เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกมาเปรยว่าอาจมีการเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายในปี 2022 กันใหม่ หากมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า กาตาร์ ติดสินบนบอร์ดฟีฟ่าแลกกับคะแนนโหวตจริง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส ของอังกฤษ เปิดประเด็นว่า คณะกรรมการบริหารของฟีฟ่า 2 ราย ประกอบด้วย อิสซา ฮายาตู ชาวแคเมอรูน และ ฌักส์ อนูมา ชาวไอวอรีโคสต์รับเงินใต้โต๊ะจาก กาตาร์ คนละ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45 ล้านบาท) เพื่อช่วยลงคะแนนให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งท้ายที่สุด กาตาร์ ก็ชนะการโหวตได้รับหน้าเสื่อไป
อย่างไรก็ตาม ทั้ง ฮายาตู และ อนูมา ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาในเวลาต่อมา ขณะที่ฟีฟ่าขอดูหลักฐานก่อนพิจารณาในขั้นตอนต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงทั้งคู่จะถูกลงโทษสถานหนัก รวมถึงอาจมีการโหวตเลือกเจ้าภาพเวิลด์คัพ 2022 กันใหม่
โดยล่าสุด แบลตเตอร์ ออกมาแถลงว่า “นี่เป็นแนวความคิดที่ถูกจุดประเด็นไปทั่วโลก แต่อย่าเพิ่งถามผมว่าจะปฏิบัติตามนั้นหรือไม่ ทุกอย่างต้องดำเนินไปทีละขั้น หากผ่านการพิสูจน์แล้วว่าหลักฐานมีจริงหรือไม่มีจึงจะเข้าสู่กระบวนการต่อไป โดยเราได้ประสานงานไปยังหนังสือพิมพ์แล้วซึ่งเขาตกลงที่จะนำหลักฐานมาแสดง”
นอกจากนั้น แบลตเตอร์ ยังพูดถึงกรณีที่ ลอร์ด เดวิด ทรีสแมน อดีตประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) และหนึ่งในคณะกรรมการรณรงค์เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ของอังกฤษ ออกมาตีแผ่ว่ามีฟีฟ่าเมมเบอร์ 4 ราย ได้แก่ วรวีร์ มะกูดี (ไทย), แจ๊ค วอร์เนอร์ (ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก), นิโคลัส เลออซ (ปารากวัย) และ ริคาร์โด เตเซรา (บราซิล) ขายคะแนนเสียงของตัวเองแลกกับการขอรับผลประโยชน์ ซึ่งต่อมา เอฟเอ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อรวบรวมหลักฐานตามที่ ลอร์ด ทรีสแมน กล่าวอ้างมายื่นให้กับฟีฟ่าภายในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
ซึ่งหนุ่มใหญ่ชาวสวิสที่จะลงเลือกตั้งประธานฟีฟ่าสมัยที่ 4 แข่งกับ โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ผู้ท้าชิงชาวกาตาร์ ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ กล่าวว่า “เราต้องเห็นหลักฐานก่อนจึงจะเข้าไปดำเนินการได้ แต่เวลานี้เรายังไม่ได้รับหลักฐาน ซึ่งคณะกรรมการด้านจริยธรรมของฟีฟ่ามีความตื่นตัวกับเรื่องนี้อยู่เสมอ แต่ผมพอใจที่เราได้รับความช่วยเหลือโดยตรงจาก เอฟเอ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะข้อกล่าวหาเกิดขึ้นจากอดีตประธานเอฟเอ”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส ของอังกฤษ เปิดประเด็นว่า คณะกรรมการบริหารของฟีฟ่า 2 ราย ประกอบด้วย อิสซา ฮายาตู ชาวแคเมอรูน และ ฌักส์ อนูมา ชาวไอวอรีโคสต์รับเงินใต้โต๊ะจาก กาตาร์ คนละ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45 ล้านบาท) เพื่อช่วยลงคะแนนให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งท้ายที่สุด กาตาร์ ก็ชนะการโหวตได้รับหน้าเสื่อไป
อย่างไรก็ตาม ทั้ง ฮายาตู และ อนูมา ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาในเวลาต่อมา ขณะที่ฟีฟ่าขอดูหลักฐานก่อนพิจารณาในขั้นตอนต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงทั้งคู่จะถูกลงโทษสถานหนัก รวมถึงอาจมีการโหวตเลือกเจ้าภาพเวิลด์คัพ 2022 กันใหม่
โดยล่าสุด แบลตเตอร์ ออกมาแถลงว่า “นี่เป็นแนวความคิดที่ถูกจุดประเด็นไปทั่วโลก แต่อย่าเพิ่งถามผมว่าจะปฏิบัติตามนั้นหรือไม่ ทุกอย่างต้องดำเนินไปทีละขั้น หากผ่านการพิสูจน์แล้วว่าหลักฐานมีจริงหรือไม่มีจึงจะเข้าสู่กระบวนการต่อไป โดยเราได้ประสานงานไปยังหนังสือพิมพ์แล้วซึ่งเขาตกลงที่จะนำหลักฐานมาแสดง”
นอกจากนั้น แบลตเตอร์ ยังพูดถึงกรณีที่ ลอร์ด เดวิด ทรีสแมน อดีตประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) และหนึ่งในคณะกรรมการรณรงค์เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ของอังกฤษ ออกมาตีแผ่ว่ามีฟีฟ่าเมมเบอร์ 4 ราย ได้แก่ วรวีร์ มะกูดี (ไทย), แจ๊ค วอร์เนอร์ (ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก), นิโคลัส เลออซ (ปารากวัย) และ ริคาร์โด เตเซรา (บราซิล) ขายคะแนนเสียงของตัวเองแลกกับการขอรับผลประโยชน์ ซึ่งต่อมา เอฟเอ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อรวบรวมหลักฐานตามที่ ลอร์ด ทรีสแมน กล่าวอ้างมายื่นให้กับฟีฟ่าภายในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
ซึ่งหนุ่มใหญ่ชาวสวิสที่จะลงเลือกตั้งประธานฟีฟ่าสมัยที่ 4 แข่งกับ โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ผู้ท้าชิงชาวกาตาร์ ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ กล่าวว่า “เราต้องเห็นหลักฐานก่อนจึงจะเข้าไปดำเนินการได้ แต่เวลานี้เรายังไม่ได้รับหลักฐาน ซึ่งคณะกรรมการด้านจริยธรรมของฟีฟ่ามีความตื่นตัวกับเรื่องนี้อยู่เสมอ แต่ผมพอใจที่เราได้รับความช่วยเหลือโดยตรงจาก เอฟเอ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะข้อกล่าวหาเกิดขึ้นจากอดีตประธานเอฟเอ”
