คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
ความพ่ายแพ้อันเจ็บปวดต่อนักเทนนิสหนุ่มชาวเยอรมัน บอริส เบคเกอร์ ในแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ทำให้อังเดร ต้องเข้าถ้ำของตนเองเพื่อรักษาบาดแผลในใจ หากแต่ในครั้งนี้ บรู๊ค ชีลด์ ไม่ปล่อยให้แฟนหนุ่มอยู่คนเดียวอีกต่อไป เธอพาชายหนุ่มที่เกิดและเติบโตในลาสเวกัส บินตรงไปพักผ่อนบนเกาะส่วนตัวที่มีชื่อว่า อินดิโก ไอส์แลนด์ สภาพของอังเดร ในเวลานั้นเหมือนเป็นคนละคนกับที่ บรู๊ค ชีลด์ เคยรู้จักเธอต้องอยู่กับ อังเดร ผู้แปลกหน้าถึงสองวัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินเข้ามาหาในวันที่สามแล้วบอกว่า “ผมคนเดิมกลับมาแล้วบรู๊ค” และทำให้บรรยากาศในบ้านพักตากอากาศริมทะเล ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น
การได้พักผ่อนหลังจบการแข่งขันโดยไม่รับรู้ข่าวสารจากภายนอกนับเป็นยาขนานเอกที่ทำให้สภาพจิตใจของอังเดร กลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด เขากลับมาลงสนามการแข่งขันอีกครั้ง ประเดิมด้วยรายการ เลกก์ เมสัน เทนนิส คลาสสิก ที่วอชิงตัน ดีซี ซึ่งอังเดร หวังว่าจะเป็นการอุ่นเครื่องให้กับตนเองก่อนถึงการแข่งขันยูเอส โอเพ่น อันเป็นแกรนด์สแลม รายการสุดท้ายของฤดูกาล
อังเดร ลงสนามซ้อมก่อนแข่ง กับ โค้ชคู่ใจแบรด กิลเบิร์ก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ แต่ดูเหมือนสภาพภายนอกไม่มีอะไรที่จะทำให้เจ้ตัวเสียสมาธิได้ ขณะที่แฟนเทนนิสยังคงตามให้กำลังใจข้างสนามเหมือนเช่นเคย ซึ่งอังเดร กล่าวถึงแฟนเทนนิสของตนเองไว้ว่า “ผมยินดีที่จะยืนถ่ายรูปและแจกลายเซ็นแฟนๆ มากกว่าที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เพราะแฟนเทนนิสเหล่านี้คอยให้กำลังใจและยืนหยัดอยู่เคียงข้างผมเรื่อยมา”
หลังการฝึกซ้อม แบรด และ อังเดร ไปหาเครื่องดื่มเย็นๆที่ร้านในย่านเดียวกับสนามซ้อม และทันทีที่ทั้งสองได้ที่นั่ง แบรด ดึงเอาหนังสือพิมพ์ที่เขาพกมาด้วยออกมากางและเปิดฉากพูดถึงบอริส เบคเกอร์ ทันทีเพราะข้อความที่นักเทนนิสหนุ่มชาวเยอรมัน ให้สัมภาษณ์หลังเกมการแข่งขันในนัดที่เอาชนะ อากัสซี่ ได้นั้นถือเป็นการท้าทาย และ มีบางข้อความที่ไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมอาชีพ
“ฝ่ายจัดการแข่งขัน วิมเบิลดัน ให้ค่ากับอังเดร อากัสซี่ มากกว่านักเทนนิสรายอื่นโดยเฉพาะการจัดตารางให้ อังเดร ได้ลงแข่งแต่ในเซนเตอร์คอร์ต เปรียบเสมือนนักเทนนิสที่ได้รับสิทธิพิเศษ ขณะเดียวกัน อังเดร ไม่เคยให้ความสนใจเพื่อนร่วมอาชีพเขามักมองข้ามหัวคนอื่น และ ทำให้คนอื่นเกรงกลัวทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วฝีมือของอากัสซี่ นั้นก็ไม่ได้มีอะไรสักเท่าไร”
แน่นอนว่าบทสัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้ แบรด นั้นแทบจะระงับอารมณ์ไม่อยู่เขากล่าวกับอังเดร ด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ในยูเอส โอเพ่น เธอต้องเขี่ยเจ้าหมอนี่ให้พ้นทางให้ได้”
