ASTVผู้จัดการรายวัน - หลายคนคาดหวังที่จะเห็น มิเชล วี ก้าวขึ้นมาเป็นดาราชูโรงของวงการกอล์ฟหญิง ภายหลังการอำลาสนามของ แอนนิกา โซเรนสตัม และ ลอเรนา โอชัว แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาดูเหมือนโปรวัย 22 ปียังไม่สามารถทำผลงานให้เป็นที่ยอมรับหรือสมกับศักยภาพที่เคยถูกยกย่องไว้ในอดีตได้ ผลงานที่น่าผิดหวังนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาหลังจาก โซเรนสตัม ซึ่งปัจจุบันเป็นคอมเมนเทเตอร์ให้กับสถานีโทรทัศน์ "กอล์ฟ ชานแนล" วิจารณ์ว่าเธอให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่าการเล่นกอล์ฟ
โดยอดีตโปรสาวมือ 1 ของโลกชาวสวีดิชแสดงความเห็นวิจารณ์ วี ระหว่างศึกกอล์ฟเมเจอร์รายการ ยูเอส วีเมนส์ โอเพน เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว (7-10 ก.ค.) ซึ่งก้านเหล็กสาวจากฮาวายผ่านการตัดแบบฉิวเฉียดและจบทัวร์นาเมนท์อันดับที่ 55 ร่วม ทั้งๆที่ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 วี เคยสร้างชื่อในเมเจอร์รายการนี้ด้วยการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ผ่านการตัดตัวด้วยวัยเพียง 13 ปี
"ฉันอยากพูดว่า มิเชล วี เล่นไม่ได้อย่างที่เธอคาดหวังหรือตามศักยภาพของเธอ หลายต่อหลายปีที่เธอมาเล่นที่นี่ คุณคิดว่าจนถึงตอนนี้เธอน่าจะคว้าแชมป์ได้หลายรายการ เราเคยพูดกันถึงศักยภาพของเธอ แต่มันไม่ใช่แล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องพูดถึงประสบการณ์และสภาพจิตใจ ซึ่งเกมการเล่นของ วี ไม่แสดงให้เห็นถึงเรื่องเหล่านี้เลย" โซเรนสตัม ผู้เคยคว้าแชมป์แอลพีจีเอจำนวน 72 รายการซึ่งรวมถึงเมเจอร์ 10 รายการกล่าว
สำหรับ วี หลังจากเทิร์นโปรเมื่อปี 2005 และได้เข้าเป็นสมาชิกของแอลพีจีเอ ทัวร์ อย่างเต็มตัวเพิ่งคว้าแชมป์ได้เพียง 2 รายการ ขณะที่ผลงานปี 2011 ลงเล่น 10 รายการสามารถจบท้อปเทนได้เพียง 4 รายการ
โซเรนสตัม ยังวิจารณ์ วี ต่อในเรื่องการแบ่งเวลาเรียนที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดกับการเล่นกอล์ฟ "เธอดูเหมือนก้าวถอยหลัง ฉันรู้สึกว่าเธอเคยเล่นกอล์ฟมากกว่านี้ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย เธอเริ่มเล่นเมเจอร์ตั้งแต่อายุ 12 ปีและดูเหมือนตอนเรียนไฮจ์สคูลจะมีสมาธิกับกอล์ฟมากกว่าตอนนี้ บางครั้งฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอสนุกกับเพื่อนและอะไรต่างๆมากกว่าการเล่นกอล์ฟ แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ทำให้ฉันคิดว่าเธอถูกผลักดันให้ดีเยี่ยมเร็วเกินไป อย่างไรก็ตามเราจะได้เห็นกันต่อไปว่าเธอจะเป็นอย่างไรหลังจากเรียนจบแล้ว มันยังเป็นความจริงที่ว่าเธอมีศักยภาพมากกว่าทุกคน"
ทั้งนี้ โซเรนสตัม เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐอริโซนา และในปี 1991 ได้กลายเป็นนักเรียนปีหนึ่งคนแรกที่ไม่ใช่ชาวสหรัฐฯที่คว้าแชมป์กอล์ฟระดับมหาวิทยาลัย ขณะที่ วี เริ่มเรียนที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในเดือนกันยายนปี 2007 โดยลงเรียนเฉพาะเทอมฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาว หรือระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนมีนาคม และกำลังจะจบปริญญาตรีในช่วงกลางปีหน้า
อย่างไรก็ตามล่าสุด "บิ๊กวีซีย์" ออกมาปกป้องการตัดสินใจของตนเองด้วยการยืนยันถึงความสำคัญของการเรียน "สำหรับฉันแล้วคิดว่าการเรียนเป็นเรื่องสำคัญเสมอตั้งแต่ฉันเด็กๆ ดังนั้นฉันจึงเล่นในทัวร์นาเมนท์ของแอลพีจีเอและเรียนไฮจ์สคูลด้วย ฉันเชื่อว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือที่มีพลังมากสำหรับคนหนุ่มสาว การเล่นกีฬาหรือการยึดเป็นอาชีพก็สำคัญเช่นกัน แต่ฉันไม่ต้องการเลิกเรียน ฉันคิดว่ามหาวิทยาลัยให้อะไรมากกว่าการเรียนและหนังสือ มันเป็นก้าวย่างที่สำคัญสำหรับฉันในการเรียนที่สแตนฟอร์ดและได้รับประสบกาณณ์ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ทำอะไรด้วยตัวเอง อย่างที่มีคนเคยพูดว่าคุณต้องไปมหาวิทยาลัยเพื่อรู้จักตัวคุณเอง"
ขณะที่สองสัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของ วี ซึ่งเตรียมตัวลงแข่งขันกอล์ฟสองรายการใหญ่ โดยเริ่มจากศึกเอเวียง มาสเตอร์ส ที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค. ก่อนที่โปรวัย 22 ปีจะเดินทางไปแข่งขันเมเจอร์สุดท้ายของปีรายการ บริติช วีเมนส์ โอเพน ที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ค. โดยทั้งสองทัวร์นาเมนท์นี้จะบททดสอบอีกครั้งของโปรสาวน้อยรายนี้เพื่อสยบเสียงวิจารณ์
"ฉันพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ฉันรักการลงแข่งขันและต้องการเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แน่นอนว่าฉันก็ต้องการชนะเมเจอร์หลายๆรายการ ต้องการชนะทัวร์นาเมนท์รายการต่างๆ ซึ่งฉันก็ทำงานอย่างหนักในจุดนั้น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เป้าหมายอันดับหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงซัมเมอร์ ที่ฉันจะเรียนจบ" วี กล่าวทิ้งท้าย