อเมเจอร์ทอม ลูอิส อเมสซิ่งจาก “ดิ โอเพ่น”

เรื่อง : วงศ์ธวัช อามทัศนศรี

หลังจบการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก "ดิ โอเพน แชมเปียนชิป 2011" ครั้งที่ 140 ณ สนาม รอยัล เซนต์ จอร์จส กอล์ฟ คลับ เมืองแซนด์วิช ประเทศอังกฤษ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน (14-17 ก.ค.) ปรากฏว่า โทรฟี "คลาเร็ต จัก" ตกเป็นของ ดาร์เรน คลาร์ก ก้านเหล็กจอมเก๋าชาวไอร์แลนด์เหนือ ที่ทำสกอร์รวมสี่วัน 5 อันเดอร์พาร์ 275 ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ "โปรเจ้าถิ่น" ไม่สามารถคว้าชัยในรายการนี้ได้ นับตั้งแต่ นิก ฟัลโด ตำนานกอล์ฟชาวอังกฤษ คว้าแชมป์ได้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1992 หากแต่การแข่งขันในปีนี้ได้ก่อกำเนิดดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการสวิงเมืองผู้ดีชื่อว่า ทอม ลูอิส อเมเจอร์วัย 20 ปี ที่ผงาดขึ้นนำในรอบแรกของทัวร์นาเมนต์

ที่ผ่านมาการแข่งขัน "ดิ โอเพน" ถือเป็นเวทีที่ให้กำเนิดดาวรุ่งมาแล้วมากมาย อาทิ รอรีย์ แม็คอิลรอย สตาร์กอล์ฟชาวไอร์แลนด์เหนือ เจ้าของแชมป์ "ยูเอส โอเพน 2011" ผู้เคยคว้าตำแหน่งอเมเจอร์ผลงานดีที่สุดในรายการนี้เมื่อปี 2007 รวมถึง "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ อดีตนักกอล์ฟมือ 1 โลกลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย ที่เคยเป็นอเมเจอร์ที่ผลงานดีสุดเมื่อปี 1996 ก่อนเจ้าตัวที่จะตัดสินใจเทิร์นโปรเล่นอาชีพในปีถัดมา และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2000 ที่สร้างประวัติศาสตร์ "ไทเกอร์ สแลม"

โดยในปีนี้เจ้าของเหรียญเงินอเมเจอร์ผู้ทำผลงานดีที่สุดเป็นของ ลูอิส นักกอล์ฟสมัครเล่นชาวอังกฤษ ที่ผงาดขึ้นนำในวันแรกร่วมกับ โธมัส บียอร์น สวิงชื่อดังชาวเดนมาร์ก ด้วยสกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 65 ส่งผลให้ ทอม กลายเป็นที่ถูกจับตามองในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน หลังลบสถิติเป็นอเมเจอร์ที่ทำสกอร์ต่อรอบต่ำสุดใน "ดิ โอเพน" แทนที่สถิติของ แฟรงค์ สตรานาฮาน, ไทเกอร์ วูดส์ และ จัสติน โรส ที่เคยทำไว้ 4 อันเดอร์พาร์ และยังเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นคนแรกที่ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง หลังจาก ไมเคิล โบนัลลัค อดีตโปรรุ่นปู่ เคยทำได้เมื่อปี 1968 ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่าชื่อของเขาถูกตั้งขึ้นตาม ทอม วัตสัน ตำนานก้านเหล็กชาวอเมริกัน เจ้าของเมเจอร์ 8 สมัย (ดิ โอเพน 5 สมัย, เดอะ มาสเตอร์ส 2 สมัย และยูเอส โอเพน 1 สมัย) ซึ่งได้ออกรอบก๊วนเดียวกันในสองวันแรก

แม้ว่าในสามรอบสุดท้าย ลูอิส จะทำผลงานได้ไม่ดีนัก หลังหวดเกินในรอบสอง 4 โอเวอร์พาร์ 74, รอบสาม 6 โอเวอร์พาร์ 76 และรอบสุดท้าย 4 โอเวอร์พาร์ 74 สกอร์รวมสี่วันมี 9 โอเวอร์พาร์ 289 จบอันดับ 30 ร่วม แต่นั่นก็เพียงพอที่จะเป็นนักกอล์ฟอเมเจอร์ที่ทำผลงานดีที่สุด ซึ่ง ทอม ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันผ่าน "เดอะ ซัน" สื่อดังจากประเทศบ้านเกิด ว่า "นี่คือความใฝ่ฝันของผมตั้งแต่เด็กที่ได้ลงแข่งในรายการ 'ดิ โอเพน' สิ่งแรกก็ต้องยอมรับว่าไม่คาดฝันเหมือนกันกับสกอร์ที่เกิดขึ้นในการลงสนามเมเจอร์ครั้งแรก อย่างไรก็ดีผมรู้ตัวดีว่ายังต้องพัฒนาตัวเองอีกมากในการแข่งขันระดับอาชีพ สุดท้ายนี้ผมก็รู้สึกภูมิใจมาก กับการคว้าเหรียญรางวัลในฐานะนักกอล์ฟอเมเจอร์ที่ใฝ่ฝันไว้ก่อนลงสนาม"

ขณะเดียวกัน อเมเจอร์เลือดผู้ดีวัย 20 ปี ยังได้กล่าวชื่นชม รอรีย์ แม็คอิลรอย นักกอล์ฟรุ่นพี่ที่เป็นไอดอลของตนเอง ว่า “รอรีย์ เป็นนักกอล์ฟที่สุดยอด และเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดคนหนึ่งในเวลานี้ ล่าสุดเขารั้งอันดับท้อป 5 ของโลก และจะได้เป็นมือ 1 สักวันในอนาคต ซึ่งผมก็หวังว่าซักวันจะสามารถสร้างมาตราฐานทำได้แบบเดียวกับเขา และได้ต่อสู้กับเขาในอนาคต เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม และจะเป็นแบบอย่างของผมต่อไป"

ท้ายที่สุด ลูอิส ได้เปิดเผยถึงอนาคตของตนเองว่า "เวลานี้ผมยังไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องการเทิร์นโปรเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะว่ายังต้องเรียนรู้ประสบการณ์ในเวทีนี้อีกมาก อย่างไรก็ดีผมตั้งใจว่าจะทำผลงานในฐานะอเมเจอร์ให้ดีที่สุดก่อน และพัฒนาขีดจำกัดของตนเองเพื่อก้าวเดินต่อไปในอนาคต"