คอลัมน์ "ON TRACK" โดย เด็กปั๊ม
เอฟวัน 2011 กลับมาดวลความเร็วกันต่อช่วงในครึ่งฤดูกาลหลังกันให้แฟนความเร็วได้หายคิดถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนคงจะได้เห็นกันไปแล้วนะครับว่าทีมงานเรดบูลล์ เรซซิง แก้เกมคู่แข่งอย่างแม็คลาเรนและเฟอร์รารีได้อยู่หมัด จนได้ชัยชนะแบบวัน-ทู จากเซ็บ เวทเทล และมาร์ค เว็บเบอร์ ที่สำคัญยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทีมตรากระทิงแดงได้แชมป์ที่สปา ฟรองโคชองส์ ในศึกเบลเยียม จีพี อีกด้วย
แต่อีกหนึ่งไฮไลท์ของการแข่งขันเบลเยียม จีพี 2011 ที่สื่อสายมอเตอร์สปอร์ตประโคมกันมาอย่างต่อเนื่องก่อนการแข่งขันที่สปาฯ กลับไม่ได้อยู่ที่การลุ้นแชมป์ในกลุ่มหัวแถวครับ ทว่าอยู่ที่การฉลองครบรอบการขับเอฟวันครบ 20 ปีของ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ แชมป์โลก 7 สมัยสังกัดเมอร์เซเดส จีพี ที่หากย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ปี 1991 เจ้าหนูชูมี่วัย 22 ปี มีโอกาสได้ประเดิมแข่งเอฟวันสนามแรกในชีวิตที่แทร็กแห่งนี้
หากย้อนไปในศึกเบลเยียม จีพี 1991 ในครั้งที่ชูมัคเกอร์เปิดซิงกับเอฟวัน ร่วมกับทีมจอร์แดน ต้องบอกว่ากระแสของนักข่าวเยอรมันในเวลานั้นถือว่ามีการจับตาการประเดิมสนามของดาวรุ่งเมืองเบียร์อย่างใกล้ชิดไม่แพ้สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน ทว่าน่าเสียดายที่เรซแรกในชีวิตของเจ้าตัวที่ควอลิฟายได้ถึงอันดับที่ 7 ต้องจบลงเพียงรอบแรกเท่านั้นเนื่องจากรถจอร์แดน 191 มีปัญหาที่ระบบครัชในช่วงการออกสตาร์ท
อย่างไรก็ดีเมื่อพูดถึงสถิติของน้าชูตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผมยังนึกไม่ออกจริงๆครับว่าจะมีใครทำได้แบบเขาหรือไม่ เพราะนอกจากสถิติเจ้าของแชมป์กรังด์ปรีซ์ 91 สนาม ,ตำแหน่งโพลโพซิชัน 68 ครั้ง รวมถึงเป็นผู้ที่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest laps) 76 ครั้ง แล้ว สถิติที่สปาฯของชูมัคเกอร์ก็ยังสุดยอดด้วยการซิวแชมป์เบลเยียม กรังด์ปรีซ์ได้ 6 สมัยซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์
มาถึงวันนี้ แม้ผลงานในการคัมแบ็คกลับมาซิ่งอีกครั้งกับต้นสังกัดปัจจุบันจะไม่ได้เรื่อง จนมีเสียงวิจารณ์ให้พี่แกเลิกขับได้แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าจะขับต่ออีกในปีหน้าจนครบสัญญาที่เซ็นเอาไว้ ซึ่งก่อนการแข่งขันที่เบลเยียมจะเริ่มต้นขึ้นก็มีการคาดการณ์กันว่านักขับวัย 42 ปี จะฉลองครบรอบ 20 ปีในอาชีพนักซิ่งจะออกมาเช่นไร
ก่อนการออกสตาร์ทเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ส.ค. แฟนๆหลายคนรวมถึงตัวผมเองด้วยคงไม่มีใครคิดนะครับว่าอดีตนักซิ่งจอร์แดน,เบเนตอง และเฟอร์รารี จะทำผลงานครบรอบ 20 ปีได้ดีขนาดนี้ ทั้งที่ต้องออกตัวจากกริดที่ 24 ซึ่งเป็นกริดสุดท้าย แต่ท้ายที่สุดแล้วนักขับที่แก่ที่สุดในเอฟวัน 2011 ก็ค่อยๆไล่แซงคู่แข่งไปถึงนิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมจนจบการแข่งขันอันดับที่ 5 ได้สำเร็จ
แม้โดยส่วนตัวผมเองจะไม่ใช่แฟนตัวยงของชูมี่ แต่สิ่งที่เขาแสดงให้ทุกคนเห็นคือใจที่ยังรักในความเร็วอยู่เต็มเปี่ยม การคัมแบ็คกลับสู่เอฟวันอีกครั้งในปีที่ผ่านมาไม่ได้เพื่อเรื่องเงินอย่างที่หลายคนเข้าใจ และบางทีหลังจากที่เขาประกาศรีไทร์แฟนความเร็วอาจจะได้เห็นทีมบอสชื่อมิชาเอล ชูมัคเกอร์ คุมทัพและวางแผนการขับให้กับรุ่นน้องที่พิตวอลล์ก็เป็นได้ ใครจะไปรู้