เฟร์นานโด ตอร์เรส ซัดประตูแรกให้ เชลซี ได้สำเร็จบวกกับลูกยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด และ ฟลอรองต์ มาลูดา ทำให้ "สิงห์บลูส์" เปิดบ้านถล่มเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้าย คืนวันเสาร์ที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 3-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยเจ้าถิ่นต้องพยายามเก็บสามคะแนนเต็มเพื่อทำคะแนนไล่ตามจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่อไป สำหรับเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ตัดสินใจดร็อป เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกค่าตัวแพงเป็นสำรองให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ยืนหน้าเป้าโดยมี ฟลอรองต์ มาลูดา และ ซาโลมง กาลู คอยสนับสนุน ขณะที่ทีมเยือนของ อาฟราม แกรนท์ วาง เดมบา บา และ คาร์ลตัน โคล ล่าตาข่ายร่วมกัน
เปิดฉากครึ่งแรก เชลซี ได้ลุ้นทันทีในนาที 3 ดิดิเยร์ ดร็อกบา ตอกส้นมาให้ ฟลอรองต์ มาลูดา หลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ โรเบิร์ต กรีน แต่ถูกนายด่านทีมชาติอังกฤษเซฟได้ หลังจากนั้นนาที 18 มาลูดา ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดมายิงด้านในบอลหลุดกรอบนิดเดียว
เวสต์แฮม เริ่มทำเกมดีขึ้นจนมีลุ้นประตูในนาที 27 เดมบา บา สับไกยิงบริเวณกรอบเขตโทษให้ ปีเตอร์ เช็ก ปัดออกหลัง จังหวะเตะมุมถัดมา เฟรด เซียร์ส ได้บอลทางซ้าย ก่อนโยกหนี แอชลีย์ โคล แล้วเปิดมาทางเสาไกล โจนาธาน สเปกเตอร์ พุ่งโหม่งต่ำจน เช็ก ต้องปัดออกหลังอีกครั้ง
ทีมเยือนได้ลุ้นจากลูกเตะมุมอีกในนาที 31 มาร์ก โนเบิล เปิดมาเข้าทาง เซียร์ส ที่ยืนอยู่โล่งๆตกส้นกลับหลังไปตรงตัว เช็ก หลังจากนั้น สิงห์บลูส์ โหมบุกหนักอีกครั้งช่วงท้ายครึ่งแรก กระทั่งก่อนหมดเวลา 2 นาทีก็ได้ประตูนำ 1-0 ดร็อกบา แทงบอลให้ โคล หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนตวัดเรียดมาหน้าประตู แฟรงค์ แลมพาร์ด ซัดเต็มข้อตุงตาข่าย
เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายบุกต่อในครึ่งหลัง นาที 50 ดร็อกบา ได้บอลในเขตโทษ ก่อนเปิดเรียดมาทางเสาสอง มาลูดา แตะย้อนกลับมาให้ ซาโลมง กาลู ยิงบริเวณกรอบเขตโทษหลุดเสาไป อีก 2 นาทีถัดมาเป็นโอกาสของ เวสต์แฮม เมื่อ มานูเอล ดา คอสตา โหม่งบอลจากลูกเตะมุม แต่ถูก จอห์น โอบี มิเกล เคลียร์จากเส้น
นาที 55 เอสเซียง มีอาการเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออก ยอสซี เบนายูน ลงมาแทน ขณะที่ทีมเยือนเสีย โนเบิล จากอาการเจ็บเช่นกันในอีก 3 นาทีถัดมา ร็อบบี คีน ถูกเปลี่ยนลงมาแทน กองหลังเวสต์แฮมพลาดเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษตัวเองในนาที 63 ถูก มาลูดา ฉกไปยิง แต่ยังดีมุมแคบเกินไปเลยซัดเข้าหน้าต่าง
เดวิด ลุยซ์ มีโอกาสสับไกนอกเขตโทษในนาที 68 บอลพุ่งผ่าน กรีน ไปแล้วแต่โชคร้ายชนคานไม่เป็นประตูของเจ้าถิ่น ลูกทีมของอาฟราม แกรนท์ ได้โอกาสทองที่จะตามตีเสมอในนาที 74 หลังจาก สเปกเตอร์ จ่ายบอลให้ คีน หลุดกับดักล้ำหน้ายิงบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ซัดเหินข้ามคานไปเอง
เกมผ่านมาถึงนาที 76 เฟร์นานโด ตอร์เรส ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนที่ ดร็อกบา หลังจากนั้นนาที 84 กองหน้าทีมชาติสเปนก็สามารถยิงประตูแรกให้ เชลซี ได้สำเร็จ หลังได้บอลจาก นิโกลาส์ อเนลกา ตัวสำรองอีกราย แล้วกลับตัวยิงผ่านมือ กรีน เข้าเสาไกล เจ้าถิ่นหนีห่าง 2-0 หลังจากนั้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มาลูดา ซัดปิดกล่องอีกลูกทำให้จบเกมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นฝ่ายเอาชนะไป 3-0
เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 67 คะแนนตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ห่าง 6 คะแนนโดยเหลือเกมลงเตะอีก 4 นัด ขณะที่ เวสต์แฮม มี 32 คะแนนเท่าเดิมจมบ๊วยของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, เดวิด ลุยซ์, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, จอห์น โอบี มิเกล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ไมเคิล เอสเซียง, ฟลอรองต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน, ดาเนียล แกบบิดอน, มานูเอล ดา คอสตา, เวย์น บริดจ์, ลาร์ส ยาคอบเซน, มาร์ก โนเบิล, โธมัส ฮิตเซิลแบร์เกอร์, โจนาธาน สเปกเตอร์, เดมบา บา, คาร์ลตัน โคล, เฟรด เซียร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0
[1-0 : ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.84]
แอสตัน วิลลา เสมอ สโตค ซิตี 1-1
[0-1 : เคนวิน โจนส์ น.20], [1-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.42]
แบล็คพูล เสมอ นิวคาสเซิล 1-1
[0-1 : ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส น.17], [1-1 : ดีเจ แคมป์เบลล์ น.32]
ลิเวอร์พูล ชนะ เบอร์มิงแฮม 5-0
[1-0 : มักซี โรดริเกซ น.7], [2-0 : เดิร์ก เคาท์ น.23], [3-0 : มักซี โรดริเกซ น.66], [4-0 : มักซี โรดริเกซ น.73], [5-0 : โจ โคล น.86]
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ วีแกน 4-2
[0-1 : โมฮาเหม็ด ดิยาเม น.52], [1-1 : อาซาโมอาห์ กียาน น.55], [2-1 : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.65], [3-1 : สเตฟาน เซสเซญอน ลูกจุดโทษ น.73] ,[4-1 : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.76], [4-2 : ฟรานโก ดิ ซานโต๊ส น.90]
สเปอร์ส เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2
[0-1 : ปีเตอร์ โอเดมวิงกี น.4], [1-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก น.27], [2-1 : เจอร์แมน เดโฟ น.65], [2-2 : ไซมอน ค็อกซ์ น.80]
วูล์ฟแฮมป์ตัน เสมอ ฟูแลม 1-1
[1-0 : สตีเวน เฟลทเชอร์ น.22], [1-1 : แอนดรูว์ จอห์นสัน น.79]
เชลซี ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0
[1-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.43], [2-0 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.84], [3-0 : ฟลอรองต์ มาลูดา น.90+3]
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 3-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยเจ้าถิ่นต้องพยายามเก็บสามคะแนนเต็มเพื่อทำคะแนนไล่ตามจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่อไป สำหรับเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ตัดสินใจดร็อป เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกค่าตัวแพงเป็นสำรองให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ยืนหน้าเป้าโดยมี ฟลอรองต์ มาลูดา และ ซาโลมง กาลู คอยสนับสนุน ขณะที่ทีมเยือนของ อาฟราม แกรนท์ วาง เดมบา บา และ คาร์ลตัน โคล ล่าตาข่ายร่วมกัน
เปิดฉากครึ่งแรก เชลซี ได้ลุ้นทันทีในนาที 3 ดิดิเยร์ ดร็อกบา ตอกส้นมาให้ ฟลอรองต์ มาลูดา หลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ โรเบิร์ต กรีน แต่ถูกนายด่านทีมชาติอังกฤษเซฟได้ หลังจากนั้นนาที 18 มาลูดา ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดมายิงด้านในบอลหลุดกรอบนิดเดียว
เวสต์แฮม เริ่มทำเกมดีขึ้นจนมีลุ้นประตูในนาที 27 เดมบา บา สับไกยิงบริเวณกรอบเขตโทษให้ ปีเตอร์ เช็ก ปัดออกหลัง จังหวะเตะมุมถัดมา เฟรด เซียร์ส ได้บอลทางซ้าย ก่อนโยกหนี แอชลีย์ โคล แล้วเปิดมาทางเสาไกล โจนาธาน สเปกเตอร์ พุ่งโหม่งต่ำจน เช็ก ต้องปัดออกหลังอีกครั้ง
ทีมเยือนได้ลุ้นจากลูกเตะมุมอีกในนาที 31 มาร์ก โนเบิล เปิดมาเข้าทาง เซียร์ส ที่ยืนอยู่โล่งๆตกส้นกลับหลังไปตรงตัว เช็ก หลังจากนั้น สิงห์บลูส์ โหมบุกหนักอีกครั้งช่วงท้ายครึ่งแรก กระทั่งก่อนหมดเวลา 2 นาทีก็ได้ประตูนำ 1-0 ดร็อกบา แทงบอลให้ โคล หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนตวัดเรียดมาหน้าประตู แฟรงค์ แลมพาร์ด ซัดเต็มข้อตุงตาข่าย
เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายบุกต่อในครึ่งหลัง นาที 50 ดร็อกบา ได้บอลในเขตโทษ ก่อนเปิดเรียดมาทางเสาสอง มาลูดา แตะย้อนกลับมาให้ ซาโลมง กาลู ยิงบริเวณกรอบเขตโทษหลุดเสาไป อีก 2 นาทีถัดมาเป็นโอกาสของ เวสต์แฮม เมื่อ มานูเอล ดา คอสตา โหม่งบอลจากลูกเตะมุม แต่ถูก จอห์น โอบี มิเกล เคลียร์จากเส้น
นาที 55 เอสเซียง มีอาการเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออก ยอสซี เบนายูน ลงมาแทน ขณะที่ทีมเยือนเสีย โนเบิล จากอาการเจ็บเช่นกันในอีก 3 นาทีถัดมา ร็อบบี คีน ถูกเปลี่ยนลงมาแทน กองหลังเวสต์แฮมพลาดเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษตัวเองในนาที 63 ถูก มาลูดา ฉกไปยิง แต่ยังดีมุมแคบเกินไปเลยซัดเข้าหน้าต่าง
เดวิด ลุยซ์ มีโอกาสสับไกนอกเขตโทษในนาที 68 บอลพุ่งผ่าน กรีน ไปแล้วแต่โชคร้ายชนคานไม่เป็นประตูของเจ้าถิ่น ลูกทีมของอาฟราม แกรนท์ ได้โอกาสทองที่จะตามตีเสมอในนาที 74 หลังจาก สเปกเตอร์ จ่ายบอลให้ คีน หลุดกับดักล้ำหน้ายิงบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ซัดเหินข้ามคานไปเอง
เกมผ่านมาถึงนาที 76 เฟร์นานโด ตอร์เรส ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนที่ ดร็อกบา หลังจากนั้นนาที 84 กองหน้าทีมชาติสเปนก็สามารถยิงประตูแรกให้ เชลซี ได้สำเร็จ หลังได้บอลจาก นิโกลาส์ อเนลกา ตัวสำรองอีกราย แล้วกลับตัวยิงผ่านมือ กรีน เข้าเสาไกล เจ้าถิ่นหนีห่าง 2-0 หลังจากนั้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มาลูดา ซัดปิดกล่องอีกลูกทำให้จบเกมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นฝ่ายเอาชนะไป 3-0
เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 67 คะแนนตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ห่าง 6 คะแนนโดยเหลือเกมลงเตะอีก 4 นัด ขณะที่ เวสต์แฮม มี 32 คะแนนเท่าเดิมจมบ๊วยของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, เดวิด ลุยซ์, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, จอห์น โอบี มิเกล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ไมเคิล เอสเซียง, ฟลอรองต์ มาลูดา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน, ดาเนียล แกบบิดอน, มานูเอล ดา คอสตา, เวย์น บริดจ์, ลาร์ส ยาคอบเซน, มาร์ก โนเบิล, โธมัส ฮิตเซิลแบร์เกอร์, โจนาธาน สเปกเตอร์, เดมบา บา, คาร์ลตัน โคล, เฟรด เซียร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0
[1-0 : ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.84]
แอสตัน วิลลา เสมอ สโตค ซิตี 1-1
[0-1 : เคนวิน โจนส์ น.20], [1-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.42]
แบล็คพูล เสมอ นิวคาสเซิล 1-1
[0-1 : ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส น.17], [1-1 : ดีเจ แคมป์เบลล์ น.32]
ลิเวอร์พูล ชนะ เบอร์มิงแฮม 5-0
[1-0 : มักซี โรดริเกซ น.7], [2-0 : เดิร์ก เคาท์ น.23], [3-0 : มักซี โรดริเกซ น.66], [4-0 : มักซี โรดริเกซ น.73], [5-0 : โจ โคล น.86]
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ วีแกน 4-2
[0-1 : โมฮาเหม็ด ดิยาเม น.52], [1-1 : อาซาโมอาห์ กียาน น.55], [2-1 : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.65], [3-1 : สเตฟาน เซสเซญอน ลูกจุดโทษ น.73] ,[4-1 : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.76], [4-2 : ฟรานโก ดิ ซานโต๊ส น.90]
สเปอร์ส เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2
[0-1 : ปีเตอร์ โอเดมวิงกี น.4], [1-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก น.27], [2-1 : เจอร์แมน เดโฟ น.65], [2-2 : ไซมอน ค็อกซ์ น.80]
วูล์ฟแฮมป์ตัน เสมอ ฟูแลม 1-1
[1-0 : สตีเวน เฟลทเชอร์ น.22], [1-1 : แอนดรูว์ จอห์นสัน น.79]
เชลซี ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0
[1-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.43], [2-0 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.84], [3-0 : ฟลอรองต์ มาลูดา น.90+3]