู่ปรับเก่าอย่างจิม คูเรียร์ พร้อมกับรักษามือหนึ่งของโลกเอาไว้ได้ ในเวลานั้น อังเดร อาจไม่เชื่อแต่เมื่อการแข่งขันเดินทางมาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาทำได้สำเร็จด้วยชัยชนะเหนือนักเทนนิสที่ตนเองพ่ายแพ้อย่างยับเยินมาตลอด 6 นัดที่พบกันและผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเพื่อขับเคี่ยวกับ ไมเคิล ชาง นักเทนนิสหนุ่มที่อังเดร รู้ดีว่าจะเล่นอย่างไรเพื่อให้ชนะ
หากในเวลานี้ นาทีนี้ อังเดรไม่ได้ต้องการชัยชนะจาก ไมเคิล ชาง หลังจากที่เขารู้แล้วว่ารอบชิงต้องพบกับบอริส เบคเกอร์ ด้วยสภาพดังกล่าวชายหนุ่มจากลาสเวกัส บอกกับตนเองว่า เขายังไม่พร้อมจะก่อสงครามกับหนุ่มเยอรมัน หากจะต้องพ่ายให้กับไมเคิล ชางในรอบรองชนะเลิศก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด
ความอ่อนไหวทางอารมณ์ของ อังเดร คือจุดเปลี่ยนสำคัญในการแข่งขัน และแมทช์ที่สตุ๊ตการ์ต อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นภายในของ นักเทนนิสหนุ่มได้เป็นอย่างดี
การลงสนามโดยที่จิตใจยังคงอยู่ที่ ลอสแองเจลลิส กับปัญหาที่ยังค้างคาระหว่างเขา และ บรู๊ค ชีลด์ พลันเมื่อปัญหาเพียงแค่พื้นรองเท้าขาด และต้องขอยืมจากคนดูในคอร์ตการแข่งขัน เพราะตนเองไม่ได้เตรียมรองเท้าสำรองมา จึงเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายบนหลังลา พร้อมกับคำถามที่ถามตนเองว่า “เรากำลังทำอะไรอยู่” และท้ายที่สุดอังเดร ต้องเดินออกจากสนามในฐานะผู้แพ้ พร้อมกับความคิดอำลาวงการ
แต่ดูเหมือนสิ่งที่อังเดร คิดจะไม่ได้เป็นจริงไปเสียทุกเรื่อง หลังต้องจบการแข่งขันที่ สตุ๊ตการ์ต ด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และพ่ายแพ้แบบหมดรูป ความคิดอำลาวงการของนักเทนนิสหนุ่มเป็นอันพับไป พร้อมกับการเดินทางสู่แกรนด์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่น ซึ่งอังเดร รู้ดีว่าทั้งสภาพใจและสภาพกายของเขายังไม่พร้อมดี เมื่อชายหนุ่มประสบอุบัติเหตุล้มจนมีแผนที่ศีรษะภายในห้องพัก จนทำให้ปรากฎตัวในรอบแรกด้วยสภาพที่มีพลาสเตอร์ปิดแผนบริเวณหัวคิ้ว ขณะที่หัวเข่าต้องพันผ้ากันปวดเอาไว้
สภาพของนักเทนนิสเช่นอังเดร ที่ต้องลงสนามโดยที่ร่างกายเต็มปรากฎอาการบาดเจ็บอย่างชัดเจน ได้กลายเป็นจุดสนใจของแฟนเทนนิสและสื่อมวลชน ขณะที่คู่แข่งของชายหนุ่มคือนักเทนนิสโนเนมจากอาร์เจนติน่า อังเดร อธิบายถึงลักษณะของ กาสตัน เอตลิส ไว้ในหนังสือของตนเองว่า “เอตลิส เป็นนักเทนนิสหนุ่มที่ผ่านสู่เมนดรอว์จากรอบควอลิฟายด์ มองแค่แวบแรกผมก็รู้สึกได้เลยว่าจะสามารถเอาชนะได้ตั้งแต่ในห้องล๊อกเกอร์รูม แต่ในวันนี้ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ผมอาจแพ้ให้กับ นักเทนนิสจากอาร์เจนติน่า และสร้างประวัติศาสตร์ตกรอบเร็วที่สุดในฐานะแชมป์เก่า”
หากสิ่งที่อากัสซี่ คิดเกิดเป็นผลที่ตรงกันข้าม เพราะนักเทนนิสหน้าใหม่และอ่อนประสบการณ์อย่าง กาสตัน เอตลิส นั้นพลาดเองบ่อยครั้งจนทำให้เห็นจุดอ่อนชัดเจน ซึ่งในท้ายที่สุดอังเดร เป็นฝ่ายก้าวข้ามอุปสรรคแรกในการป้องกันแชมป์มาได้และบันไดดังกล่าวได้ทอดยาวไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ อันทำให้เขาได้พบกับเพื่อนและคู่ปรับเก่า จิม คูเรียร์ นักเทนนิสที่เคยร่วมสถาบัน บอริเทียรี่ มาด้วยกัน
ก่อนลงสนามออสเตรเลียน โอเพ่น นั้น แบรด กิลเบิร์ต ให้กำลังใจอากัสซี่ ซึ่งอยู่ในสภาพไม่พร้อมว่า “อาจมีสิ่งดีๆรออยู่ข้างหน้าที่เมลเบิร์นก็ได้” หากสิ่งดีๆที่แบรด บอกกับ อังเดร คือการได้โค่นคู่ปรับเก่าอย่างจิม คูเรียร์ พร้อมกับรักษามือหนึ่งของโลกเอาไว้ได้ ในเวลานั้น อังเดร อาจไม่เชื่อแต่เมื่อการแข่งขันเดินทางมาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาทำได้สำเร็จด้วยชัยชนะเหนือนักเทนนิสที่ตนเองพ่ายแพ้อย่างยับเยินมาตลอด 6 นัดที่พบกันและผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเพื่อขับเคี่ยวกับ ไมเคิล ชาง นักเทนนิสหนุ่มที่อังเดร รู้ดีว่าจะเล่นอย่างไรเพื่อให้ชนะ
หากในเวลานี้ นาทีนี้ อังเดรไม่ได้ต้องการชัยชนะจาก ไมเคิล ชาง หลังจากที่เขารู้แล้วว่ารอบชิงต้องพบกับบอริส เบคเกอร์ ด้วยสภาพดังกล่าวชายหนุ่มจากลาสเวกัส บอกกับตนเองว่า เขายังไม่พร้อมจะก่อสงครามกับหนุ่มเยอรมัน หากจะต้องพ่ายให้กับไมเคิล ชางในรอบรองชนะเลิศก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด