xs
xsm
sm
md
lg

"บราวน์" โค้ชที่ใช่ของเลเกอร์ส? / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

เมื่อวันก่อน (พุธที่ 1 มิถุนายน 2554) แอลเอ เลเกอร์ส ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ตัดสินใจเซ็นสัญญา 4 ปี มอบความไว้วางใจให้ ไมค์ บราวน์ เข้ามาสืบทายาท "บิ๊กฟิล" ฟิล แจ็คสัน ตำนานโค้ชที่ตัดสินใจอำลาทีมหลังจบฤดูกาล 2010/11 ซึ่งผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าพลพรรค "ม่วง-ทอง" หลายคนคงคิดในใจว่า "จะไหวมั้ยเนี่ย ??"

หลังจากที่ "แชมป์เก่า" เลเกอร์ส โดน ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ กวาดซีรีส์ใส่แบบหน้าอาย 0-4 เกม ในเพลย์ออฟรอบสองฝั่งตะวันตก ดร.เจอร์รี บัสส์ เจ้าของทีมดังแห่งมหานครลอสแองเจลลิส ต้องเรียก จิม ลูกชายผู้นั่งในตำแหน่งของฝ่ายบริหาร รวมถึง มิทช์ คัพแช็ค ผู้จัดการทั่วไป มาหารือกันถึงผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน ฟิล แจ็คสัน ตอนแรกหลายฝ่ายคาดว่า เลเกอร์ส จะผลักดัน ไบรอัน ชอว์ อดีตการ์ดของตัวเอง ซึ่งเรียนรู้งานจาก "บิ๊กฟิล" มาหลายปี ขึ้นรับงานใหญ่

แต่ขึ้นชื่อว่า "งานใหญ่" คือการกอบกู้ศักดิ์ศรีเพื่อขึ้นไปเถลิงแชมป์สมัยที่ 18 ให้ได้โดยเร็ว ชอว์ จึงค่อนข้างเสียเปรียบเพื่อนร่วมการสัมภาษณ์งานทั้ง ไมค์ บราวน์ และ ริค อเดลมัน (โค้ชจอมเก๋าที่เคยนำ ซาคราเมนโต คิงส์ เข้าเพลย์ออฟ 8 ปีติดต่อกันตลอดการทำงานปี 1999-2006) แม้ผู้เล่นที่มีอิทธิพลสูงภายในทีมอย่าง โคบี ไบรอันท์ และ ดีเร็ค ฟิสเชอร์ ยกมือหนุนก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว จิม บัสส์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากพ่อ ให้มีอำนาจตัดสินใจถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ก็เลือก บราวน์ อดีตเฮดโค้ช คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส มาคุมบังเหียนในถิ่นสเตเปิล เซ็นเตอร์ ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าจ้าง 18 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 540 ล้านบาท)

วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บราวน์ เหมือนรู้งานพยายามโทรศัพท์ไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับ โคบี และ ฟิสเชอร์ พร้อมประกาศผ่านสื่อว่า "นี่ยังเป็นทีมของ โคบี" เหมือนเป็นการซื้อใจแม่ทัพประจำทีมก่อนในลำดับแรก หากใครจำกันได้ บราวน์ เคยโดน แดน กิลเบิร์ต เจ้าของทีมคลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เตะตกเก้าอี้เมื่อปีก่อน จนต้องมารับงานวิเคราะห์เกมกับสื่อยักษ์ใหญ่แดนมะกันอย่าง "อีเอสพีเอ็น" เนื่องจากไม่เป็นที่สบอารมณ์ของ เลอบรอน เจมส์ (อดีต) ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม ทั้งที่โค้ชวัย 41 ปี มีสถิติพา "แคฟส์แมน" ชนะถึง 272 แพ้แค่ 138 เกม ทะลุสู่โพสต์ซีซันตลอด 5 ฤดูกาลกับการทำงานในถิ่นควิกเคนโลนส์ อารีนา นำแฟรนไชส์เข้ารอบชิงในปี 2007 (ก่อนพ่ายเก๋า ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส 0-4 เกม) แถมยังมีดีกรีเป็นถึงโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี 2009

โดยหน้าที่ของ บราวน์ ก็แน่นอนคือการเข็น เลเกอร์ส กลับมาประกาศศักดาอีกครั้งเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลหน้า (2011/12) โดยสิ่งที่บอร์ดบริหารรวมถึง โคบี คาดหวังคือการเห็นโค้ชปรับเรื่อง "เกมรับ" ซึ่งซีซันที่ผ่านมาทีมโดนเจาะ 95.37 แต้มต่อเกมในฤดูกาลปกติ แม้เข้าเพลย์ออฟเสียเฉลี่ยน้อยลงตามเทรนด์เหลือ 94.5 แต้ม แต่ถ้าสังเกตให้ดี เลเกอร์ส เจอคู่แข่งชู้ตฟิลด์โกลจากเดิม 43.7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 47.2 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญโดนส่องสามแต้มลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ห่วยแตกเป็นรองแค่ นิวยอร์ก นิกส์ (46.7 เปอร์เซ็นต์) ในบรรดา 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

ส่วนเกมบุก บราวน์ ประกาศชัดจะไม่ใช้การรุกแบบ "ไทรแองเกิล" (การบุกที่ใช้ผู้เล่นยืนเซตเป็นสามเหลี่ยม) แต่จะใช้ประโยชน์จาก แอนดรูว์ บายนัม เซ็นเตอร์ดาวรุ่ง และ เพา กาซอล พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ร่างใหญ่ทีมชาติสเปนให้มากที่สุด เหมือนยุคที่ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส เคยมี "หอคอยคู่" อย่าง เดวิด โรบินสัน กับ ทิม ดันแคน คอยเล่นงานคู่แข่งราบเป็นหน้ากลองช่วงปลายยุค 90 ต่อต้นสหัสวรรษใหม่ โดย บราวน์ เคยเป็นผู้ช่วยโค้ช เกร็ก โพโพวิช ระหว่างปี 2000-03 น่าจะได้วิชามาประยุกต์ใช้กับ เลเกอร์ส ได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งเราต้องให้โอกาสกุนซือผิวสีรายนี้ลองทำงานดูก่อน หากไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นภายใน 2-3 ปี เชื่อเหลือเกินว่าตระกูล "บัสส์" คงรู้ว่าต้องตัดสินใจอย่างไรกันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น