คอลัมน์ ONTRACK / เด็กปั๊ม
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคอความเร็วชาวไทยคงจะผิดหวังไปตามๆกันกับผลงานของ "เจ้าฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ที่ในปีนี้ดูจะติดๆขัดในเรื่องของสุขภาพอย่างสนามล่าสุดที่คาลาลุนญาก็วืดลงแข่งเนื่องจากมีอาการมึนหัวจากการล้มในรอบวอร์มอัพ งานนี้อาจคงเป็นการบ้านข้อใหญ่ไปยังเสี่ยอารักษ์ พรประภา ผู้บริหารเอพีฮอนด้า ว่าจะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไรเพื่อให้นักบิดหนึ่งเดียวของไทยกลับมามีฮึดอีกครั้ง
ส่วนข่าวใหญ่ของวงการความเร็วโลกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นการที่สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) มีมติแบบไม่เป็นเอกฉันท์ให้บรรจุศึกเอฟวันรายการบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ เข้าสู่ปฏิทินแข่งปี 2011 ในวันที่ 30 ต.ค. หลังถูกยกเลิกไปในช่วงต้นปีเนื่องจากปัญหาความไม่สงบจากเหตุการณ์การเมืองในประเทศที่มีประชาชนรวมตัวประท้วงขับไล่รัฐบาล
ทันทีที่เอฟไอเอประกาศโปรแกรมการแข่งขันออกมา บรรดาทีมแข่ง และนักขับส่วนใหญ่ต่างออกมาโวยวายกันยกใหญ่ เพราะการนำเอาบาห์เรนไปแข่งขันในวันดังกล่าวจะต้องขยับศึกอินเดียน กรังด์ปรีซ์ ออกไปต่อท้ายฤดูกาลในวันที่ 11 ธ.ค.ทำให้เอฟวันปีนี้จะปิดฉากการแข่งขันช้าที่สุดเป็นประวัติการณ์นับจากปี 1963 ซึ่งกระทบต่อการหยุดพักและการเตรียมทีมในฤดูกาลหน้า
ก่อนหน้านี้ "เจ้าพ่อเอฟวัน" เบอร์นี เอคเคิลสโตน เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเอฟวันจะกลับไปยังบาห์เรนได้ก็ต่อเมืองทุกอย่างเคลียร์ แต่ที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนยิ่งกว่านั้นคือคำถามที่ว่าสถานการณ์ความรุนแรงสงบจริงๆหรือยัง เพราะภายหลังการประกาศมติของเอฟไอเอเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา นักขับอย่างมาร์ค เว็บเบอร์ รวมถึงตัวแทนกลุ่มสิทธิมนุษยชนในกรุงมานามาก็ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องดังกล่าว
โดยนาบิล ราเย็บ ประธานกลุ่มสิทธิมนุษยชนแห่งบาห์เรน ออกมาประณามมติของเอฟไอเอที่จะนำเอาบาห์เรน จีพีกลับมาจัดการแข่งขันในเดือนต.ค.นี้ โดยมองว่าเวลานี้ยังคงมีประชาชนล้มตายจากการปะทะกับฝ่ายรัฐบาล รวมถึงยังประณามรัฐบาลของตัวเองว่าตัดสินใจโดยที่ไม่คิดถึงเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนในประเทศ ขณะที่เว็บเบอร์ นักซิ่งเรดบูลล์ก็มองว่าเรื่องของสันติสุขในประเทศต้องมาก่อน
ที่สำคัญยังมีกระแสข่าวซุบซิบในเว็บไซต์มอเตอร์สปอร์ตต่างประเทศว่าบรรดาผู้บริหารทีมแข่งหลายทีมนำโดยเรดบูลล์ เรซซิง อาจรวมตัวกันประท้วงไม่ลงแข่งสนามดังกล่าวเนื่องจากไม่พอใจมติเอฟไอเอในครั้งนี้ จนทำให้ฌอง ทอดด์ ประธานเอฟไอเอ เตรียมนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่เพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 30 มิ.ย.
งานนี้ฝ่ายที่โดนจวกไปเต็มๆคงหนีไม่พ้นองค์กรใหญ่อย่างเอฟไอเอ แต่จริงๆแล้วหลายคนก็รู้กันดีว่าตัวการสำคัญที่จะชี้นิ้วให้มีการแข่งขันที่ไหนขึ้นอยู่กับเอคเคิลสโตน ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ประจำศึกเอฟวันนั่นเอง เพราะจากการประเมินการที่เอฟวันหายไป 1 สนามฝ่ายจัดจะสูญรายได้ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3,000 ล้านบาท) ซึ่งจอมเขี้ยวอย่างเบอร์นีคงไม่ยอมเป็นอันขาด
คงต้องดูว่าเม็ดเงินอันมหาศาลจากการแข่งขันฟอร์มูลา วัน กับข้อเรียกร้องด้านมนุษยธรรมในการบรรจุ "บาห์เรน จีพี" เข้าสู่ปฏิทินเอฟวันอีกครั้งในปีนี้ บทสรุปสุดท้ายเบอร์นีและเอฟไอเอ พวกเขาจะตัดสินใจเช่นไร