ASTV ผู้จัดการรายวัน - ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม "วิมเบิลดัน" ครั้งที่ 125 การดวลแร็กเก็ตบนคอร์ตดินที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังของออลอิงแลนด์ เทนนิสคลับ จะเริ่มต้นการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายนนี้ โดยการแข่งขันในฟากชายเดี่ยวนั้นถือเป็นภาคต่อจากเฟรนช์ โอเพ่น เพราะมือหนึ่งถึงสี่ของโลกพาเหรดลงสนามอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีแอนดี้ เมอร์เรย์ เป็นขวัญใจเจ้าถิ่น ส่วนประเภทหญิงเดี่ยวนั้น การกลับคืนสู่คอร์ตของสองพี่น้อง วิลเลี่ยมส์ ได้กลายเป็นเครื่องปรุงรสชั้นดีที่ทำให้การขับเคี่ยวในแวดวงลูกสักหลาดหญิงกลับมามีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น
หลังจบการแข่งขันเฟรนช์ โอเพ่น แกรนด์สแลมบนคอร์ตดินไปเพียงสองสัปดาห์ การแข่งขันเพื่อชิงความเป็นเจ้าของคอร์ตหญ้า ในวิมเบิลดัน 2011 ก็ถึงเวลาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการซึ่งความน่าสนใจบนสนามออลอิงแลนด์ เทนนิสคลับประจำปีนี้ สปอตไลท์ยังคงฉายจับไปที่ฟากของชายเดี่ยว ที่มือหนึ่งถึงสี่ของโลกอันประกอบไปด้วย แชมป์เฟรนช์โอเพ่นปีล่าสุด ราฟาเอล นาดาล (1) โนวัค ยอโควิช (2) โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (3) และ แอนดี้ เมอร์เรย์ (4) ต่างตบเท้าลงสนามอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยที่ทุกรายอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เกือบร้อยเปอร์เซนต์
โดยนักเทนนิสทั้งสี่รายนั้นเมื่อจบการแข่งขันเฟรนช์ โอเพ่น มีเพียง ราฟาเอล นาดาล และ แอนดี้ เมอร์เรย์ ที่ลงสนามควีนส์ คลับ ซึ่งผลการแข่งขันปรากฎว่า นาดาล นั้นไปได้ไกลเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ ขณะที่ แอนดี้ เมอร์เรย์ สามารถเปลี่ยนฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวังในเฟรนช์โอเพ่น มาคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองอันเป็นเหตุให้บรรดาสื่อในอังกฤษ ต่างมั่นใจว่าโอกาสที่เมอเรย์ จะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมน่าจะเกิดขึ้นในวิมเบิลดันครั้งที่ 125 เพราะพร้อมทั้งฝีมือและร่างกาย
ส่วนราฟาเอล นาดาล นั้นผลงานตกรอบก่อนรองชนะเลิศ เรียกได้ว่าต่ำกว่ามาตรฐานการเล่นของผู้ที่เพิ่งคว้าแชมป์แกรนด์สแลมาครอง แต่เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เจ้าตัวใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนวิมเบิลดัน ด้วยการไปพักผ่อนกับครอบครัว ทำให้เชื่อได้ว่า การตกรอบทีเอกอน ไม่ได้สร้างความกดดันใดๆ ต่อนาดาล และ ในฐานะแชมป์เก่าเมื่อปี 2010 “เอล มาทาดอ” ที่ไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน น่าจะเดินทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ไม่ยากเย็นนัก
ทางด้านโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ โนวัค ยอโควิช ที่ไม่ได้ลงสนามอุ่นเครื่องการแข่งขันรายการใดเลย ได้ใช้เวลา สองสัปดาห์หลังจบศึกเฟรนช์โอเพ่น เป็นการพักผ่อนก่อนถึงศึกใหญ่ โดยในรายของเฟเดอเรอร์ ยังคงเป็นอดีตมือหนึ่งโลกที่ใครก็ประมาทไม่ได้เพราะผลงาน แชมป์ 6 สมัยของรายการนี้อยู่ในลำดับที่เป็นรองเพียง พีท แซมพราส (7 สมัย) และ วิลเลี่ยม เรนชอว์ เท่านั้นแม้ว่าผลงานเมื่อปีที่แล้วจะเป็นฝันร้ายของ “เฟดเอ็กซ์” หลังพ่ายแบบหมดรูปให้กับหลังพ่ายแพ้ให้กับโธมัส เบอร์ดิช มือวางอันดับที่ 12 ของรายการ
แต่ฟอร์มบนคอร์ตดินของนักเทนนิสชาวสวิส เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นที่เฉียบขาดมากยิ่งขึ้นเมื่อถึงการแข่งขันบนคอร์ตหญ้าที่เจ้าตัวถนัด ผลในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม อาจเปลี่ยนไปจาก เฟรนช์โอเพ่น ก็เป็นได้ ส่วน โนวัค ยอโควิช แร็กเกตหนุ่มที่เรียกได้ว่าฟอร์มร้อนตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าผลงานที่โรลังด์ การ์รอส จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังแถมด้วยอาการบาดเจ็บจนต้องหยุดพักเพื่อถนอมตัวสู่วิมเบิลดัน ซึ่งปีที่แล้วนักเทนนิสชาวเซิร์บรายนี้ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ และปีนี้ โนเล มาด้วยฟอร์มที่แกร่งกว่าเดิมหลังคว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น เมื่อต้นปีจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นเจ้าของตำแหน่งมือวางอันดับ 2 ของโลกเข้าสู่รอบที่ลึกกว่าปีที่ผ่านมา
สำหรับการแข่งขันในประเภทหญิงเดี่ยวนั้น ต้องยอมรับว่าการกลับมาของ สองพี่น้องวิลเลี่ยมส์ ทั้งวีนัส และ เซเรน่า ได้สร้างความคึกคักให้กับรายการได้มากกว่าเดิม หลังจากคิม ไคลจ์สเตอร์ ประกาศถอนตัวจากรายการ ทำให้การขับเคี่ยวถ้วยแชมป์ของฟากหญิงนั้น มีการวางตัวเต็งแชมป์ไว้ไม่เกินสี่รายคือ วีนัส เจ้าของแชมป์รายการนี้ 5 สมัย เซเรน่า 4 สมัยและเป็นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ มาเรีย ชาราโปว่า เคยสร้างผลงานบนคอร์ตหญ้าที่ออลอิงแลนด์ไว้ในปี 2004 และอีกรายที่ถูกยกให้เป็นตัวเต็งคือ หลี่ นา สาวจีนเพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตนเองด้วยการเป็นนักเทนนิสหญิงจากเอเชียรายแรกที่คว้าแกรนด์สแลมมาครองได้สำเร็จจากเฟรนช์ โอเพ่น
ทั้งหมดนี้คือความน่าสนใจในการชิงชัยแกรนด์สแลมบนคอร์ตหญ้าครั้งที่ 125 ส่วนนักเทนนิสทั้งชายและหญิงในข้างต้นจะโชว์ฟอร์มได้ตามที่คาดหวังหรือไม่ ผลการแข่งขันจะออกมาซ้ำรอยปี 2010 อย่างที่บรรดาเกจิทั้งหลายฟันธงไว้ก่อนหน้านี้ หรือสุดท้ายแล้วจะมีม้ามืดแจ้งเกิดขึ้นในวงการ เหล่านี้คือสิ่งที่แฟนเทนนิสจะต้องติดตามการแข่งขันตลอดสอบสัปดาห์ชนิดที่พลาดไม่ได้แม้แต่แมทช์เดียว
