เชลซี อาศัยลูกฮึดเปิดรังไล่แซงชนะ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เขยิบไล่ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหลือแค่ 3 แต้ม หลังจบการแข่งขันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
คาร์โล อันเชล็อตติ หวังนำ "สิงห์บลูส์" เชลซี ตะปบชัยในลอนดอน ดาร์บีแมตช์ ให้จงได้เพื่อไล่กวด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเข้าไปอีก นัดนี้มีการปรับหมากมาเล่นหน้าคู่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ถูกเติมมาล่าตาข่ายร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ด้าน "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส กุนซือ แฮร์รี เรดแนปป์ ยังหวังแซง แมนฯ ซิตี ขึ้นที่ 4 อย่างไรก็ดี ทีมเยือนมีปัญหาพอสมควร เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต เจ็บต้องใช้ เวดราน ชอร์ลูกา ไปยืนแบ็กซ้ายจำเป็น แดนหน้าห้อย โรมัน พาฟลูเชนโก โดยมี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั้นเกมด้านหลัง
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี ไม่รอช้าเป็นฝ่ายเดินเกมบุกทันที แต่เป็น สเปอร์ส ได้เสียวก่อนเมื่อ โรมัน พาฟลูเชนโก กระชากหนี บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ยิงทะแยงมุมหลุดเสาไกลไป ถัดมานาทีที่ 13 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูนำถ้าลูกยิงฟรีคิก 35 หลาของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ไม่พุ่งกระแทกคานออกมาเต็มๆ จากนั้น "สิงห์บลูส์" ชักจะมาเป็นชุดๆ ฟลอรองต์ มาลูดา ลากตัดเข้ามายิงด้วยขวาข้างไม่ถนัด บอลจึงพุ่งไปเข้าซอง เอเรลโญ โกเมส
เกมมาถึงนาที 19 กลายเป็น "ไก่เดือยทอง" จิกนำ 1-0 เมื่อ ซานโดร ตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลติดไซด์ก้อยพุ่งจากระยะ 35 หลาผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เสียบตาข่ายอย่างงดงาม พอโดนไม่ก่อน เชลซี โหมใส่ทันที มิคาเอล เอสเซียง ได้โหม่ง โกเมส ปัดข้ามคาน จากลูกเตะมุม เฟร์นานโด ตอร์เรส โขกจ่อๆ ที่เสาสองแต่กดไม่ลงอีก ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านขึงเกมไว้ได้ แอชลีย์ โคล เปิดจากกราบซ้ายให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด กำลังจะง้างยิงแต่โดน ซานโดร แต่ถึงนาที 45 "สิงห์บลูส์" มาตีเสมอ 1-1 แบบโชคช่วยเมื่อ แลมพ์ ตะบันไกล โกเมส เฟอะฟะรับบอลลอดขา แม้จะพุ่งไปเอามือคว้าไว้บนเส้น อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยผู้ตัดสินมองว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว
ลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี เดินหน้าบุกต่อ ดร็อกบา ได้ซัลโวให้ โกเมส ต้องออกแรงอีกครั้งในนาที 52 ถัดมา คาร์โล อันเชล็อตติ มีการปรับหมากถอด มิคาเอล เอสเซียง ที่ไม่ฟิตเต็มร้อยออกมาพักแล้วให้ รามิเรส ที่หายเจ็บกลับมาลุยแทน ขณะที่ แฮร์รี เรดแนปป์ ก็ปล่อย เจอร์เมน เดโฟ ลงมาล่าสกอร์แทน พาฟลูเชนโก ซึ่งค่อนข้างเงียบ หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าบ้านแก้เกมรุกใส่ ซาโลมอน กาลู ไปเล่นแทน ตอร์เรส และ กาลู ก็เกือบแผลงฤทธิ์แต่ดันจังหวะไม่ดีซ้ำลูกปัดฟรีคิกไม่ดีของ โกเมส ข้ามคานไป
นาทีที่ 68 แฟนๆ เจ้าถิ่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ พยายามจะร้องเอาจุดโทษเมื่อเห็น ยูเนส กาบูล เหยียดเท้าดัก กาลู ทว่าผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ มองว่าเป็นการแหย่โดนบอล 15 นาทีสุดท้าย "คาร์เล็ตโต" ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายให้ นิโกลาส์ อเนลกา เล่นแทน มาลูดา ช่วงท้ายเกม เชลซี พยายามบดเฮือกสุดท้ายและก่อนหมดเวลาแค่ 2 นาที กาลู มาสวมบทซูเปอร์ซับทำประตูชัยให้ "สิงห์บลูส์" ตะปบชัยหวิว 2-1 มีเพิ่มเป็น 70 คะแนนจาก 35 นัด อยู่ที่ 2 ไล่ แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือ 3 แต้ม แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โดย "ผีแดง" มีคิวเยือน อาร์เซนอล คืนวันอาทิตย์ ขณะที่ สเปอร์ส รั้งที่ 5 ดังเดิมมี 55 คะแนนจาก 34 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ดาวิด ลุยซ์ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , ดิดิเยร์ ดร็อบา , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
สเปอร์ส : เอเรลโญ โกเมส , ยูเนส กาบูล , ไมเคิล ดอว์สัน , วิลเลียม กัลลาส , เวดราน ชอร์ลูกา , อารอน เลนนอน , ลูกา โมดริช , ซานโดร , แกเร็ธ เบล , ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท , โรมัน พาฟลูเชนโก
