เป็นเรื่อง! ศาลโลกสั่งคุ้มครอง ส.มวย

วุ่นวายกันไม่จบสิ้นสำหรับวงการกำปั้นไทย เมื่อล่าสุด ศาลกีฬาโลกที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออกคำสั่งคุ้มครองสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์แล้ว พร้อมสั่งระงับการตัดสินของไอบาไว้จนกว่าจะตัดสินคดีกันเรียบร้อย

หลังจากที่สหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติหรือไอบา ตัดสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ออกจากการเป็นสมาชิก โดยให้เหตุผลว่าไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของไอบา ที่ต้องการให้จัดเลือกตั้งใหม่ภายในวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังมีผู้ไปร้องเรียนว่าการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา มีความไม่โปร่งใส จนส่งผลให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. สั่งตัดคำว่า “แห่งประเทศไทย” และกำลังดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ครั้งใหม่ ภายในช่วงสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้ นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ศาลกีฬาโลก ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้ออกคำสั่งให้การคุ้มครองสมาชิกภาพของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์แล้ว พร้อมกับให้ระงับการตัดสินของไอบาไว้จนกว่าศาลกีฬาโลกจะตัดสิน ทั้งนี้ทำให้นักมวย และเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ สามารถดำเนินการเข้าร่วมการแข่งขันได้ทุกรายการที่ไอบาให้การรับรอง

โดยการพิเคราะห์ของศาลกีฬาโลกตามการเรียกร้องขอการคุ้มครองชั่วคราวครั้งนี้ เนื่องจากได้มีการตรวจหลักฐานและเอกสารต่างๆ ที่มีการเรียกร้องมาตั้งแต่ต้น โดยระบุว่า การที่ไอบาได้สั่งถอนสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ออกจากสมาชิกภาพ โดยอ้างว่าไม่จัดการเลือกตั้งใหม่ตามที่ไอบาต้องการภายในวันที่ 30 มิ.ย. 54 นั้น ถือเป็นกฎหมายคนละส่วนกัน โดยการจัดการเลือกตั้งเป็นกฎหมายภายในประเทศที่จะต้องรอกระบวนการตามกฎหมายให้จบเสียก่อน โดยเฉพาะกฎของไอบา ในข้อ 14.1 ที่กล่าวว่า "ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศ ต้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงจากภายนอกเข้ามาในการเลือกตั้งและการแต่งตั้ง" ซึ่งการที่ไอบาพยายามจะนำกฎของไอบามาเชื่อมโยง อาจเกิดจากสาเหตุที่บุคคลบางคนในไอบาเอง และกลุ่มบุคคลอื่นทั้งภายในและนอกประเทศ โดยมีประโยชน์เฉพาะด้านร่วมกันก่อตัวขึ้นชักใยให้ไอบาเป็นศัตรูกับ พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ และกรรมการบริหารสมาคมในปัจจุบัน โดยมีจุดมุ่งหมายทางการเมืองต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในสมาคมฯ เดิมทั้งหมดเป็นที่ตั้ง

ซึ่งการตัดสินของไอบาในการถอดถอนจากสมาชิกภาพจะทำให้นักมวย โค้ช หมดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันนั้น ถือเป็นการริดรอนสิทธิ์เบื้องต้นตามหลักการพื้นฐานของโอลิมปิกสากลในข้อ 4 ที่ว่า "การปฎิบัติของการกีฬาคือสิทธิของมนุษยชน บุคคลแต่ละคนจะต้องมีอำนาจในการจัดการการกีฬาของตนโดยจะต้องไม่มีการจำกัดสิทธิ์ใดตามโอลิมปิกสากล โดยคำนึงถึงความเข้าใจอันดีต่อสปิริตของความเป็นมิตร ความเป็นหนึ่งเดียวและการปฎิบัติที่ยุติธรรม" รวมถึงการที่สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ได้สร้างชื่อเสียงให้กับวงการมวยสากลสมัครเล่นของโลก จะถูกสกัดกั้นในการพัฒนาความเจริญ ความก้าวหน้าให้กับวงการกีฬาต่อไป