"น้องจูน" รังสิยา นิสัยสม จอมเตะสาววัย 17 ปี ลบสถิติรอบ 32 ปี วงการเทควันโดไทย คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์แรกในศึก "เวิลด์แชมเปียนชิพ" ที่แดนกิมจิ ด้วยการชนะ มารินา ซูมิก จากโครเอเชีย 3-1 คะแนน ก้าวต่อไปสู่รอบสุดท้ายกีฬาโอลิมปิค ที่อังกฤษ ด้านโค้ชเช ยอง ซอก หายเครียดหลังนอนไม่หลับมาหลายคืน
การแข่งขันเทควันโดชิงแชมป์โลกรายการ "ดับเบิลยูทีเอฟ เวิลด์ เทควันโดแชมเปียนชิพ 2011" เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองกองจู ประเทศเกาหลีใต้ มีนักกีฬาจาก 149 ประเทศจำนวนกว่า 1,000 คนเข้าร่วม เพื่อเป็นการจัดอันดับแรงค์กิงโลก และเช็กความพร้อมช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการควอลิฟลายกีฬาโอลิมปิคเกมส์ สนามแรก จะเปิดฉากขึ้นช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ที่ประเทศอาเซอร์ไบจัน
สำหรับนักกีฬาไทยสามารถผ่านเข้ามาสู่รอบรองชนะเลิศและคว้าเหรียญทองแดงเป็นที่แน่นอนแล้ว 1 คน คือ "น้องจูน" รังสิยา นิสัยสม เจ้าของเหรียญทองแดงเวิลด์คัพ ประเภททีม ที่จีนเมื่อปี 53 จากจังหวัดชลบุรี หลังในรอบ 8 คนชนะ หลิน โจ เหว่ย จากไต้หวันมา 4-1 คะแนน รอบรองชนะเลิศ รังสิยา ยังแข็งแกร่งเตะศรีษะในยกที่ 3 เบียดชนะ เดอร์เดน อันตูรเนล จากตรุกีมา 4-1 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพบกับ มาริน่า ซูมิก ชาวโครเอเชีย
เริ่มยกแรก ทั้งคู่ยังเกร็งไม่ค่อยออกอาวุธเท่าไหร่เสมอกัน 0-0 ยกที่สอง "น้องจูน" เดินหน้าบุกเข้าแลก แต่ยังเตะไม่ถนัด เพราะเสียเปรียบเรื่องรูปร่างพอสมควร จนมาถึงปลายยกเหลือ 34 วินาทีสุดท้าย รังสิตา ได้โอกาสรอดักจังหวะสองเตะสวนกลับเข้าที่ศรีษะอย่างจังขึ้นนำ 3-0 คะแนน มาถึงยกที่สาม มาริน่า เดินหน้าบุกแหลก เพื่อหวังจะทำแต้มคืน แต่ รังสิตา ก็เอาตัวรอดด้วยการเข้ากอดเพื่อถ่วงเวลาสลับกับการเตะทำแต้มบ้าง ก่อนที่นักเทควันโดไทยจะมาโดนตัด 2 เคียงโกในช่วงท้ายเกมเพราะออกนอกสนามแข่ง จบเกม รังสิยา เอาชนะไป 3-1 คะแนน คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์แรกให้กับวงการเทควันโดไทย หลังรอคอยมานานถึง 32 ปีเต็ม นับตั้งแต่กีฬาชนิดนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทย โดยตั้งเป็นโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเมื่อปี 2552 ก่อนที่จะมีการตั้งเป็นสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้องในปี 2528 หรือเมื่อ 26 ปีที่แล้ว
หลังการแข่งขัน "น้องจูน" รังสิยา เปิดเผยว่า "รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้มาเป็นแชมป์โลกเทควันโดหญิงคนแรกของไทย เพราะนักกีฬารุ่นพี่หลายคนมีความสามารถที่ดีกว่า แถมตัวเองก็ไม่ได้เป็นนักกีฬาความหวังอะไร ถือว่า เป็นม้ามืดนอกสายตาที่มาถึงตรงจุดนี้ได้ ทุกเกมที่ลงแข่งขันตั้งใจเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีเหรียญอะไรเลยมา 2 วันแล้ว พอชนะได้มาเรื่อยๆก็เริ่มมั่นใจ โดยเฉพาะในรอบรองชนะเลิศเหนื่อยมากกว่าใครเพื่อน เนื่องจากคู่แข่งมีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่า แถมยังเข้าไปเตะวงในยากเพราะเขายกขาหน้ากันตลอดเวลา ส่วนรอบชิงชนะเลิศไม่หนักเท่าไหร่"
"ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย, "บิ๊กชา" นายปรีชา ต่อตระกูล ประธานคัดเลือกตัวทีมชาติ และ โค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ที่ได้ทุ่มเทเสียสละจนทำให้ตัวเองมีวันนี้ได้ ที่สำคัญเหรียญทองเหรียญนี้จะเอาไปฝากคุณพ่อคุณแม่ที่จังหวัดชลบุรี อนาคตจากนี้ไปคงต้องทุ่มเทให้กับการฟิตซ้อมเต็มที่ เพื่อเป้าหมายเข้าไปสู่รอบสุดท้ายกีฬาโอลิมปิคเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษให้จงได้"
ด้าน โค้ชเช ยอง ซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย กล่าวว่า "จากความกดดันที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ของนักเทควันโดไทย ทำให้ตัวเองเครียดมากจนนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว แต่พอหลังจาก รังสิยา คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายไปมาก ที่สามารถเป็นผู้เปิดประวัติศาสตร์แรกทั้งเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว ประเทศจีน และเหรียญทองเวิลด์แชมเปียนชิพ ที่คนไทยไม่เคยสัมผัสมาก่อน ส่วนตัวต้องขอชื่นชม "น้องจูน" ที่ได้เล่นตามแผนที่วางไว้ ที่สำคัญเด็กคนนี้ไม่ได้เป็นตัวความหวังอะไรมากนัก ทำให้ไม่ค่อยกดดันเท่าไรเวลาลงแข่งขัน และก็ทำให้ตนได้เห็นแล้วว่า เด็กคนนี้มีความสามารถที่จะส่งเสริมไปสู่โอลิมปิคเกมส์ได้ จากนี้ไปเรายังเหลือนักกีฬาอีกหลายที่มีโอกาสลุ้นเหรียญ ส่วนตัวอยากให้ทุกคนส่งกำลังใจเชียร์และเฝ้าติดตามผลงานนักเทควันโดไทยด้วย"
ส่วนนักเทควันโดไทยที่ลงแข่งขันในวันนี้อีก 3 คน ได้แก่ รุ่นฟินเวทน้ำหนักไม่เกิน 54 กก.ชาย "เจ้าแม็ก" ชัชวาล ขาวละออ ดีกรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่จีน และอดีตเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก ที่เดนมาร์ก, รุ่นฟินเวทน้ำหนักไม่เกิน 46 กก. หญิง "น้องสอง" บุตรี เผือดผ่อง อดีตเหรียญเงินโอลิมปิคปี 2008 และ รุ่นไลท์เวทน้ำหนักไม่เกิน 74 กก.ชาย "เจ้าที" ปฏิวัติ ทองสลับ อดีตเหรียญทองกีฬาม.โลก 2 สมัย
ผลปรากฏว่า เด็กไทยสามารถกรุยทางเข้าสู่รอบรองชนะเลิศและคว้าเหรียญทองแดงเป็นที่แน่นอนแล้วได้ถึง 2 คน คือ "เจ้าแม็ก" ชัชวาล รอบแรกได้บายเป็นตัวยืน รอบสองชนะคะแนนโหวตจากผู้ตัดสินหลังต่อซัดเดิลเดดแล้วยังเสมอกับ เหวียน ฮู หนาน จากเวียดนามอยู่ 4-4 คะแนน รอบสามชนะ เหยา ซุย จากจีน 4-2 และรอบสี่หรือ 8 คนสุดท้ายชนะคะแนนโหวตจากผู้ตัดสินหลังเสมอกับ อับดุล วาฮับ ซาไซ จากอัฟกานิสถาน 8-8 คะแนน ผ่านเข่าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายได้สำเร็จ ส่วน "เจ้าที" ปฏิวัติ รอบแรกได้บาย รอบสองชนะ โยชิฮิโร นางาโน ชาวญี่ปุ่น 10-4 คะแนน รอบสามชนะผ่านคู่แข่งจาก อิรัก กับ ฮอนดูรัส ไม่มาแข่งขัน รอบสี่ชนะ มามูส ฟาสทา ของอียิปต์ 12-9 คะแนน และรอบ 8 คนสุดท้ายเฉือนเอาชนะ จี โฮ ซอง เกาหลีใต้ 10-8 คะแนน ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้เป็นคนที่สอง ขณะที่ "น้องสอง" บุตรี จอดป้ายแค่รอบ 8 คนสุดท้ายเท่านั้น หลังปราชัยให้กับ ซูมาย มาน จากเยอรมัน 8-3 คะแนน
