ส.บาส จี้ กกท.เร่งสับขั้วเก่าขั้นเด็ดขาด

"เสี่ยจอห์นนี่" สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา นายกสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยฯ เตรียมยื่นอุทธรณ์ถึงศาลปกครองแน่ หากนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานครยืนคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมฯ ขึ้นใหม่ทั้งชุด พร้อมเร่งให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินการสกัดขั้วอำนาจเก่าถึงขั้นเด็ดขาด โดยการยื่นหนังสือหมดอำนาจแจ้งต่อนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานครและกรมการปกครอง

หลังจากที่สมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยมี "เสี่ยจอห์นนี่" สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา เป็นนายกสมาคมฯ ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนต่อนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต่อสู้กับขั้วอำนาจเก่าที่มี สุเทพ เบ็ญจโภคี เป็นโต้โผในการยื่นอุทธรณ์คัดค้านจนกระทั่งนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานครมีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมฯ ขึ้นใหม่ทั้งชุดของสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด "เสี่ยจอห์นนี่" สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา เปิดเผยว่า "ขณะนี้คงต้องรอผลการยื่นอุทธรณ์ต่อนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร คาดว่าไม่เกิน 90 วัน ก็น่าจะทราบผล ทั้งนี้หากผลปรากฏตามคำตัดสินเดิมทางสมาคมฯ จะดำเนินขั้นตอนต่อไปคือ การยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง ทั้งนี้เมื่อปัญหายังหาบทสรุปไม่ได้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยควรที่จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เสียทีโดยจัดการตามกฏหมาย คือ การส่งหนังสือแจ้งต่อนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานครและกรมการปกครองให้ทราบว่าขั้วอำนาจเก่านั้นได้หมดอำนาจลงไปแล้วและควรจะจัดการถึงขั้นเด็ดขาดทันที"

เนื่องจากขั้วอำนาจเก่าที่นำโดย นายสุเทพ เบ็ญจโภคี อดีตนายกสมาคมบาสเกตบอลฯ 7 สมัย ได้บริหารงานภายในสมาคมฯ มาแบบผิดกฏหมายพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 และข้อบังคับของสมาคมบาสเกตบอลฯ ที่กำหนดให้สโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชำระค่าบำรุงประจำปีและต้องส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันเป็นเวลา 2 ปี อีกทั้งการรับสมัครสมาชิกไม่ชอบด้วยกฏหมาย ที่สำคัญการจัดการแข่งขันรายการต่างๆ ขั้วอำนาจเก่าไม่ได้เป็นผู้จัดทำขึ้นมาเอง แต่ได้จ้างวานให้บริษัทเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบแทน ทั้งนี้ปัญหาเกิดจากที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ให้ความไว้วางใจจากที่ได้รับตำแหน่งมาหลายสมัยจึงส่งไปประชุมฟีบาเมื่อปีที่ผ่านมา จึงทำให้เขายังเข้าใจว่าอำนาจในการบริหารสมาคมฯ ยังคงเดิม

ทั้งนี้ผมยืนยันในความบริสุทธิ์ใจในการเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ที่ได้ผ่านการเลือกตั้งมาอย่างถูกต้อง พร้อมได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยที่มี "บิ๊กโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงสมาคมกีฬากีฬ่ที่ใช้คำว่า "แห่งประเทศไทย" ได้แต่งตั้งให้ผมดำรงตำแหน่ง ประธานบริหารสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไปก่อนที่จะสะสางปัญหาเรื่องขั้วอำนาจเก่าให้เรียบร้อย เพื่อที่ผมจะได้ดำเนินงานของสมาคมฯ ที่ได้วางแผนกันไว้หลายรายการแล้ว

นอกจากนี้ผมอยากให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา ตัดสินใจระหว่างผลงานของขั้วอำนาจเก่าที่รับตำแหน่งมา 7 สมัย เป็นเวลา 14 ปี วงการบาสเกตบอลไทยก็ยังคงย่ำอยู่ที่เดิมหรือไม่ ทั้งนี้ระยะ 10 ปีหลัง บาสเกตบอลทีมชาติไทยไม่เคยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ และ เอเชียนเกมส์ สักครั้ง เมื่อเทียบจาก 3 เดือนที่ผมรับตำแหน่งนายกสมาคมฯ และเป็นเจ้าของทีมช้าง ไทยแลนด์ สแลมเมอร์ส ได้พาบาสเกตบอลไทยเป็นแชมป์ อาเซียนบาสเกตบอลลีก "เอบีแอล" ฤดูกาล 2010-2011 ได้สำเร็จ นอกจากนี้สมาคมฯ ได้จัดการแข่งขันบาสเกตบอลขึ้นเองโดยการจัดการแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพ คือ ไทยแลนด์ โอเพ่น อีกทั้งการแข่งขันถ้วยพระราชทาน ก.,ข.,ค. และเพื่อให้เป็นกึ่งอาชีพจึงได้จัดการแข่งขันบาสเกตบอลทั่วไทยขึ้น เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาบาสเกตบอลไทยสู่กีฬาเป็นเลิศ ซึ่งผมจะรู้สึกเสียใจมากหากวงการบาสเกตบอลจะกลับไปสู่จุดเดิม
 
สำหรับโอกาสการส่งนักบาสเกตบอลฯ เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ปลายปีนี้ที่อินโดนีเซีย "บอสใหญ่ยัดห่วงไทย" กล่าวอย่างมั่นใจว่า "ทีมชาติไทยได้ร่วมแข่งขันแน่นอน ทว่าหากปัญหาในประเทศยังไม่เรียบร้อยก็จะส่งรายชื่อผ่านทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย หรืออาจจะส่งในนามของสมาคมบาสเกตบอลฯ หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเจรจาของตัวแทน อลป. คือ นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตนายกสมาคมวอลเลย์บอลฯ มาช่วยเคลียร์ปัญหากับขั้วอำนาจเก่า ซึ่งเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจโดยล่าสุดบาสเกตบอลทีมชาติไทยได้มีผู้ฝึกสอนชาวต่างชาติ คือ คือ แซม วินเซอร์ อดีตดาวดังจากเอ็นบีเอ และ ซัลวาตอเร คอปปา ชาวอิตาลี มาเป็นโค้ชทีมชาติไทยเพื่อร่วมสู่เป้าหมายเหรียญทองซีเกมส์ทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง และได้เก็บตัวฝึกซ้อมที่ อาคาร 300 เตียง ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย"