xs
xsm
sm
md
lg

เทียบขุมพลัง "แมฟส์-ฮีท" คู่ชิง NBA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เช้าวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2554 ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) จะเปิดฉากดวลแชมป์ประจำฤดูกาล 2010/11 ในระบบผู้ชนะ 4 จาก 7 เกม (ซีรีส์แบบ 2-3-2) คว้า "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" ไปครอง ดังนั้นทีมข่าว MGR Sport ขอหยิบยกขุมกำลัง ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ กับ ไมอามี ฮีท มาทานกำลังกันว่าใครเหนือกว่าใคร

สมอล ฟอร์เวิร์ด
ชอว์น แมเรียน (แมฟส์) VS เลอบรอน เจมส์ (ฮีท)
แมเรียน เล่นได้ดีในเพลย์ออฟปีนี้ เฉลี่ย 11.2 แต้ม 6.3 รีบาวด์ แต่เขาต้องเผชิญงานยากที่สุดกับการรับมือ เลอบรน ซึ่ง สกอตตี พิพเพน อดีตฟอร์เวิร์ด ชิคาโก บูลส์ ถึงกับยกย่องให้เทียบชั้น ไมเคิล จอร์แดน ตำนาน NBA โดย เลอบรอน เป็นผู้กดสามแต้มท้ายเกม กอปรกับเล่นเกมรับใส่ เดอร์ริค โรส การ์ดดีกรีผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของบูลส์ จนเสียสูญในเกมสำคัญรอบชิงแชมป์สายตะวันออกที่ผ่านมา งานนี้ แมเรียน ต้องใช้ประสบการณ์ในการชะลอ เลอบรอน ให้มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่า 26.0 แต้ม 8.9 รีบาวด์ และ 5.5 แอสซิสต์ ให้จงได้
ความได้เปรียบ : ฮีท ข่มเห็นๆ

พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด
เดิร์ก โนวิตซกี (แมฟส์) VS คริส บอช (ฮีท)
โนวิตซกี โชว์ฟอร์มเหลือเชื่อในโพสต์ซีซันปีนี้ กด 40 แต้มหรือมากกว่าได้ 2 หน หนึ่งในนั้นเป็นการถลุง โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ 48 แต้ม แถมซูเปอร์สตาร์เยอรมนี ยังทำได้อีก 30 แต้มหรือมากกว่าอีกถึง 5 เกม ชู้ตฟิลด์โกลระดับ 50 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญสามแต้มยังแม่นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย ขณะที่ฟรีโทรล์ (ลูกโทษ) เชื่อขนมกินได้ระดับ 90 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น บอช คงรับมือลำบาก ในเมื่อเขาไม่ใช่ผู้เล่นสไตล์ใช้ร่างกายเข้าอัดตรงๆ อย่างไรก็ดี บอช มีทีเด็ดเกมรุกเช่นกัน เฉลี่ย 18.6 แต้ม 8.9 รีบาวด์ ฟอร์เวิร์ดฮีทคงใช้ความเด่นตรงนี้ลุยในเพื่อเก็บฟาล์วจาก โนวิตซกี ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ความได้เปรียบ : แมฟส์ เหนือชั้น

เซ็นเตอร์
ทายสัน แชนด์เลอร์ (แมฟส์) VS โจเอล แอนโธนีย์ (ฮีท)
แชนด์เลอร์ ช่วยให้ แมฟเวอร์ริกส์ มีสมดุลในทีมชุดตัวจริงและเล่นในแผน "พิก แอนด์ โรล" (การเล่นกับตัวสกรีน) ได้ดี ขณะที่ แอนโธนีย์ ได้สตาร์ทก่อน ซีดรูนาส อิเกาส์คาส เนื่องจากบล็อกลูกชู้ตคู่แข่งได้ดี แต่เมื่อปรับมาเล่นแบบ "สมอลบอล" (ใช้ผู้เล่นตัวเล็กเป็นหลัก) อูโดนิส ฮาสเลม ที่เพิ่งหายเจ็บน่าจะมีบทบาทลงมาช่วย
ความได้เปรียบ : แมฟส์ ยังดีกว่า

ชู้ตติ้ง การ์ด
เดชอว์น สตีเวนสัน (แมฟส์) VS ดีเวย์น เหว็ด (ฮีท)
"ดี-เหว็ด" ผลงานตกลงในซีรีส์เจอ ชิคาโก บูลส์ รอบชิงแชมป์สายตะวันออก ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะอาการเจ็บไหล่ แต่การ์ดซูเปอร์สตาร์ยังมีค่าเฉลี่ยเกือบๆ 24 แต้ม 7.2 รีบาวด์ 4.1 แอสซิสต์ ต่อเกม ด้วยชื่อชั้นที่เคยเป็นถึงผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงเมื่อปี 2006 พาทีมเป็นแชมป์ทั้งที่ไล่ตาม 0-2 เกม ดังนั้น สตีเวนสัน คงได้แค่ชะลอให้ได้นานที่สุด
ความได้เปรียบ : ฮีท เด่นกว่าเยอะ

