ตัดสิน"เปาชัยฤกษ์"ถูก วอนแฟนไทยลีกเห็นใจ

"เสธ.ตุ้ม" พลตรีชินเสน ทองโกมล ประธานคณะกรรมการแต่งตั้งและติดตามผลการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 วิงวอนทุกสโมสรฟุตบอลและแฟนบอลให้ความเชื่อมั่นและศรัทธาผู้ตัดสินชาวไทย หลัง ชัยฤกษ์ งามสม ผู้ตัดสินได้ทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมจากจังหวะก้ำกึ่งลูกล้ำหน้าในแมตช์ชลบุรี เอฟซี เสมอ บุรีรัมย์ พีอีเอ

หลังจาก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ลงดาบทีมฟุตบอล ชลบุรี เอฟซี ที่มีปัญหาแฟนบอลเจ้าถิ่นแสดงความไม่พอใจต่อ แฟรงค์ อาชีมปง กองหน้าของบุรีรัมย์ พีอีเอ ด้วยการปาขวดน้ำลงสนาม ในเกมไทยพรีเมียร์ลีก ที่ชลบุรีฯ เปิดบ้านเสมอกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยลงโทษด้วยการแบนแฟนบอลชลบุรี เอฟซี ห้ามเข้าชมเกมนัดที่ "ฉลามชล" เป็นเจ้าบ้าน จำนวน 1 เกม ซึ่งก็คือเกมไทยพรีเมียร์ลีก ที่ชลบุรีฯ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ราชนาวีสโมสร วันเสาร์ที่ 10 กันยายนนี้ พร้อมปรับเงินอีก 20,000 บาท ข้อหาปาขวดน้ำลงสนาม ด้าน แฟรงค์ อาชีมปง กองหน้าของบุรีรัมย์ พีอีเอ ก็ถูกห้ามลงแข่ง 1 นัด พร้อมปรับอีก 10,000 บาท หลังแสดงอาการดีใจหลังทำประตูในฝั่งกองเชียร์ชลบุรี จนก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายตามหลังจากนั้น

ขณะเดียวกันทางด้าน "เสธ.ตุ้ม" พลตรีชินเสน ทองโกมล ประธานคณะกรรมการแต่งตั้งและติดตามผลการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 ได้อธิบายถึงการทำหน้าที่ของ ชัยฤกษ์ งามสม ผู้ตัดสินในแมตช์ดังกล่าวว่า "ในนาทีที่ 58 บอลออกจากเท้าผู้เล่นบุรีรัมย์ พีอีเอ ไปครึ่งเท้าแล้วก่อนส่งใน แฟรงค์ อาชีมปง หลุดเข้าไปซัดประตูตีเสมอ ซึ่งจังหวะนั้นได้มีกองหลังของชลบุรี เอฟซี ที่ยื่นอยู่ก่อนหน้า อาชีมปง แล้ว"

"ดังนั้นจึงถือว่าเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่ต้องยอมรับว่าหลังจากยิงประตูตีเสมอได้นั้น อาชีมปง ได้วิ่งออกไปแสดงความยินดีทางฝั่งกองเชียร์เจ้าถิ่นจริง อย่างไรก็ตามเมื่อภาพปรากฏอย่างชัดเจนแล้วถือว่าผู้ตัดสินในแมตช์ดังกล่าวไม่มีความผิดแต่อย่างใด หนำซ้ำเขาได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมถูกต้องและรวดเร็วอีกด้วย"

นอกจากนี้ทางประธานคณะกรรมการแต่งตั้งและติดตามผลการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ตัดสินในแต่ละแมตช์ว่า "อันดับแรกคือผู้ตัดสินต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในแมตช์และต้องมีระยะห่างในการทำหน้าที่ ซึ่งตลอดการปฏิบัติหน้าที่ก็จะมีผู้ประเมินผู้ตัดสินในแต่ละแมตช์ด้วยการให้คะแนนซึ่งหากผู้ตัดสินท่านใดมีคะแนนต่ำกว่า 8 คะแนน ต้องมีการพิจารณาให้ลดระดับการทำหน้าที่ ขณะเดียวกันในส่วนผู้ตัดสินที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีก็จะมีรางวัลผู้ตัดสินยอดเยี่ยมโดยจะมอบรางวัลให้ 4 ครั้ง ต่อฤดูกาล"

สำหรับการวางนโยบายนำเข้าผู้ตัดสินต่างชาติมาทำหน้าที่ในศึกบิ๊กแมตช์นั้น "เสธ.ตุ้ม" กล่าวว่า "ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจน เนื่องจากต้องรอผลวิจารณ์จากสโมสรไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชั่น 1 ถึงความต้องการจะใช้ผู้ตัดสินต่างชาติหรือไม่ ซึ่งตามปกติแล้วในศึกบิ๊กแมตช์จะส่งเฉพาะผู้ตัดสินที่รับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา เท่านั้น อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการแต่งตั้งและติดตามผลการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินฯ ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนา อบรม ศึกษากฏกติกา ของผู้ตัดสินทุกระดับโดยการให้ศึกษาเกมการแข่งขันในแต่ละปัญหาต่างๆ"

ท้ายนี้ พลตรีชินเสน ทองโกมล วิงวอนถึงสโมสรและแฟนบอลที่ยังไม่เชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินชาวไทยว่า "ขอความเห็นใจและความร่วมมือจากทุกสโมสรและบรรดาแฟนบอลเนื่องจากก่อนที่จะส่งผู้ตัดสินในแต่ละแมตช์ทางเราได้มีการคัดเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้ขอให้ทุกฝ่ายชมกีฬาให้เป็นกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ เป็นแฟนบอลที่ดี และให้การยอมรับผู้ตัดสินไทย เนื่องจากเขาก็ได้รับการรับรองจากฟีฟาภายใต้กฏเกณฑ์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ"