"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ผู้จัดการทีมชลบุรี เอฟซี แนะนำทุกทีมที่อยากชนะ บุรีรัมย์ พีอีเอ จ่าฝูงไทยลีกให้ศึกษาการเล่นรับลูกฟรีคิกให้มากกว่านี้พร้อมติง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก อย่านำผู้ตัดสินเด็กมาชี้ชะตาบิ๊กแมตช์ ด้าน "โค้ชแต็ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ ไม่มั่นใจตำแหน่งแชมป์เพราะต้องเจอทีมแกร่งหลายแมตช์ ยืนยันปล่อยนักเตะเข้าแคมป์ทีมชาติแน่นอน
หลังจบการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เปิดสนามชลบุรี สเตเดียม แบ่งแต้ม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ด้วยสกอร์ 1-1 ส่งผลให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ ยังคงเป็นจ่าฝูงต่อไปโดยมี 49 คะแนน ส่วน ชลบุรี เอฟซี ยึดรองจ่าฝูงมี 42 คะแนน เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดย "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ผู้จัดการทีมชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า "ผมคิดว่านัดบิ๊กแมตช์อย่างนี้ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกไม่น่านำเด็กอมมือมาตัดสิน คือ ชัยฤกษ์ งามสม ผู้ตัดสิน และ ศิวกร ภูอุดม ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ซึ่งความจริงแล้วมันมีหลายเหตุการณ์ที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ ดังนั้นในส่วนนี้จึงต้องการให้มีผู้ตัดสินที่ถูกต้อง เด็ดขาด เฉียบคมมากกว่านี้ เพราะบางจังหวะทำให้อารมณ์ผู้เล่นแปรปรวนไปด้ว"
"จึงอยากฝากให้บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกคำนึงถึงผลกระทบในบิ๊กแมตช์นี้และคงไม่อุทธรณ์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ตัดสินได้เรียนรู้ประสบการณ์และศึกษาเกมจากจุดบกพร่องตรงนี้ไปด้วย ที่สำคัญเราจบสกอร์ไม่ได้เองซึ่งความจริงแล้วชลบุรีฯ มีพัฒนาการเล่นฟุตบอลขึ้นเยอะ แต่ที่เป็นห่วงคือจังหวะสุดท้ายต้องเด็ดขาดและสุขุมมากกว่านี้หากจะคว้าแชมป์เอเอฟซีคัพต้องปรับปรุง"
นอกจากนี้ "เฮงซัง" กล่าวแนะนำทีมที่อยากชนะ บุรีรัมย์ พีอีเอ ว่า "ต้องฝึกลูกฟรีคิกในเกมรับมากกว่านี้ อยากให้ทุกทีมฝึกจังหวะการดันขึ้นให้ดีกว่าชลบุรี เอฟซี ซึ่งหากทำได้แล้วผมยืนยันได้เลยว่าทุกทีมสามารถเอาชนะบุรีรัมย์ได้ หากฟาว์ลน้อยลงและหยุดเกมด้านข้างได้ที่สำคัญต้องพร้อมใจกันดันขึ้น ทั้งนี้อยากให้ศึกษาการรับลูกฟรีคิกจากเกมอิตาลีเพราะเขามีการโดดเด่นในเรื่องนี้"
ด้าน "โค้ชแต็ก" อรรถพล ปุษปาคม กุนซือทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ เผยถึงเกมว่า "ผมคิดว่าหากลูกล้ำหน้าจริงผู้ตัดสินต้องเป่าแล้ว ซึ่งผมเชื่อในดุลพินิจของผู้ตัดสินทั้งนี้ในตอนนั้นผมอยู่ห่างไปหน่อยจึงไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดเจน ต้องบอกก่อนว่าเรามาเพื่อวัดดวงเพราะหากแพ้ก็ยังมีแต้มห่างอยู่ถึง 7 แต้ม และก็มาเพื่อ 3 แต้มเช่นกัน ทั้งนี้ในครึ่งแรกค่อนข้างจะเสียประตูไปเร็วจึงทำให้ต้องมาเร่งในครึ่งแรกและช่วงท้ายครึ่งหลัง โดยรวมแล้วพอใจที่สามารถมาเสมอชลบุรี เอฟซี ในบ้านได้เพราะเขาเป็นทีมแกร่งและฟอร์มเข้าที่ ส่วนการนำ แฟรงค์ โอฮันซา ลงสนามเพราะต้องการตัดความเร็วในคู่เซ็นเตอร์ของฝั่งเจ้าถิ่น"
ขณะเดียวกัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมจ่าฝูงกล่าวถึงความรู้สึกว่า "ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจกับตำแหน่งแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก เพราะยังมีโจทย์ใหญ่อีกหลายข้อที่เราต้องแก้ไขโดยเฉพาะบิ๊กแมตช์ที่ต้องเล่นกับเมืองทองฯ ยูไนเต็ด และ บางกอกกล๊าส เอฟซี เราคงประมาทไม่ได้โดยเฉพาะการเสริมตัวผู้เล่น"
"ส่วนการรายงานตัวนักเตะทีมชาติวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ทางสโมสรฯ ยืนยันจะปล่อยนักเตะเข้าแคมป์ทีมชาติแน่นอนเพื่อความสมบูรณ์ แต่อาจปล่อยตามโปรแกรมเดิม คือ วันที่ 24 สิงหาคม หลังเล่นรายการโตโยต้า ลีกคัพ กับ บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งต้องอยู่ที่ไทยพรีเมียร์ลีกว่าอย่างไร ส่วนนักเตะที่เหลืออยู่ก็พยายามรักษาสมดุล ในราย สุรัตน์ สุขะ ตอนนี้ก็ติดปัญหาที่ใบโอนย้ายกับทางสโมสร โดยเราจะส่งรายชื่อทั้ง 3 ถ้วยแน่นอน ทั้งไทยพรีเมียร์ลีก , ลีกคัพ และ เอฟเอคัพ เช่นเดียวกับ ฟอเรนซ์ บิทัง ที่ติดปัญหาเรื่องวีซ่า อย่างไรก็ตามคาดว่าทั้งสองรายนี้จะได้ลงนัดในบ้านพบกับพัทยาแน่นอน"
จำนวนผู้ชมในสนาม 8,396 คน
จำนวนยอดจำหน่ายบัตรผ่านประตู 1,010,250 บาท
จำนวนยอดจำหน่ายสินค้าที่ระลึก 250,220 บาท
ผลการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2554
ชลบุรี เอฟซี เสมอ บุรีรัมย์ พีอีเอ 1-1
ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ชนะ อาร์มี ยูไนเต็ด 2-1
บีอีซี เทโรศาสน เสมอ เอสซีจี สมุทรสงคราม 0-0
เชียงราย ยูไนเต็ด เสมอ ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี 1-1
อินทรีเพื่อนตำรวจ แพ้ ราชนาวี 0-1