รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกโมโตทูชิงแชมป์โลก สังกัดทีมไทยฮอนด้าสิงห์แซก ยืนยันพร้อมสู้ต่อในการแข่งขันในอีก 10 สนามที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าจะมีผลงานน่าผิดหวังเก็บได้เพียง 4 แต้มจาก 7 สนามแรกของฤดูกาล 2011 ที่ผ่านมา
"เจ้าฟีม" ทำผลงานในศึกโมโตทู 2011 ภายใต้รถแข่งฮอนด้า-FTR ได้ไม่สู้ดี หลังจบการแข่งขันได้เพียง 2 จาก 7 สนามแรกของฤดูกาล และจากผลการแข่งขันสนามล่าสุดรายการดัตช์ ทีที นักบิดวัย 23 ปี จากชลบุรี ต้องออกจากการแข่งขันอีกครั้งหลังพลาดล้มในรอบที่ 5 ที่แอสเซน เซอร์กิต ประเทศเนเธอร์แลนด์
แม้ผลงานจะไม่เข้าเป้าแต่รัฐภาคย์ ยังคงยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะทำตามฝันของตัวเองว่า "แน่นอนมันคือความผิดหวัง ผมต้องขอโทษแฟนชาวไทยที่ยังผลงานไม่ได้ตามเป้า แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป ผมยังไม่ท้อที่จะกลับมาไล่ล่าแต้มรวมถึงโพเดียมที่ฝันเอาไว้ ที่สำคัญมันคือโอกาสของผมที่ต้องไขว้คว้าเอาไว้เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะก้าวมาได้ถึงการแข่งขันระดับโลกเช่นนี้"
พร้อมกันนี้เมื่อถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของทีมงานและสุขภาพของตัวเองเจ้าฟีมเผยว่า "ทีมงานสต็อปแอนด์โก(แซก)ทำงานในหน้าที่ของตัวเองกันอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่าทุกอย่างมันยังไม่เป็นใจเหมือนในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งทั้งผมและทีมงานขอยืนยันว่าจะสู้เต็มที่กับ 10 สนามที่เหลือของฤดูกาล"
สำหรับผลงานที่ไม่สู้ดีของรัฐภาคย์ในฤดูกาลนี้มีการวิเคราะห์จาก "บ้าบาน" สุทธิสาร แววสมณะ อดีตช่างเครื่องคู่ใจในเรื่องของตัวรถว่า รถแข่งบิโมตาในปี 2010 แม้จะทำความเร็วสูงสุดสู้รถกลุ่มหัวแถวไม่ได้แต่ถือเป็นรถที่ขับขี่ง่ายมากกว่ารถ FTR ในฤดูกาลนี้ ที่แม้จะทำความเร็วในทางตรงยาวๆได้ดีแต่มักจะมีปัญหาในการเข้าโค้ง ขณะเดียวกันปัญหาสุขภาพของเจ้าตัวก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ให้ฟีมไม่จบการแข่งขันในหลายๆสนามในปีนี้
โดยศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามต่อไปจะเป็นการแข่งขันรายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมูเจลโล ประเทศอิตาลี ในวันอาทิตย์ที่ 3 มิ.ย.นี้
"เจ้าฟีม" ทำผลงานในศึกโมโตทู 2011 ภายใต้รถแข่งฮอนด้า-FTR ได้ไม่สู้ดี หลังจบการแข่งขันได้เพียง 2 จาก 7 สนามแรกของฤดูกาล และจากผลการแข่งขันสนามล่าสุดรายการดัตช์ ทีที นักบิดวัย 23 ปี จากชลบุรี ต้องออกจากการแข่งขันอีกครั้งหลังพลาดล้มในรอบที่ 5 ที่แอสเซน เซอร์กิต ประเทศเนเธอร์แลนด์
แม้ผลงานจะไม่เข้าเป้าแต่รัฐภาคย์ ยังคงยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะทำตามฝันของตัวเองว่า "แน่นอนมันคือความผิดหวัง ผมต้องขอโทษแฟนชาวไทยที่ยังผลงานไม่ได้ตามเป้า แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป ผมยังไม่ท้อที่จะกลับมาไล่ล่าแต้มรวมถึงโพเดียมที่ฝันเอาไว้ ที่สำคัญมันคือโอกาสของผมที่ต้องไขว้คว้าเอาไว้เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะก้าวมาได้ถึงการแข่งขันระดับโลกเช่นนี้"
พร้อมกันนี้เมื่อถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของทีมงานและสุขภาพของตัวเองเจ้าฟีมเผยว่า "ทีมงานสต็อปแอนด์โก(แซก)ทำงานในหน้าที่ของตัวเองกันอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่าทุกอย่างมันยังไม่เป็นใจเหมือนในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งทั้งผมและทีมงานขอยืนยันว่าจะสู้เต็มที่กับ 10 สนามที่เหลือของฤดูกาล"
สำหรับผลงานที่ไม่สู้ดีของรัฐภาคย์ในฤดูกาลนี้มีการวิเคราะห์จาก "บ้าบาน" สุทธิสาร แววสมณะ อดีตช่างเครื่องคู่ใจในเรื่องของตัวรถว่า รถแข่งบิโมตาในปี 2010 แม้จะทำความเร็วสูงสุดสู้รถกลุ่มหัวแถวไม่ได้แต่ถือเป็นรถที่ขับขี่ง่ายมากกว่ารถ FTR ในฤดูกาลนี้ ที่แม้จะทำความเร็วในทางตรงยาวๆได้ดีแต่มักจะมีปัญหาในการเข้าโค้ง ขณะเดียวกันปัญหาสุขภาพของเจ้าตัวก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ให้ฟีมไม่จบการแข่งขันในหลายๆสนามในปีนี้
โดยศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนามต่อไปจะเป็นการแข่งขันรายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมูเจลโล ประเทศอิตาลี ในวันอาทิตย์ที่ 3 มิ.ย.นี้
