สหพันธ์เทควันโดเอเชีย หรือ เอทียู ส่งหนังสือเชิญ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยฯ นั่งบอร์ดบริหารอุปนายกคนที่ 1 ภายใต้การนำของ แด ซูน ลี ประธานสหพันธ์เทควันโดแห่งเอเชีย โดยมีหน้าที่เป็นตัวกลางคอยดูแลและตัดสินปัญหาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นของกีฬาชนิดนี้ หลังเห็นความสามารถที่พากีฬาเทควันโดไทยติดท็อป 5 ของโลก
โดย นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า "หลังจากคณะกรรมการบริหารสหพันธ์เทควันโดแห่งเอเชีย ภายใต้การนำของ แด ซูน ลี ประธานสหพันธ์เทควันโดแห่งเอเชีย หรือ เอทียู ได้บริหารงานมาจนครบวาะ 4 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะได้มีการเลือกตั้งบอร์ดบริหารและประธานสหพันธ์คนใหม่ในช่วงกลางปีนี้ เพื่อต้องการพัฒนาและสร้างกีฬาชนิดนี้ในภูมิภาคเอเชียให้เจริญก้าวหน้าและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอนุรักษ์และการสนับสนุนให้กีฬาเทควันโดไม่ต้องหลุดจาก 1 ใน 28 ประเภทกีฬาโอลิมปิกเกมส์อย่างที่หลายฝ่ายเกรงกลัว"
"ทั้งนี้จากการโหวตเสียงรอบนอกเป็นที่แน่นอนว่า แด ซูน ลี จะได้รับความไว้วางใจจากชาติสมาชิกให้เป็นประธานสหพันธ์เทควันโดแห่งเอเชียอีกสมัย หลังผลงานที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา ที่สำคัญ แด ซูน ลี ยังได้ส่งหนังสือเชิญให้ "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยฯ เข้าไปนั่งเป็นบอร์ดบริหารสหพันธ์เทควันโดแห่งเอเชียด้วย ในฐานะอุปนายกคนที่ 1 มีหน้าที่เป็นตัวกลางคอยดูแลและตัดสินปัญหาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นของกีฬาชนิดนี้"
"นับว่าเป็นหน้าตาของประเทศไทยและเป็นเกียรติแก่สมาคมเทควันโดไทยเป็นอย่างมาก ที่คณะกรรมการบริหารสหพันธ์เทควันโดแห่งเอเชียให้ความสำคัญและสนใจ "บิ๊กเอ" เป็นพิเศษ เนื่องจากความสำเร็จในการบริหารจัดการเทควันโดในบ้านเราจนติดท็อป 1 ใน 5 ของโลก จึงให้รับทำงานที่ท้าทายความสามารถเช่นนี้"
ท้ายนี้ อุปนายกสมาคมเทควันโดไทย ได้กล่าวอีกว่า "อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ผศ.พิมล ว่าจะรับตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ เพราะตัวนายกสมาคมฯ เองก็มีภาระกิจงานที่ต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะการสานฝันคนไทยทั้งชาติที่จะต้องนำเหรียญทองกีฬาโอลิมปิคเกมส์ปี 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษกลับมาให้ได้"
"ซึ่งยังไม่รวมถึงการพัฒนานักเทควันโดในบ้านเราทั้งระบบไล่ตั้งแต่ชุดใหญ่ไปจนถึงเยาวชนทีมชาติ ที่ต่อจากนี้ไปจะต้องมีสายเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนกันอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงศูนย์ฝึกอะคาเดมี งบ 30 ล้านบาท ที่จะต้องสร้างให้แล้วเสร็จภายในปีนี้อีกด้วย"