ASTVผู้จัดการรายวัน - ปัจจุบันปัญหาความรุนแรงในศึกลูกหนังไทย เริ่มปรากฏผ่านสื่อมากขึ้นทุกวัน ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ล้วนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมีจุดเริ่มต้นจากความไม่พอใจการทำหน้าที่ของ "สิงห์เชิ้ตดำ" อันเกิดจากความผิดพลาด ซึ่งล่าสุดส่งผลให้มีแฟนบอลจำนวนมากของสโมสร ชลบุรี เอฟซี แสดงความไม่พอใจถึงขั้นเฮไปล้อมกรอบผู้เล่น ผู้บริหาร และแฟนทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ไม่ให้ออกจากสนาม ชลบุรี สเตเดียม หลังเสมอกันไป 1-1 ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมกับมีเสียงเรียกร้องให้มีการพิจารณาถึงการดึงผู้ตัดสินมืออาชีพจากต่างประเทศมาทำหน้าที่แทน
คีย์แมนสำคัญในวงการ "สิงห์เชิ้ตดำ" อย่าง "เสธ.ตุ้ม" พล.ต.ชินเสน ทองโกมล ประธานคณะกรรมการแต่งตั้งและติดตามประเมินผลผู้ตัดสินไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชั่น 1 ได้เผยถึงเกณฑ์การคัดเลือกผู้ตัดสินแต่ละแมตช์ว่า "อันดับแรกทุกวันพุธจะมีแต่งตั้งผู้ตัดสินในแต่ละสนามต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรใดๆ ที่อยู่ในจังหวัดนั้น และต้องมีระยะห่างในทำหน้าที่พอสมควร จากนั้นจะมีการเสนอรายชื่อโดยพิจารณาจากผลคะแนนจากผู้ประเมินผู้ตัดสินจึงจะมีการลงมติว่าบุคคลใดจะได้ทำหน้าที่ในเกมบิ๊กแมตช์ ทั้งนี้หากผู้ตัดสินผิดพลาดก็ถือเป็นเรื่องปกติ หากแต่จะมีการพิจารณาจากหลักฐานเพื่อมีบทลงโทษตั้งแต่การตักเตือนจนถึงการแบนจากการเป็นผู้ตัดสินตลอดชีพ"
ส่วนแนวโน้มการใช้ผู้ตัดสินต่างชาตินั้น พล.ต.ชินเสน กล่าวว่า "หลังจากที่ฝ่ายผู้ตัดสินได้ทำการรายงานเพื่อพัฒนางานผู้ตัดสินส่งต่อให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ยื่นความประสงค์จะใช้ผู้ตัดสินต่างชาติหรือไม่ ให้ทุกสโมสรพิจารณาหาความเหมาะสมที่สุด โดยส่วนตัวแล้วต้องการใช้ผู้ตัดสินชาวไทยมากกว่า เนื่องจากตอนนี้เราได้มีการสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองด้วยการให้รางวัลผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในแต่ละแมตช์ซึ่งตลอดฤดูกาลจะมีการให้รางวัลถึง 4 ครั้ง อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับแต่ละสโมสรว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ที่จะใช้ผู้ตัดสินชาวต่างชาติในศึกบิ๊กแมตช์"
ขณะที่ตัวแทนจากสโมสรไทยพรีเมียร์ลีก "เดอะเซนต์" อรรณพ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมทั่วไป "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี กล่าวถึงการเตรียมเปิดบ้านรับมือ "กิเลนผยอง"เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในศึกบิ๊กแมตช์โตโยต้า ลีกคัพ วันพุธที่ 17 สิงหาคมนี้ว่า "ไม่มีการเตรียมอะไรเป็นพิเศษเนื่องจากทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้วและเหตุการณ์ก็ปกติ ซึ่งในแต่ละนัดสโมสรฯ ได้จัดกำลังตำรวจและทหารรวมถึงการ์ดรักษาความปลอดภัยมากถึง 300-400 คน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์วุ่นวายจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน่วยรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ แต่ยอมรับว่าปัจจุบันได้มีแฟนบอลขาจรมากทำให้ยากต่อการควบคุม"
