นิโค รอสเบิร์ก นักขับรถสูตรหนึ่งรูปหล่อแห่งทีมเมอร์เซเดส จีพี งานเข้าชุดใหญ่ตกเป็นข่าวไปให้สัมภาษณ์ในทำนองดูถูกการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกและการแข่งขันกีฬาคนพิการ จนทำเอาแข้งสาวเมืองเบียร์ออกอาการฉุนขาด ขณะที่ล่าสุดเจ้าตัวร่อนจดหมายชี้แจงความบริสุทธิ์ใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รอสเบิร์ก เจ้าของฉายา "ลีโอนาโด ดิคาปริโอ แห่งเอฟวัน" ตกเป็นข่าวไม่สู้ดีหลังให้สัมภาษณ์ระหว่างการแข่งขันยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ ที่เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ในเชิงดูถูกการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกที่กำลังโม่แข้งอยู่ในเยอรมนีเวลานี้ ทั้งยังเอาไปเปรียบเทียบความน่าสนใจกับการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันของคนพิการ
ส่งผลให้ ซาสเคีย บาร์ตูเซียก กองหลังทีม "อินทรีเหล็กหญิง" ออกอาการไม่พอใจ ด้วยการให้สัมภาษณ์โจมตีไปยังนักขับทีมเมอร์เซเดส จีพีว่า "ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าอับอายมากกับคำพูดที่ออกมาจากปากของเขา(รอสเบิร์ก) ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงการไม่ได้รับการศึกษาในตัวนักกีฬารายนี้"
ล่าสุด รอสเบิร์ก ที่เพิ่งจบการแข่งขันอันดับที่ 7 ในศึกยูโรเปียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวซึ่งส่วนหนึ่งมีใจความว่า "ถึงแฟนๆและผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาทุกคน ผมคิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการตีความและเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนของสื่อมวลชนในการให้สัมภาษณ์ของผมที่บาเลนเซีย"
"ผมขอยืนยันว่าในฐานะคนเยอรมัน ผมคือแฟนบอลตัวยงของทีมชาติหญิงชุดนี้ และตามเชียร์พวกเขาให้คว้าแชมป์โลกให้ได้ ขณะเดียวส่วนหนึ่งในคำให้สัมภาษณ์ผมก็ได้พูดถึงการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ทัวนาเมนต์กีฬาที่ผมติดตามอยู่บ้าง ซึ่งมันคือความจริง" รอสเบิร์กร่ายยาว
สำหรับรอสเบิร์กวัย 26 ปี ถือเป็นนักขับที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอนาคตของวงการเอฟวันเทียบเท่ากับลูอิส แฮมิลตัน และเซบาสเตียน เวทเทล โดยในปี 2010 ที่ผ่านมาเจ้าตัวสามารถทำผลงานข่มมิชาเอล ชูมัคเกอร์ รุ่นพี่ในทีมได้อยู่หมัด และเคยตกเป็นข่าวกับทีมดังอย่างเรดบูลล์ ,เฟอร์รารี และแม็คลาเรน มาแล้ว
รอสเบิร์ก เจ้าของฉายา "ลีโอนาโด ดิคาปริโอ แห่งเอฟวัน" ตกเป็นข่าวไม่สู้ดีหลังให้สัมภาษณ์ระหว่างการแข่งขันยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ ที่เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ในเชิงดูถูกการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกที่กำลังโม่แข้งอยู่ในเยอรมนีเวลานี้ ทั้งยังเอาไปเปรียบเทียบความน่าสนใจกับการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันของคนพิการ
ส่งผลให้ ซาสเคีย บาร์ตูเซียก กองหลังทีม "อินทรีเหล็กหญิง" ออกอาการไม่พอใจ ด้วยการให้สัมภาษณ์โจมตีไปยังนักขับทีมเมอร์เซเดส จีพีว่า "ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าอับอายมากกับคำพูดที่ออกมาจากปากของเขา(รอสเบิร์ก) ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงการไม่ได้รับการศึกษาในตัวนักกีฬารายนี้"
ล่าสุด รอสเบิร์ก ที่เพิ่งจบการแข่งขันอันดับที่ 7 ในศึกยูโรเปียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ส่วนตัวซึ่งส่วนหนึ่งมีใจความว่า "ถึงแฟนๆและผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬาทุกคน ผมคิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการตีความและเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนของสื่อมวลชนในการให้สัมภาษณ์ของผมที่บาเลนเซีย"
"ผมขอยืนยันว่าในฐานะคนเยอรมัน ผมคือแฟนบอลตัวยงของทีมชาติหญิงชุดนี้ และตามเชียร์พวกเขาให้คว้าแชมป์โลกให้ได้ ขณะเดียวส่วนหนึ่งในคำให้สัมภาษณ์ผมก็ได้พูดถึงการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ทัวนาเมนต์กีฬาที่ผมติดตามอยู่บ้าง ซึ่งมันคือความจริง" รอสเบิร์กร่ายยาว
สำหรับรอสเบิร์กวัย 26 ปี ถือเป็นนักขับที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอนาคตของวงการเอฟวันเทียบเท่ากับลูอิส แฮมิลตัน และเซบาสเตียน เวทเทล โดยในปี 2010 ที่ผ่านมาเจ้าตัวสามารถทำผลงานข่มมิชาเอล ชูมัคเกอร์ รุ่นพี่ในทีมได้อยู่หมัด และเคยตกเป็นข่าวกับทีมดังอย่างเรดบูลล์ ,เฟอร์รารี และแม็คลาเรน มาแล้ว
