ผ่าทีมยอดเยี่ยมไทยลีกเลกแรก

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ศึกลูกหนังสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ผ่านการประลองเพลงแข้งมาแล้วครึ่งทาง โดยในส่วนของสโมสรนั้นแชมป์เลกแรกตกเป็นของ บุรีรัมย์ พีอีเอ ขณะที่ผู้เล่นนั้นพอจะเห็นหน้าเห็นหลังกันแล้วว่าใครบ้างที่ทำผลงานโดดเด่นสะดุดตา MGR Sport จึงขอจัดทีมยอดเยี่ยมประจำเลกแรกในระบบเน้นเกมรุกอย่าง 4-3-3 ซึ่งมีโฉมหน้าดังนี้

ผู้รักษาประตู : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ พีอีเอ)
“เจ้าแชมป์” มีสถิติเสียไปเพียง 6 ลูกเป็นเครื่องการันตีความเหนียวหนึบ อีกทั้งยังทำได้ดีในการอ่านเกม, การตัดลูกกลางอากาศ และความนิ่งในจังหวะดวลตัวต่อตัวจนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในทีมชาติไทยของ กวิน ธรรมสัจจานันท์ และ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล

แบ็กขวา : จักรพันธ์ แก้วพรม (บุรีรัมย์ พีอีเอ)
แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งถนัด แต่ “เจ้าโน้ต” กลับเล่นได้อย่างเนียนตาในการเติมเกมรุกขึ้นไปทำทางให้เพื่อนใส่สกอร์ได้หลายหน ขณะที่เกมรับก็ไม่บกพร่องจนการขาดหายไปของ อภิเชษฐ์ พุฒตาล ไม่ส่งผลกระทบกับทีม ว่ากันว่าถึงเวลาแล้วที่ควรมีชื่อเขาอยู่ในโผทีมชาติ

เซนเตอร์ฮาล์ฟขวา : นิเวส ศิริวงศ์ (พัทยา ยูไนเต็ด)
แม้อายุจะปาเข้าไป 33 ปี แต่ “เจ้าเป็ด” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในแผงหลังของ “โลมาฟ้าขาว” อยู่ นอกจากนั้นยังเพิ่มความอันตรายให้ตัวเองด้วยลูกฟริคิกอันทรงพลัง ซึ่งตอนนี้กดไปแล้ว 3 ลูก จนรั้งรองดาวซัลโวของทีม

เซนเตอร์ฮาล์ฟซ้าย : อันแดร์สัน โดส ซานโตส (บุรีรัมย์ พีอีเอ)
ปราการหลังร่างโย่งชาวบราซิลกลายเป็นเสาเอกในแนวรับธันเดอร์ คาสเซิล แบบถาวรจากสไตล์การเล่นที่ดุดัน เข้าปะทะหนักแน่น อ่านทางบอลเยี่ยม และยังมีทีเด็ดในการเติมขึ้นมาลุ้นพังประตูจากลูกเซตพีซอีกด้วย

แบ็กซ้าย : อนุชา กิจพงษ์ศรี (ชลบุรี)
ถึงแม้คลื่นลูกใหม่อย่าง ธีราทร บุญมาทัน จะกำลังมาแรง แต่หากดูจากประวัติที่กลับมาสวมสตั๊ดอีกครั้งหลังเคยเจ็บหนักจนเลิกเล่นไป จึงขอยกตำแหน่งนี้ให้ “เจ้าบอย” ที่คืนฟอร์มเก่งใกล้เคียงกับสมัยเป็นดาวรุ่ง จนทำให้เกมฝั่งซ้ายของ “ฉลามชล” ในซีซันนี้กลายเป็นที่ครั่นคร้าม

กองกลางตัวรับ : คาซุโตะ คูชิดะ (ชลบุรี)
“คูชิ” คือ การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของยอดทีมแห่งภาคตะวันออก ซึ่งห้องเครื่องชาวญี่ปุ่นกลายมาเป็นหัวใจสำคัญที่คอยตัดเกมและเชื่อมเกมให้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น, อดุล หละโสะ และคนอื่นๆ บุกไปข้างหน้าได้อย่างอุ่นใจจากการเล่นง่ายๆ แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

กองกลางตัวรุกฝั่งขวา : ฮิโรโนริ ซารุตะ (บางกอกกล๊าส)
“ซารุ” เค้นฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้สำเร็จ ด้วยสปีดต้นอันจัดจ้าน, ความขยันทุ่มเท และการร่วมเล่นเป็นทีม มีส่วนพากระต่ายแก้วพุ่งทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง ขณะที่ปีกร่างเล็กเองก็สอยตาข่ายไปแล้ว 7 เม็ด

กองกลางตัวรุกฝั่งซ้าย : แฟรงค์ อาชีมปง (บุรีรัมย์ พีอีเอ)
นี่คืออาวุธสำคัญที่ช่วยให้ปราสาทสายฟ้าเป็นพยัคฆ์ติดปีกบนบัลลังก์จ่าฝูงโดยทิ้งห่าง ชลบุรี ถึง 10 แต้ม ดาวเตะชาวกานาครบเครื่องด้วยความเร็ว, เทคนิค, ความแข็งแกร่งที่หาตัวจับยาก สามารถเรียกจุดโทษได้บ่อยครั้ง

กองหน้าฝั่งขวา : วสันต์ นาทะสัน (เชียงราย ยูไนเต็ด)
19 ประตูที่น้องใหม่อย่าง “กว่างโซ้งมหาภัย” ทำได้ในครึ่งซีซันแรกมาจากปลายสตั๊ดของ “บอย เจียงฮาย” ถึง 9 ลูก ซึ่งหากกองหน้าหมายเลข 40 ยังยิงระเบิดต่อไป ทีมดังจากเหนือสุดแดนสยามก็น่าจะรอดตกชั้นได้ไม่ยาก

กองหน้าฝั่งซ้าย : เลอันโดร โดส ซานโตส (อาร์มี่ ยูไนเต็ด)
ในบรรดา “บราซิเลียน คอนเน็คชัน” ทั้ง 5 ราย เลอันโดร นับว่ามีบทบาทมากที่สุดในการยกระดับทีมกองทัพบกให้หลุดพ้นจากสถานภาพทีมหนีตาย โดยเวลานี้กดไปแล้ว 12 ลูก ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมของลีก

กองหน้าตัวกลาง : ศรายุทธ ชัยคำดี (บางกอกกล๊าส)
บัดนี้ระยะทำการของดาวยิงวัย 29 ปีไม่ได้จำกัดเฉพาะหน้าปากประตูจนแฟนบอลต่างสนับสนุนให้ใช้ฉายา “โจ้ ทุกหลา” แทน “โจ้ 5 หลา” ซึ่งผลงาน 12 ประตูที่ยิงให้บีจีถือว่าสมศักดิ์ศรีกับตำแหน่งดาวซัลโวเลกแรก

หัวหน้าผู้ฝึกสอน : อรรถพล ปุษปาคม (บุรีรัมย์ พีอีเอ)
วลีที่ว่า “ตารางคะแนนไม่เคยโกหกใคร” ดูจะอธิบายผลงานของ “โค้ชแต๊ก” ได้ดี หลังนำทัพลูกหนังแดนอีสานใต้ครองจ่าฝูงด้วยสถิติชนะเยอะที่สุดถึง 13 ครั้ง แพ้น้อยที่สุดเพียงนัดเดียว เก็บไปถึง 42 จาก 51 แต้มเต็ม