สำหรับการเสนอให้ผู้ตัดสินชาวต่างชาติมาตัดสินบิ๊กแมตช์ไทยพรีเมียร์ลีกนั้น "คนโตเมืองชล" เผยว่า "ไม่เห็นด้วยที่นำคนต่างชาติมาทำหน้าที่ เพราะเหมือนเป็นการดูถูกกรรมการชาวไทย โดยวิธีการแก้ไขปัญหาต้องจัดผู้ตัดสินให้ถูกแมตช์ เช่น การจัดผู้ตัดสินที่มีประสบการณ์มากมาชี้ชะตานัดบิ๊กแมตช์ ส่วนประสบการณ์น้อยก็ทำหน้าที่ในนัดปกติทั่วไป อย่างไรก็ตามรู้สึกเห็นใจผู้ตัดสินที่ต้องทำหน้าที่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากรูปเกมในแต่ละแมตช์จะแตกต่างกันออกไป ที่สำคัญผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ผิดพลาดไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้อย่างนักเตะ"
สำหรับมุมมองของกองเชียร์ พินิจ งามพริ้ง ในฐานะประธานชมรมเชียร์ไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในสนามแข่งขันฟุตบอลว่า "รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตนเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่แฟนบอลจะมีจิตรักใคร่สโมสรฟุตบอลที่ตนเองชื่นชอบเป็นพิเศษ ทว่ากลับแสดงออกด้วยพฤติกรรมผิดๆ ซึ่งทุกทีมมีทั้งกองเชียร์ที่ดีและไม่ดีปะปนกัน โดยเฉพาะกองเชียร์ที่ไม่ดีนั้นถือเป็นตัวกระตุ้นผู้เล่นให้อารมณ์แปรปรวนได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตามไม่อยากให้โทษแต่แฟนบอลฝ่ายเดียว เพราะความจริงแล้วทุกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น บริษัทไทยพรีเมียร์ลีกจำกัดและสมาคมผู้ตัดสินแห่งประเทศไทยต้องได้ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่อย่างมีมาตรฐานก่อน"
ส่วนเรื่องความเหมาะสมในการดึงผู้ตัดสินต่างชาติมาทำหน้าที่ในเกมบิ๊กแมตช์ ผู้ก่อตั้ง www.cheerthai.com เผยว่า "หากทำเช่นนั้นก็เหมือนการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง ที่สำคัญคือผู้ตัดสินต้องแสดงศักยภาพให้แฟนบอลเกิดความเชื่อถือและความรู้สึกว่าเขาได้ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ถูกต้อง ทั้งนี้สมาคมผู้ตัดสินฯ ต้องมีความจริงใจในการคัดเลือกผู้ตัดสินให้เหมาะสมในแต่ละแมตช์ ทางบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกเองก็ต้องมีบุคคลากรที่มีมาตรฐานเพื่อทำให้ทุกคนเกิดความเชื่อถือเพราะวงการฟุตบอลในบ้านเราได้ก้าวทันความนิยมของคนไปมาก แต่ในทางกลับกันมาตรฐานต่างๆ ยังย่ำอยู่ที่เดิม"
ในส่วนของ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวถึงมาตรการจัดการความรุนแรงในสนามว่า "ที่สำคัญคือสนามเหย้าต้องการระบบความปลอดภัยให้ดีที่สุดเพื่อช่วยลดปัญหาบานปลาย ส่วนเรื่องผู้ตัดสินที่มีการแนะนำว่าให้นำผู้ตัดสินต่างชาติมาทำหน้าที่ เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่ขึ้นชื่อว่าผู้ตัดสินการทำหน้าที่ผิดพลาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ปัญหาหลักอยู่ที่การทำให้แฟนบอลยอมรับผลของการตัดสินมากกว่า"