xs
xsm
sm
md
lg

"เสือเตี้ย" จ่อคุมบุรีรัมย์ฯเลก 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สะสม พบประเสริฐ ยังรอดูท่าทีผู้บริหาร กทท.ก่อนตัดสินใจ
"เสือเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ผู้จัดการทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ยอมรับเตรียมหารือคุมทัพ บุรีรัมย์ เอฟซี แห่งศึกดิวิชั่น 1 สัปดาห์หน้า แต่ขอรอดูท่าทีผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท. ก่อนตัดสินใจอำลาทีมในเลกที่ 2 ของศึกไทยพรีเมียร์ลีก

จากกรณีที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ยังไม่ได้ทำบันทึกความเข้าใจร่วมกัน หรือ MOU กับบริษัท ซุปเปอร์ริช แบงค็อก ผู้บริหารและผู้สนับสนุนทีมการท่าเรือไทย เอฟซี สโมสรดังแห่งศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ส่งผลให้สตาฟฟ์โค้ช และนักเตะแห่งถิ่น แพท สเตเดียม เริ่มไม่มั่นใจอนาคตของสโมสรจนเตรียมหาสังกัดใหม่ตามวิถีทางแห่งฟุตบอลอาชีพ

โดยในส่วนของกุนซือใหญ่ สะสม พบประเสริฐ ผู้จัดการทีม "สิงห์เจ้าท่า" เปิดเผยถึงอนาคตของตนในการโยกไปทำงานคุมทีม "นักรบลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี แห่งศึกดิวิชั่น 1 ว่า "ตอนนี้ยังคงมีการติดต่อกับสโมสรบุรีรัมย์ เอฟซี อยู่เสมอ ส่วนเรื่องจะเซ็นสัญญาในสัปดาห์หน้านั้นคงยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะเป็นแค่การพูดคุยหารือเท่านั้น บอกตามตรงว่าผมไม่รีบ ขอรอดูท่าทีของผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทยไปก่อน"

พร้อมกันนี้ "เสือเตี้ย" ยังยืนยันด้วยว่าสาเหตุของการตัดสินใจโยกไปคุมทีม "นักรบลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี นั้นขึ้นอยู่กับความจริงใจของผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย "หากว่าผมตัดสินใจจะไปจากการท่าเรือไทย เอฟซี จริงก็คงเป็นช่วงเลก 2 ของศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2011 แต่ยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก และการตัดสินใจครั้งนี้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวผมเอง หากแต่ขึ้นอยู่กับผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช้เป็นแค่เรื่องของการลงนามใน MOU หากแต่ยังบานปลายไปในส่วนของนโยบายการทำทีมว่ามีความจริงใจต่อกันเพียงใด รวมถึงปัญหาหนี้สินสโมสร และงบประมาณในการทำทีมด้วย"

ขณะเดียวกันยอดกุนซือผู้พาทีม "สิงห์เจ้าท่า" คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2009 และ โตโยต้า ลีก คัพ 2010 แสดงความมั่นใจว่าสโมสรดังย่านคลองเตย จะยังคงอยู่ต่อไปแม้ไม่มีตนกุมบังเหียนอีก "แม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่เป็นผู้จัดการทีมในช่วงเลก 2 แล้ว แต่สโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ก็ยังคงเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลไทยต่อไป ส่วนจะดีพอสำหรับการอยู่รอดในไทยพรีเมียร์ลีกต่อไปหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับทีมบริหารงานชุดใหม่ที่จะเข้ามารับหน้าที่ต่อซึ่งมันเป็นเรื่องของอนาคต"
กำลังโหลดความคิดเห็น