ความพ่ายแพ้อันเจ็บปวดต่อนักเทนนิสหนุ่มชาวเยอรมัน บอริส เบคเกอร์ ในแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ทำให้อังเดร ต้องเข้าถ้ำของตนเองเพื่อรักษาบาดแผลในใจ หากแต่ในครั้งนี้ บรู๊ค ชีลด์ ไม่ปล่อยให้แฟนหนุ่มอยู่คนเดียวอีกต่อไป เธอพาชายหนุ่มที่เกิดและเติบโตในลาสเวกัส บินตรงไปพักผ่อนบนเกาะส่วนตัวที่มีชื่อว่า อินดิโก ไอส์แลนด์ สภาพของอังเดร ในเวลานั้นเหมือนเป็นคนละคนกับที่ บรู๊ค ชีลด์ เคยรู้จักเธอต้องอยู่กับ อังเดร ผู้แปลกหน้าถึงสองวัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินเข้ามาหาในวันที่สามแล้วบอกว่า “ผมคนเดิมกลับมาแล้วบรู๊ค” และทำให้บรรยากาศในบ้านพักตากอากาศริมทะเล ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น
การได้พักผ่อนหลังจบการแข่งขันโดยไม่รับรู้ข่าวสารจากภายนอกนับเป็นยาขนานเอกที่ทำให้สภาพจิตใจของอังเดร กลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด เขากลับมาลงสนามการแข่งขันอีกครั้ง ประเดิมด้วยรายการ เลกก์ เมสัน เทนนิส คลาสสิก ที่วอชิงตัน ดีซี ซึ่งอังเดร หวังว่าจะเป็นการอุ่นเครื่องให้กับตนเองก่อนถึงการแข่งขันยูเอส โอเพ่น อันเป็นแกรนด์สแลม รายการสุดท้ายของฤดูกาล
อังเดร ลงสนามซ้อมก่อนแข่ง กับ โค้ชคู่ใจแบรด กิลเบิร์ก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ แต่ดูเหมือนสภาพภายนอกไม่มีอะไรที่จะทำให้เจ้ตัวเสียสมาธิได้ ขณะที่แฟนเทนนิสยังคงตามให้กำลังใจข้างสนามเหมือนเช่นเคย ซึ่งอังเดร กล่าวถึงแฟนเทนนิสของตนเองไว้ว่า “ผมยินดีที่จะยืนถ่ายรูปและแจกลายเซ็นแฟนๆ มากกว่าที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เพราะแฟนเทนนิสเหล่านี้คอยให้กำลังใจและยืนหยัดอยู่เคียงข้างผมเรื่อยมา”
หลังการฝึกซ้อม แบรด และ อังเดร ไปหาเครื่องดื่มเย็นๆที่ร้านในย่านเดียวกับสนามซ้อม และทันทีที่ทั้งสองได้ที่นั่ง แบรด ดึงเอาหนังสือพิมพ์ที่เขาพกมาด้วยออกมากางและเปิดฉากพูดถึงบอริส เบคเกอร์ ทันทีเพราะข้อความที่นักเทนนิสหนุ่มชาวเยอรมัน ให้สัมภาษณ์หลังเกมการแข่งขันในนัดที่เอาชนะ อากัสซี่ ได้นั้นถือเป็นการท้าทาย และ มีบางข้อความที่ไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมอาชีพ
“ฝ่ายจัดการแข่งขัน วิมเบิลดัน ให้ค่ากับอังเดร อากัสซี่ มากกว่านักเทนนิสรายอื่นโดยเฉพาะการจัดตารางให้ อังเดร ได้ลงแข่งแต่ในเซนเตอร์คอร์ต เปรียบเสมือนนักเทนนิสที่ได้รับสิทธิพิเศษ ขณะเดียวกัน อังเดร ไม่เคยให้ความสนใจเพื่อนร่วมอาชีพเขามักมองข้ามหัวคนอื่น และ ทำให้คนอื่นเกรงกลัวทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วฝีมือของอากัสซี่ นั้นก็ไม่ได้มีอะไรสักเท่าไร”
แน่นอนว่าบทสัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้ แบรด นั้นแทบจะระงับอารมณ์ไม่อยู่เขากล่าวกับอังเดร ด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ในยูเอส โอเพ่น เธอต้องเขี่ยเจ้าหมอนี่ให้พ้นทางให้ได้”