คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
การต่อสู้ระหว่าง อังเดร และ เบคเกอร์ กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานแห่งการดวลในยูเอส โอเพ่น เพราะการพบกันครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน หากแต่เป็นศึกแห่งการกู้คืนศักดิ์ศรีของ อากัสซี่ ที่เคยถูก “ไอ้หนุ่มเยอรมัน” ปรามาสเอาไว้เมื่อหลังพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในวิมเบิลดัน
หลังจากพลาดในเซตสามจากการยั่วยุของ เบคเกอร์ ด้วยการส่งยิ้มไปให้ บรู๊ค ชีลด์ บนที่นั่งวีไอพี อากัสซี่ พยายามปรับอารมณ์ตนเองให้กลับมามีสมาธิอีกครั้ง เพราะรู้ดีว่าถ้ายังปล่อยอารมณ์ไปตามการยั่วยุของหนุ่มเยอรมัน นั่นหมายถึงการเล่นต่อถึงเซตที่ห้า และ อาจหมายถึงความพ่ายแพ้เพราะสภาพร่างกายของจอมหวดจากลาสเวกัส ในเวลานั้นไม่พร้อมร้อยเปอร์เซนต์
เซตที่สี่ จึงเปรียบเสมือนเซตตัดสินสำหรับอากัสซี่ ขณะที่เบคเกอร์ เองต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในทัวร์นาเมนท์ ซึ่งการเล่นแบบระมัดระวังไม่เปิดเกมบุกมากนักทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างรักษาเกมเสิร์ฟของตนเองอย่างสุดฤทธิ์และ อากัสซี่ เป็นฝ่ายรักษาเกมเสิร์ฟของตนเองขึ้นนำไปก่อนที่ 6-5 และการต่อสู้ดำเนินมาถึงเกมที่ 12 เบคเกอร์ เป็นฝ่ายเสิร์ฟเพื่อต่ออายุของตนเองในแมทช์ออกไปให้ยาวยิ่งขึ้น และดูเหมือนว่า “บิ๊กเสิร์ฟ” จากเยอรมันจะทำได้สำเร็จ เมื่อขึ้นนำอากัสซี่ไปด้วยสกอร์ 40-0 ซึ่งหมายถึงสามเซตพอยท์
แม้จะอยู่ในสถานะได้เปรียบแต่ความกดดันกลับไปอยู่บนสองบ่าของ เบคเกอร์ แม้ใบหน้าจะทำทีว่ายิ้มโดยไร้ความกังวล แต่ในแววตาของจอมหวดจากเยอรมนีกลับฉายแววกังวล ที่จะเก็บเซตของตนเอง ซึ่งความกังวลในแววตาของ เบคเกอร์ ประมวลผลมาเป็นลูกเสิร์ฟแรกที่พลาด และในลูกที่สองเบคเกอร์ ยังเสิร์ฟในน้ำหนักเดียวกับลูกแรก ซึ่งตรงตามที่อังเดร คาดคิดไว้ทำให้เขาไม่พลาดที่จะจัดการกับแต้มดังกล่าว จนกระทั่งเป็นฝ่ายได้เปรียบในการดิวซ์ และ พลิกสถานการณ์จาก สามเซตพอยท์ ให้กลายเป็นแมทช์พอยท์ของตนเอง นับเป็นชัยชนะที่ลบคำปรามาสได้อย่างสิ้นเชิง และนี่คือวิธีของ อังเดร อากัสซี่ ที่ต้องการสอนบทเรียนให้ หนุ่มปากดีจากเยอรมันได้รู้จักเทนนิสอย่างแท้จริง
การต่อสู้ระหว่าง อังเดร และ เบคเกอร์ กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานแห่งการดวลในยูเอส โอเพ่น เพราะการพบกันครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน หากแต่เป็นศึกแห่งการกู้คืนศักดิ์ศรีของ อากัสซี่ ที่เคยถูก “ไอ้หนุ่มเยอรมัน” ปรามาสเอาไว้เมื่อหลังพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในวิมเบิลดัน
หลังจากพลาดในเซตสามจากการยั่วยุของ เบคเกอร์ ด้วยการส่งยิ้มไปให้ บรู๊ค ชีลด์ บนที่นั่งวีไอพี อากัสซี่ พยายามปรับอารมณ์ตนเองให้กลับมามีสมาธิอีกครั้ง เพราะรู้ดีว่าถ้ายังปล่อยอารมณ์ไปตามการยั่วยุของหนุ่มเยอรมัน นั่นหมายถึงการเล่นต่อถึงเซตที่ห้า และ อาจหมายถึงความพ่ายแพ้เพราะสภาพร่างกายของจอมหวดจากลาสเวกัส ในเวลานั้นไม่พร้อมร้อยเปอร์เซนต์
เซตที่สี่ จึงเปรียบเสมือนเซตตัดสินสำหรับอากัสซี่ ขณะที่เบคเกอร์ เองต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในทัวร์นาเมนท์ ซึ่งการเล่นแบบระมัดระวังไม่เปิดเกมบุกมากนักทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างรักษาเกมเสิร์ฟของตนเองอย่างสุดฤทธิ์และ อากัสซี่ เป็นฝ่ายรักษาเกมเสิร์ฟของตนเองขึ้นนำไปก่อนที่ 6-5 และการต่อสู้ดำเนินมาถึงเกมที่ 12 เบคเกอร์ เป็นฝ่ายเสิร์ฟเพื่อต่ออายุของตนเองในแมทช์ออกไปให้ยาวยิ่งขึ้น และดูเหมือนว่า “บิ๊กเสิร์ฟ” จากเยอรมันจะทำได้สำเร็จ เมื่อขึ้นนำอากัสซี่ไปด้วยสกอร์ 40-0 ซึ่งหมายถึงสามเซตพอยท์
แม้จะอยู่ในสถานะได้เปรียบแต่ความกดดันกลับไปอยู่บนสองบ่าของ เบคเกอร์ แม้ใบหน้าจะทำทีว่ายิ้มโดยไร้ความกังวล แต่ในแววตาของจอมหวดจากเยอรมนีกลับฉายแววกังวล ที่จะเก็บเซตของตนเอง ซึ่งความกังวลในแววตาของ เบคเกอร์ ประมวลผลมาเป็นลูกเสิร์ฟแรกที่พลาด และในลูกที่สองเบคเกอร์ ยังเสิร์ฟในน้ำหนักเดียวกับลูกแรก ซึ่งตรงตามที่อังเดร คาดคิดไว้ทำให้เขาไม่พลาดที่จะจัดการกับแต้มดังกล่าว จนกระทั่งเป็นฝ่ายได้เปรียบในการดิวซ์ และ พลิกสถานการณ์จาก สามเซตพอยท์ ให้กลายเป็นแมทช์พอยท์ของตนเอง นับเป็นชัยชนะที่ลบคำปรามาสได้อย่างสิ้นเชิง และนี่คือวิธีของ อังเดร อากัสซี่ ที่ต้องการสอนบทเรียนให้ หนุ่มปากดีจากเยอรมันได้รู้จักเทนนิสอย่างแท้จริง