คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
ความพ่ายแพ้ต่อ ไมเคิล ชาง ชนิดถอดใจของอังเดร ในออสเตรเลียน โอเพ่นเปรียบเสมือน “ความกระเพื่อม” ของอารมณ์ เมื่อเจ้าตัวไม่พยายามที่จะเอาชนะทั้งใจ และ คู่แข่งส่งให้กลายเป็นความพ่ายแพ้เรื้อรัง ต่อเนื่องไปจนถึง พฤติกรรมก้าวร้าวในการแข่งขัน ที่ทำให้อังเดรถูกปรับเป็นเงินหลายพันดอลล่าร์ รวมไปถึง “อาการต่อต้านสื่อ” ไม่ยอมเข้าห้องแถลงข่าวหลังจบการแข่งขัน ซึ่งเจ้าตัวยินยอมให้ทางฝ่ายจัดการของทัวร์นาเมนท์ปรับเงิน โดยไม่รู้สึกเสียดายซึ่งอังเดร บรรยายไว้ในหนังสือของตนเองว่า “เป็นเงินที่คุ้มค่าต่อการจ่าย”
อาการของอังเดร ในห้วงเวลาดังกล่าวเปรียบเสมือนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตนักเทนนิสวัย 26 ปีที่ยังรู้สึกสับสนกับความรู้สึกภายในที่ครึ่งหนึ่งอยากอำลาวงการ หากอีกครึ่งหนึ่งห้ามไว้ด้วยความรู้สึกที่ว่า เทนนิสคือทุกสิ่งในชีวิต แม้กระทั่งความสัมพันธ์กับแฟนสาว บรู๊ค ชีลด์ เมื่ออังเดร ตัดสินใจของหญิงสาวแต่งงาน หากแต่ยังมีส่วนลึกภายในใจบอกกับตนเองว่า ควรรอไปก่อน
เมื่อไม่รู้ว่าจะเลือกเลี้ยวซ้าย ขวา หรือ ตรงไป ที่สุด อังเดร ตัดสินใจเลือกทุกอย่างตามความรู้สึก เขายังคงลงสนามแข่งต่อไป แม้ว่าผลงานจะย่ำแย่ลงเรื่อย รวมไปถึงการตกรอบแรกในการแข่งขันแกรนด์สแลมวิมเบิลดันปี 1996 ซึ่งเจ้าตัวบรรยายไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติว่า “การตกรอบอย่างรวดเร็วในวิมเบิลดัน ช่วยให้ผมกับ บรู๊คได้กลับไปเตรียมเรื่องงานหมั้น และงานแต่งที่ลอสแองเจลลิสได้เร็วขึ้น
แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในรายการระดับแกรนด์สแลม หาก อังเดร ยังคงได้รับความไว้วางใจจากทีมชาติสหรัฐฯ ในการลงสู่สนามโอลิมปิกแอตแลนต้า แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ตั้งความหวังเอาไว้มากมายนัก หากการกรุยทางให้ตนเองผ่านเข้าจนถึงรอบชิงชนะเลิศในแอตแลนต้า และคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาคล้องคอได้กลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำให้สุดท้ายแล้วอากัสซี่ กลายเป็นนักเทนนิสที่สามารถคว้าแกรนด์สแลมมาครองได้ทุกรายการ และ เหรียญทองโอลิมปิกได้ยกระดับให้ ลูกครึ่งอิหร่าน – อเมริกันรายนี้คือตำนานผู้ทำ “โกลเด้น สแลม”
ความพ่ายแพ้ต่อ ไมเคิล ชาง ชนิดถอดใจของอังเดร ในออสเตรเลียน โอเพ่นเปรียบเสมือน “ความกระเพื่อม” ของอารมณ์ เมื่อเจ้าตัวไม่พยายามที่จะเอาชนะทั้งใจ และ คู่แข่งส่งให้กลายเป็นความพ่ายแพ้เรื้อรัง ต่อเนื่องไปจนถึง พฤติกรรมก้าวร้าวในการแข่งขัน ที่ทำให้อังเดรถูกปรับเป็นเงินหลายพันดอลล่าร์ รวมไปถึง “อาการต่อต้านสื่อ” ไม่ยอมเข้าห้องแถลงข่าวหลังจบการแข่งขัน ซึ่งเจ้าตัวยินยอมให้ทางฝ่ายจัดการของทัวร์นาเมนท์ปรับเงิน โดยไม่รู้สึกเสียดายซึ่งอังเดร บรรยายไว้ในหนังสือของตนเองว่า “เป็นเงินที่คุ้มค่าต่อการจ่าย”
อาการของอังเดร ในห้วงเวลาดังกล่าวเปรียบเสมือนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตนักเทนนิสวัย 26 ปีที่ยังรู้สึกสับสนกับความรู้สึกภายในที่ครึ่งหนึ่งอยากอำลาวงการ หากอีกครึ่งหนึ่งห้ามไว้ด้วยความรู้สึกที่ว่า เทนนิสคือทุกสิ่งในชีวิต แม้กระทั่งความสัมพันธ์กับแฟนสาว บรู๊ค ชีลด์ เมื่ออังเดร ตัดสินใจของหญิงสาวแต่งงาน หากแต่ยังมีส่วนลึกภายในใจบอกกับตนเองว่า ควรรอไปก่อน
เมื่อไม่รู้ว่าจะเลือกเลี้ยวซ้าย ขวา หรือ ตรงไป ที่สุด อังเดร ตัดสินใจเลือกทุกอย่างตามความรู้สึก เขายังคงลงสนามแข่งต่อไป แม้ว่าผลงานจะย่ำแย่ลงเรื่อย รวมไปถึงการตกรอบแรกในการแข่งขันแกรนด์สแลมวิมเบิลดันปี 1996 ซึ่งเจ้าตัวบรรยายไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติว่า “การตกรอบอย่างรวดเร็วในวิมเบิลดัน ช่วยให้ผมกับ บรู๊คได้กลับไปเตรียมเรื่องงานหมั้น และงานแต่งที่ลอสแองเจลลิสได้เร็วขึ้น
แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในรายการระดับแกรนด์สแลม หาก อังเดร ยังคงได้รับความไว้วางใจจากทีมชาติสหรัฐฯ ในการลงสู่สนามโอลิมปิกแอตแลนต้า แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ตั้งความหวังเอาไว้มากมายนัก หากการกรุยทางให้ตนเองผ่านเข้าจนถึงรอบชิงชนะเลิศในแอตแลนต้า และคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาคล้องคอได้กลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำให้สุดท้ายแล้วอากัสซี่ กลายเป็นนักเทนนิสที่สามารถคว้าแกรนด์สแลมมาครองได้ทุกรายการ และ เหรียญทองโอลิมปิกได้ยกระดับให้ ลูกครึ่งอิหร่าน – อเมริกันรายนี้คือตำนานผู้ทำ “โกลเด้น สแลม”
