จากผลงานคว้าแชมป์ "วินน์ กริพส์ ฮีเธอร์ ฟารร์ คลาสสิก" และ "เดอะ สกอตต์ โรเบิร์ตสัน เมมโมเรียล"ของ โมรียา จุฑานุกาล จนรั้งอันดับที่ 3 ตารางโปโลกอล์ฟแรงกิ้ง ขณะที่ เอรียา จุฑานุกาล คว้าแชมป์ "โรเล็กซ์ เกิร์ล จูเนียร์", "ยูเอส เกิร์ล จูเนียร์ แชมเปียนชิป" และ "จูเนียร์ พีจีเอ แชมเปียนชิป"จนกลายเป็นมือ 1 ของตารางดังกล่าว ผลงานระดับเอบวกทำให้สองพี่น้องชาวไทยได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในสหรัฐฯ จนตั้งฉายาให้ว่า “ไทยซิสเตอร์” ล่าสุดครอบครัวจุฑานุกาล อันประกอบไปด้วย โมรียา เอรียา และ คุณพ่อสมบูรณ์ ได้เดินทางกลับมายังเมืองไทยเพื่อพักผ่อนหลังจบทัวร์นาเมนท์ ซึ่งทีมข่าว MGR Sport ได้มีโอกาสได้พบปะและพูดคุยกับพวกเธอ รวมไปถึงคุณพ่อสมบูรณ์ ต่อความสำเร็จในปัจจุบันที่กำลังจะสานต่อเป็นอนาคตอันสดใสในฐานะนักกอล์ฟหญิงจากเมืองไทยในแอลพีจีเอ ทัวร์
MGR SPORT : ความรู้สึกที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศในฐานะนักกอล์ฟเยาวชนหญิงไทย
น้องโม : อย่างแรกก็ยอมรับว่ารู้สึกภูมิใจมากที่ได้ปักธงชาติไทยในสนามแข่งขันที่ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งสิ่งเดียวที่อยู่ในใจเสมอหลังการคว้าแชมป์ คือ เรามาในฐานะตัวแทนของประเทศไทย
น้องเม : ส่วนตัวก็รู้สึกตื่นตันใจไม่น้อยกับผลงานที่เกิดขึ้น โดยส่วนหนึ่งของความสำเร็จก็มาจากความรู้สึกที่ตนเองลงสนามในฐานะนักกอล์ฟหญิงของไทย ที่อยากสร้างชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศให้ได้มากที่สุด
MGR SPORT : สิ่งที่คิดว่าเป็นอุปสรรคในการแข่งขันที่สหรัฐอเมริกา
น้องโม : ช่วงแรกก็ต้องบอกว่ามีปัญหามากในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม เนื่องจากสภาพอากาศ ภาษา รวมไปถึงระยะเวลาที่ต่างกัน ส่งผลให้เราจำเป็นต้องพยายามคุ้นเคยกับทุกสิ่งรอบตัวให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ยิ่งจุดหมายของเราคือการคว้าแชมป์มันทำให้เราทั้งคู่ต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
น้องเม : จากที่ได้ประสบการณ์ที่ดีในการเข้าแข่งขันเมื่อฤดูกาลก่อน จึงทำให้รู้ว่าเราควรจะปรับตัวอย่างไรในการลงสนามแข่งขันแต่ละแมตช์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเวลาในแต่ละรัฐ เพราะ บางครั้งที่เราไปแข่งขันในรัฐที่มีเวลาต่างกันมากจะทำให้กระทบถึงเวลาพักผ่อน แต่สำหรับฤดูกาลนี้ปรับตัวได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
MGR SPORT : ความพร้อมล่าสุดก่อนเทิร์นโปรเข้าร่วมการแข่งขัน “แอลพีจีเอ ทัวร์”
น้องโม : ตอนนี้ “โม” อายุ 17 ก็เรียกได้ว่ามีความมั่นใจในระดับหนึ่ง หลังจากที่พิสูจน์ด้วยชัยชนะหลายรายการแต่ส่วนตัวยังคิดว่าต้องหาประสบการณ์เพิ่มเติมอีก นอกจากนั้นแล้วก็อยากลงสนามในรายการของโปรให้มากขึ้น เพื่อดูผลงานก่อนที่จะตัดสินเทิร์นโปร
น้องเม : จากหลายๆ ทัวร์นาเมนต์ที่เราทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมก็ส่งผลให้เรามีความมั่นใจขึ้นมาก แต่เวลานี้ “เม” ยังมีอายุแค่ 16 ยังไม่คิดว่าตนเองจะพร้อมในสนามระดับอาชีพ ยิ่งได้มีประสบการณ์ลงแข่งในสนามอาชีพมาแล้วบ้างทำให้ยังเห็นจุดอ่อนของตนเองอยู่มาก คิดว่ายังต้องใช้เวลาเรียนรู้เพื่อปรับตัวก่อนเทิร์นโปร
นอกจากการพูดคุยกับ น้องโม และ น้องเม แล้วทีมข่าว MGR Sport ยังได้สอบถามถึงการวางแผนในอนาคตให้กับลูกสาวของคุณพ่อ สมบูรณ์ จุฑานุกาล ด้วย
MGR SPORT : คุณพ่อวางเป้าหมายช่วงฤดูกาลที่เหลือ รวมถึงปี 2012ไว้อย่างไร
คุณพ่อ สมบูรณ์ : เป้าหมายในตอนนี้คือรักษาอันดับ 1 ในตารางโปโล กอล์ฟ แรงกิ้ง ให้ได้ ส่วนในปีหน้าเราจะเดินไปแข่งขันในยุโรปเพิ่มมากขึ้น เพราะ ต่อไปคือการไต่อันดับในระดับอเมเจอร์ และก้าวขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของตารางดังกล่าว ซึ่งในระหว่างนั้นผมวางแผนให้ทั้งสองคนควอลิฟายเข้าร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์รายการของโปรให้มากกว่าเดิมเพื่อพัฒนาศักยภาพสูงสุด
MGR SPORT : เคล็ดลับความสำเร็จที่เกิดขึ้น
คุณพ่อสมบูรณ์ : เหนือสิ่งใดเราจำเป็นต้องวางแผนตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่น และวางแผนอนาคตเพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางนักกอล์ฟอาชีพ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความพยายามและความอดทน โดยเฉพาะการฝึกซ้อมที่ปัจจุบัน น้องโม และน้องเม เรียกได้ว่าแทบไม่มีวันหยุดเฉลี่ยแล้วซ้อมวันละ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งทั้งสองคนมีความตั้งใจที่จะเป็นนักกอล์ฟอาชีพมากและทางครอบครัวได้ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งผลงานในฤดูกาล 2011 นั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ชีวิตนักกอล์ฟในแอลพีจีเอทัวร์ และพวกเรารู้ดีว่าโจทย์ต่อจากนี้จะยิ่งเข้มข้นและยากขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยความมุ่งมั่นของน้องโม และ น้องเมผมเชื่อว่าพวกเขาจะก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหลายไปได้เช่นกัน