พอยน์ท การ์ด
เจสัน คิดด์ (แมฟส์) VS ไมค์ บิบบี (ฮีท)
ประสบการณ์ของ คิดด์ มีความสำคัญยิ่งกับซีรีส์แบบนี้ เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่ใช้ช็อตคล็อกได้ดีที่สุด รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ช่วงท้ายเกม แมฟเวอร์ริกส์ คงพยายามใช้ประโยชน์จาก คิดด์ ในการเล่นงาน บิบบี ซึ่้งมีจุดอ่อนเรื่องเกมรับ บางที ฮีท อาจแก้ลำด้วยการส่ง มาริโอ ชาลเมอร์ส ที่เด่นเรื่องเกมรับมากกว่ามาต่อกรกับการ์ดจอมเก๋าวัย 38 ปี
ความได้เปรียบ : แมฟส์ เก๋าจริง

เหล่าผู้เล่นสำรอง
สำรองฮีท โดนวิจารณ์มาตลอดทั้งซีซัน แต่การกลับมาของ ไมค์ มิลเลอร์ และ อูโดนิส ฮาสเลม จากอาการบาดเจ็บช่วยทีมได้ไม่น้อย เจมส์ โจนส์ กับ "บิ๊กซี" ซีดรูนิส อิเกาส์คาส ถือเป็นแบ็กอัพฝีมือดี ขณะที่สำรองแมฟเวอร์ริกส์ โดดเด่นมาก เจสัน เทอร์รี เฉลี่ย 17.3 แต้มต่อเกม เจ.เจ.บาเรีย การ์ดเปอร์โตริโกร่างเล็กลุยสนุก เพยา สโตยาโควิช มีแม่นถูกจังหวะ
ความได้เปรียบ : แมฟส์ มีทางเลือกมากกว่า

โค้ช
ริค คาร์ไลส์ (แมฟส์) VS เอริค สโปเอลสตรา (ฮีท)
สโปเอลสตรา พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถกับการรับงานใหญ่ ตอบแทนความไว้วางใจ แพท ไรลีย์ ประธานทีมอย่างน่าประทับใจ โค้ชหนุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ ขุนแรงจูงใจของเหล่าสตาร์โดยเฉพาะ เลอบรอน ออกมาได้เต็มที่ ขณะที่ คาร์ไลส์ เคยประสบความสำเร็จในการคุมทัพ ดีทรอยต์ พิสตันส์ รวมถึง อินเดียนา เพเซอร์ส การมาทำงานกับทีมมากประสบการณ์อย่าง แมฟเวอร์ริกส์ ทั้งยังมี เทอร์รี สกอตต์ส อดีตผู้ช่วยคนเก่ง มิลวอล์คกี บัคส์ เป็นมือขวา
ความได้เปรียบ : ไม่มีใครข่มกันนัก

ปัจจัยที่จับต้องไม่ได้
หลังปราชัยเกม 6 รอบชิงเมื่อปี 2006 เหลือเชื่อที่ แมฟเวอร์ริกส์ มีชัยเหนือ ฮีท มา 10 เกมติด สองในนั้นเกิดขึ้นซีซันนี้ แต่ความพ่ายแพ้ที่ดัลลัส 95-106 คะแนน จุดประกายให้ ฮีท ฮึดชนะ 12 เกมรวด ก่อนเสียท่าคาถิ่นให้ "แมฟส์แมน" 96-98 คะแนน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ ฮีท จะเร่งเครื่องอีกครั้งจนทำสถิติชนะ 48 แพ้ 17 เกม เหนือกว่า แมฟเวอร์ริกส์ แค่เกมเดียว ส่งผลให้ท้ายที่สุดทีมดังแห่งฟลอริดา ได้เปรียบมีเกมในมือมากกว่า แม้ แมฟเวอร์ริกส์ เป็นทีมแม่นชู้ตฟิลด์โกลระดับ 46.3 เปอร์เซ็นต์ แต่เกมป้องกันไม่ถือว่าเด่นนัก จึงมีโอกาสโดน เลอบรอน และ ดี-เหว็ด ทะลวงใส่
ความได้เปรียบ " ฮีท เหลื่อมที่เกมรับ
โนวิตซกี ต้องลุยในเก็บฟาล์วด้วย
คิดด์ เตรียมโชว์ลูกเก๋า
เลอบรอน เด่นทั้งรุก-รับ
ดี-เหว็ด เปล่งประกายรอบชิง ?
กำลังโหลดความคิดเห็น