xs
xsm
sm
md
lg

"รัฐภาคย์" เอาไงดี? / เด็กปั๊ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ "ON TRACK" โดย เด็กปั๊ม

ท่ามกลางกระแสเลือกตั้งฟีเวอร์ในช่วงเย็นของวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ผมเองตัดสินใจหยิบรีโมทเปลี่ยนไปดูการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการอิตาเลียนจีพี เป็นการชั่วคราวเพื่อลุ้นผลงานของ "เจ้าฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อีกสักตั้ง หลังเจ้าตัวไม่จบการแข่งขันมาตลอด 4 เรซล่าสุด แต่สุดท้ายก็เป็นอีกเรซครับที่น้องชายของผมไม่จบการแข่งขัน

โดยภาพแรกที่ฟีมออกกล้องผ่านทางการถ่ายทอดสดจากสนามมูเจลโล เซอร์กิต มายังบ้านเราคือภาพที่เขานั่งอยู่ในพิตบ็อกซ์ของทีมสต็อป แอนด์ โก (SAG) ขณะที่การแข่งขันยังเหลืออีก 6 รอบสนาม นั่นหมายถึงมีการไม่มีแต้มติดมือเป็นสนามที่ 7 จาก 8 เรซของปีนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลงานที่น่าผิดหวังเพราะเวลานี้ฟีมเองมีเพียง 4 แต้ม รั้งอยู่อันดับ 29 ในตารางแชมเปียนชิป โมโตทู

เรื่องของคะแนน และอันดับในปีนี้เราคงไม่ต้องไปพูดถึงครับ แต่สิ่งที่เป็นคำถามในเวลานี้คือเกิดอะไรขึ้นกับรัฐภาคย์ รวมถึงจะทำอย่างไรให้นักบิดหนึ่งเดียวของไทยกลับมาคืนฟอร์มและเก็บแต้มให้ได้อีกครั้ง ซึ่งก็ต้องบอกว่าช่วงเวลาพักเบรก 2 สัปดาห์ก่อนถึงการแข่งขันที่เยอรมนี น่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ฟีมและทีมงานเรียกความมั่นใจต่างๆกลับมาให้ได้

ปัญหาของฟีมในปีนี้ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเรื่องของสภาพร่างกายที่ยังคงมีอาการเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า ขณะเดียวกันอุบัติเหตุที่ล้มในหลายสนามล่าสุดก็บั่นทอนขวัญกำลังใจไปพอสมควร ผมเองได้เห็นภาพการล้มของฟีมในรอบซ้อมที่มูเจลโล ก็อดสยองแทนไม่ได้ แต่ยังดีที่เจ้าตัวกลับมาแข่งต่อได้ ทว่าสุดท้ายก็ไม่อาจฝืนอาการบาดเจ็บเพื่อบิดให้ครบรอบได้

ผมเองมีโอกาสได้พูดคุยกับ "น้าบาน" สุทธิสาร แววสมณะ อดีตช่างเครื่องคู่ใจของฟีม หลังจบการแข่งกันที่แอสเซน เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน น้าบานมองว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือการให้ฟีมพักการแข่งขันสัก 1-2 สนาม เพื่อเรียกความฟิตให้เต็มที่รวมถึงเรียกความมั่นใจให้กลับมา แต่ในทางปฏิบัติแล้วคงเป็นเรื่องยากครับ เพราะสัญญาที่ทีมงานทำกับฝ่ายจัดไว้คือต้องมีรถหมายเลข 14 ลงบิดให้ครบทุกเรซ ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีการเสียค่าปรับกันไป

ส่วนอีกหนึ่งปัญหาสำคัญคือเรื่องของทีมงาน สต็อป แอนด์ โก (SAG) ต้นสังกัดสัญชาติสเปน ที่ดูอย่างไรก็เซ็ตอัพรถได้ไม่เอาอ่าว และเมื่อไปเทียบดูเวลาของเพื่อนร่วมทีมอย่างซานติ เฮอร์นานเดซ ก็ดูจะแย่พอๆกัน แม้ว่าปีนี้จะเปลี่ยนจากเฟรมบิโมตา มาเป็น เอฟทีอาร์ แต่เหมือนทีมงานของเอดูอาร์โด เปราเลส ดูจะชั้นไม่ถึงจริงๆครับ มีอย่างที่ไหนเวลาต่อรอบในการควอลิฟายช้ากว่านักบิดหัวแถวถึง 5 วินาที

แน่นอนว่าอีกผลงาน 9 สนามที่เหลือในปี 2011 จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของรัฐภาคย์ในปีหน้าว่าจะได้บิดต่อหรือไม่ เรื่องหัวจิตหัวใจเจ้าตัวยืนยันเองว่าไม่มีท้อ ส่วนปัจจัยอื่นๆคงต้องฝากไปยัง เสี่ยอารักษ์ พรประภา ผู้บริหารเอพีฮอนด้า อีกสักครั้งครับ ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับหลายปัญหาที่กำลังรุมเร้านักบิดคู่บุญอยู่ในเวลานี้
กำลังโหลดความคิดเห็น