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
คาร์โล อันเชล็อตติ หวังนำ "สิงห์บลูส์" เชลซี ตะปบชัยในลอนดอน ดาร์บีแมตช์ ให้จงได้เพื่อไล่กวด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเข้าไปอีก นัดนี้มีการปรับหมากมาเล่นหน้าคู่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ถูกเติมมาล่าตาข่ายร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ด้าน "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส กุนซือ แฮร์รี เรดแนปป์ ยังหวังแซง แมนฯ ซิตี ขึ้นที่ 4 อย่างไรก็ดี ทีมเยือนมีปัญหาพอสมควร เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต เจ็บต้องใช้ เวดราน ชอร์ลูกา ไปยืนแบ็กซ้ายจำเป็น แดนหน้าห้อย โรมัน พาฟลูเชนโก โดยมี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั้นเกมด้านหลัง
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี ไม่รอช้าเป็นฝ่ายเดินเกมบุกทันที แต่เป็น สเปอร์ส ได้เสียวก่อนเมื่อ โรมัน พาฟลูเชนโก กระชากหนี บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ยิงทะแยงมุมหลุดเสาไกลไป ถัดมานาทีที่ 13 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูนำถ้าลูกยิงฟรีคิก 35 หลาของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ไม่พุ่งกระแทกคานออกมาเต็มๆ จากนั้น "สิงห์บลูส์" ชักจะมาเป็นชุดๆ ฟลอรองต์ มาลูดา ลากตัดเข้ามายิงด้วยขวาข้างไม่ถนัด บอลจึงพุ่งไปเข้าซอง เอเรลโญ โกเมส
เกมมาถึงนาที 19 กลายเป็น "ไก่เดือยทอง" จิกนำ 1-0 เมื่อ ซานโดร ตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลติดไซด์ก้อยพุ่งจากระยะ 35 หลาผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เสียบตาข่ายอย่างงดงาม พอโดนไม่ก่อน เชลซี โหมใส่ทันที มิคาเอล เอสเซียง ได้โหม่ง โกเมส ปัดข้ามคาน จากลูกเตะมุม เฟร์นานโด ตอร์เรส โขกจ่อๆ ที่เสาสองแต่กดไม่ลงอีก ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านขึงเกมไว้ได้ แอชลีย์ โคล เปิดจากกราบซ้ายให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด กำลังจะง้างยิงแต่โดน ซานโดร แต่ถึงนาที 45 "สิงห์บลูส์" มาตีเสมอ 1-1 แบบโชคช่วยเมื่อ แลมพ์ ตะบันไกล โกเมส เฟอะฟะรับบอลลอดขา แม้จะพุ่งไปเอามือคว้าไว้บนเส้น อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยผู้ตัดสินมองว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว
ลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี เดินหน้าบุกต่อ ดร็อกบา ได้ซัลโวให้ โกเมส ต้องออกแรงอีกครั้งในนาที 52 ถัดมา คาร์โล อันเชล็อตติ มีการปรับหมากถอด มิคาเอล เอสเซียง ที่ไม่ฟิตเต็มร้อยออกมาพักแล้วให้ รามิเรส ที่หายเจ็บกลับมาลุยแทน ขณะที่ แฮร์รี เรดแนปป์ ก็ปล่อย เจอร์เมน เดโฟ ลงมาล่าสกอร์แทน พาฟลูเชนโก ซึ่งค่อนข้างเงียบ หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าบ้านแก้เกมรุกใส่ ซาโลมอน กาลู ไปเล่นแทน ตอร์เรส และ กาลู ก็เกือบแผลงฤทธิ์แต่ดันจังหวะไม่ดีซ้ำลูกปัดฟรีคิกไม่ดีของ โกเมส ข้ามคานไป
นาทีที่ 68 แฟนๆ เจ้าถิ่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ พยายามจะร้องเอาจุดโทษเมื่อเห็น ยูเนส กาบูล เหยียดเท้าดัก กาลู ทว่าผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ มองว่าเป็นการแหย่โดนบอล 15 นาทีสุดท้าย "คาร์เล็ตโต" ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายให้ นิโกลาส์ อเนลกา เล่นแทน มาลูดา ช่วงท้ายเกม เชลซี พยายามบดเฮือกสุดท้ายและก่อนหมดเวลาแค่ 2 นาที กาลู มาสวมบทซูเปอร์ซับทำประตูชัยให้ "สิงห์บลูส์" ตะปบชัยหวิว 2-1 มีเพิ่มเป็น 70 คะแนนจาก 35 นัด อยู่ที่ 2 ไล่ แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือ 3 แต้ม แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โดย "ผีแดง" มีคิวเยือน อาร์เซนอล คืนวันอาทิตย์ ขณะที่ สเปอร์ส รั้งที่ 5 ดังเดิมมี 55 คะแนนจาก 34 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ดาวิด ลุยซ์ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , ดิดิเยร์ ดร็อบา , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
สเปอร์ส : เอเรลโญ โกเมส , ยูเนส กาบูล , ไมเคิล ดอว์สัน , วิลเลียม กัลลาส , เวดราน ชอร์ลูกา , อารอน เลนนอน , ลูกา โมดริช , ซานโดร , แกเร็ธ เบล , ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท , โรมัน พาฟลูเชนโก