xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กยัดห่วงปลื้ม "สแลมเมอร์ส" กู้ศักดิ์ศรีไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บิ๊กยัดห่วงไทย
ASTVผู้จัดการรายวัน - "เสี่ยจอห์นนี" สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา นายกสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย สุดปลื้มหลังจากที่ขุนพล ช้าง ไทยแลนด์ สแลมเมอร์ส ประกาศศักดาคว้าแชมป์อาเซียน บาสเกตบอล ลีก (เอบีแอล) มาครอง ด้วยการบุกเล่นงาน แอร์เอเชีย ฟิลิปปินส์ แพทริออตส์ ถึงกรุงมะนิลา 75-68 คะแนน ปิดซีรีส์รอบชิงชนะเลิศได้ที่ 2-0 เกม

โดย นายสุรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ASTVผู้จัดการรายวัน ถึงเกมประวัติศาสตร์วงการยัดห่วงไทย "ต้องบอกว่าเกมนี้เราเล่นกันได้ดีมาก ถึงแม้ทีมฟิลิปปินส์เล่นกันค่อนข้างหนัก แต่ผมกำชับเด็กของเราไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าต้องสุขุมและมีวินัยเข้าไว้ เมื่อคู่แข่งบดมากๆ ก็หมดแรงเหมือนกัน ตรงนี้ต้องบอกว่าเรามีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของความฟิตมาเป็นอย่างดี เกมนี้เด็กทุกคนเล่นกันเยี่ยม ทำได้ตามแผนที่วางเอาไว้ ซึ่งการคว้าแชมป์มาได้เราทุกคนรู้สึกยินดียิ่งที่สามารถกู้ศักดิ์ศรีวงการบาสเกตบอลไทยให้กลับมา หลังเงียบเหงาไปนานมาก"

นอกจากนี้ "เสี่ยจอห์นนี" ยังเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จว่า "ก่อนอื่นคงต้องขอบคุณทางสปอนเซอร์อย่างสีทีโอเอ ที่ให้เงินหนุนทีมเราถึง 18 ล้านบาท ขณะที่ผู้ใหญ่ของช้าง ก็พร้อมให้การสนับสนุนเราต่อไปในปีหน้า ซึ่งการสร้างทีมสโมสรระดับอาชีพขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่าย อย่างผู้เล่นต่างชาติจากสหรัฐฯ เราต้องให้พวกเขาเดือนละ 2.4 แสนบาท เด็กไทยได้กันเดือนละ 5 หมื่นกว่าบาท แต่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ คำว่ามืออาชีพ ตอนนี้ ช้าง ไทยแลนด์ สแลมเมอร์ส ถือเป็นสโมสรอาชีพทีมแรกของไทย การจัดการทุกอย่างถือว่าเข้มข้นและเป็นระบบทั้งการฝึกซ้อมรวมถึงการบริหาร ซึ่งการคว้าแชมป์ครั้งนี้ผมเชื่อว่าจะปลุกกระแสวงการยัดห่วงไทยได้ไม่มากก็น้อย อีกทั้งช่วงสิ้นปีเราได้รับเชิญให้ไปแข่งขันระดับสโมสรชิงแชมป์โลก ทว่าต้องรอการยืนยันจากสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ (ฟีบา) ถึงโปรแกรม วันเวลา และสถานที่จัดแข่งกันต่อไป"

เมื่อพูดถึงประเด็นการสร้างทีมอาชีพ อดีตนักบาสฯ วัย 70 ปี ที่คลุกคลีกับกีฬาอันเป็นที่รักมากว่าครึ่งชีวิต กล่าวถึงแผนงานต่อไปว่า "แน่นอนเรากำลังคิดถึงการสร้างลีกบาสเกตบอลอาชีพขึ้นมา แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป สามปีที่ผ่านมาผมดำเนินการทุกอย่างไปตามแบบแผนและระบบที่จัดวางไว้เป็นอย่างดี ณ วันนี้เรามี 6 สโมสรที่เล่นในลีกกึ่งอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ไฮเทค, ทิวไผ่งาม, ทหารอากาศ, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, คริสเตียนไทย และมหาวิทยาลัยศรีปทุม ตรงนี้เป็นการวางรากฐานที่สามารถต่อยอดไปได้อีก โดยผมวางนโยบายไว้ว่าในเดือนเมษายนให้มีการจัดแข่งระดับภูมิภาค เพื่อหาทีมอันดับ 1-2 ของทั้ง 5 ภาค เป็นตัวแทนมาแข่งขันกันในกรุงเทพฯ ขณะที่สโมสรระดับถ้วย ก แม้ยังไม่ใช่ทีมระดับอาชีพ แต่ผมได้มีการแก้กฎให้แต่ละทีมสามารถดึงผู้เล่นต่างชาติเข้ามาเล่นได้ ซึ่งจะช่วยให้มีการบริหารจัดการระดับมืออาชีพมากขึ้น มีโอกาสนำไปสู่การจัดแข่งแบบลีกอาชีพได้เช่นกันในอนาคต"

สุดท้าย นายสุรศักดิ์ เอ่ยถึงการพัฒนาวงการยัดห่วงไทย "ตอนนี้ความสำเร็จก้าวแรกได้มาแล้ว เป้าหมายต่อไปของเราคือการทวงคืนบัลลังก์แชมป์ในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ช่วงปลายปี โดยเดือนเมษายนนี้เราอาจได้โค้ชซึ่งเป็นอดีตนักบาสฯ เอ็นบีเอ (NBA) มาช่วยพัฒนาวงการยัดห่วงไทยทั้งระบบ เรากำลังต่อรองค่าเหนื่อยกันอยู่ ซึ่งเขาขอไว้ที่ปีละ 7.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ราว 2.25 ล้านบาท) ผมจะให้เขามาช่วยดูการฝึกซ้อมทีมชาติไทยทั้งชาย-หญิง ที่มีคิวเริ่มเก็บตัวฝึกซ้อมกันตั้งแต่เดือนมีนาคม อีกทั้งจะให้เขาช่วยผมเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติเพื่อแข่งซีเกมส์ รวมถึงช่วยดูการจัดแข่งบาสเกตบอลไทยแลนด์ โอเพน ซึ่งผมคิดว่าจะเชิญสโมสรจากอินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย รวมถึง จีน มาดวลกับอีก 4 ทีมกึ่งอาชีพของเรา"
กำลังโหลดความคิดเห็น