xs
xsm
sm
md
lg

รูนโป้งผีบุกดับสิงห์, บาร์ซา 5-1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วินาทีที่ รูนีย์ (เสื้อแดง) แปบอลเน้นๆ เป็นประตูนำ 1-0 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด
เวย์น รูนีย์ สวมบทพระเอกให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้งด้วยการพังประตูชัยในนาทีที่ 24 ช่วยให้บุกไปกำราบ เชลซี ถึงถิ่น 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก กุมความได้เปรียบไว้ได้ก่อน ด้าน บาร์เซโลนา เปิดบ้านต้อนตือ ชัคห์เตอร์ โดเนทสค์ 5-1

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เชลซี (อังกฤษ) 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)

คู่รีแมตช์นัดชิงชนะเลิศปี 2008 เชลซี เล่นในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมร่วมเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนี้เจ้าบ้านอดใช้งาน ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังชาวบราซิลที่ติดคัพไท ทำให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลงคุมหลังบ้านคู่กับ จอห์น เทอร์รี ส่วนแนวรุกมี แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นตัวปั้นเกมให้ คู่หัวหอก ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เข้าทะลวงประตู ด้านทีมเยือนได้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษหายเจ็บน่องคัมแบ็กกลับมาในรอบ 2 เดือน ส่วนแดนหน้าจัด “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ประสานงานกับ เวย์น รูนีย์ ที่เพิ่งทำแฮตทริกในเกมลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เปิดฉากมาทั้งสองทีมเล่นเอาใจแฟนบอลด้วยการเปิดเกมรุกเข้าหากัน โดยเป็น “สิงโตน้ำเงินคราม” ที่มีโอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 7 จาก ตอร์เรส ที่ตัดบอลได้จากการจ่ายพลาดของ “ปิศาจแดง” ก่อนเลี้ยงจี้เข้าหา ไมเคิล คาร์ริค แล้วกดเรียดถูก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวเซฟไว้ได้ ถึงนาทีที่ 16 ทีมเยือนตอบโต้บ้าง ไรอัน กิกส์ เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายถูก ดร็อกบา สกัดออกมาเข้าทาง ปาร์ค จี-ซอง ยิงสวนจากแถวสองแฉลบออกหลังไป

3 นาทีให้หลัง เชลซี ใกล้เคียงกับการพังประตูขึ้นนำ เมื่อ ดร็อกบา หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้ววางเท้ากระหน่ำคนเดียวเหน่งๆ แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังกระโดดปัดข้ามคานอออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งนาทีที่ 24 กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ใส่สกอร์ 1-0 ได้ก่อนโดย คาร์ริค วางบอลยาวให้ กิกส์ สปีดหนี โชเซ โบซิงวา แล้วเกี่ยวบอลลงก่อนตบจากเส้นหลังย้อนมาที่จุดนัดพบให้ รูนีย์ แปหนีมือ ปีเตอร์ เช็ก เช็ดโคนเสาสองเข้าไป

จากนั้นเป็น สิงห์บลูส์ ที่บุกกระหน่ำเข้าใส่ ปิศาจแดง อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดนัก นาทีที่ 36 ยูริ เซียร์คอฟ รับใบเหลืองแรกของเกมหลังจากกระโดดเตะสูงใส่ ชิชาริโต ที่โถมเข้ามาโหม่ง ล่วงมานาทีที่ 45 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมออย่างยิ่ง เมื่อ ดร็อกบา หยอดจากด้านซ้ายของเขตโทษ ตอร์เรส สะกิดบอลหนีมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปชนเสา แลมพาร์ด ตามซ้ำแต่ยิงไม่เต็มเท้า ทำให้บอลเบาจึงถูก ปาทริซ เอฟรา สกัดคาบเส้นออกมาได้ จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงนำอยู่ 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี ยังคงหาทางทวงประตูคืน นาทีที่ 50 ดร็อกบา เปิดจากกราบขวาเข้ากลางให้ รามิเรส โฉบโหม่ง แต่มิดฟิลด์บราซิเลียนสัมผัสโดนบอลแค่ถากๆ ลูกจึงผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้น ราฟาเอล ดา ซิลวา มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ หลุยส์ นานี ถูกส่งลงสนามมาแทนแล้วถอย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงไปเล่นแบ็กขวาแทน

นาทีที่ 57 แลมพาร์ด เปิดยัดมาที่เสาแรก ดร็อกบา จับบอลได้แต่หันหลังให้ประตูจึงตีลังกายิงกลับหลัง แต่ลูกก็ผ่านเสาสองออกไป ผ่านมาถึงนาทีที่ 70 มิชาเอล เอสเซียง ได้ยิงสวนจากลูกที่ เนมานยา วิดิช โหม่งสกัดมาเข้าทางหลุดเสาแรกออกหลังไป จากนั้น สิงโตน้ำเงินครามแก้เกมด้วยการเปลี่ยน 2 คนส่ง ฟลอร็องต์ มาลูดา กับ นิโกลาส์ อเนลกา ลงมาแทน เซียร์คอฟ และ ดร็อกบา

ปิศาจแดงขยับบ้างโดยเอา ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หัวหอกบัลแกเรียนลงมาสัมผัสเกมแทน ชิชาริโต ขณะที่สิงห์บลูส์ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่ง จอห์น โอบี มิเกล ลงมาแทน โบซิงวา นาทีที่ 85 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้งจากการดันสูงขึ้นมาเล่นเกมรุกของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่พาบอลแหวกเข้าไปยิงหน้าเขตโทษ แต่ลูกเข้าซอง ฟาน เดอร์ ซาร์ นาทีสุดท้าย อเนลกา ลองซัดระยะ 20 หลาเยื้องมาทางด้านซ้าย แต่ก็ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ อีก

ช่วงทดเจ็บ รามิเรส หลุดเข้าเขตโทษแล้วโดน เอฟรา พุ่งเข้ามาหนีบล้มลงแต่ไม่ได้จุดโทษท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นเจ้าถิ่น ก่อนที่ ตอร์เรส จะอาศัยจังหวะพัวพันกับ วาเลนเซีย แล้วทิ้งตัวล้มลงบ้างจึงได้รับใบเหลืองจากอัลเบร์โต อุนเดียโน ผู้ตัดสินชาวสเปน จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเฉือน 1-0 และเป็นการบุกมาชนะที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งแรกในรอบ 9 ปีด้วย กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเฝ้าบ้านที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด บ้างในวันที่ 12 เมษายนนี้

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, รามิเรส, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล เอสเซียง, ยูริ เซียร์คอฟ, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, เฟร์นานโด ตอร์เรส

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิกส์, ปาร์ค จี-ซอง, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, เวย์น รูนีย์

อีกคู่หนึ่ง บาร์เซโลนา จ่าฝูงลา ลีกา สเปน เล่นในถิ่นคัมป์ นู ไล่ต้อน ชัคห์เตอร์ โดเนทสค์ ทีมชั้นนำจากยูเครนขาดลอย 5-1 โดยได้ประตูจาก อันเดรส อิเนียสตา นาทีที่ 2, ดาเนียล อัลเวส นาทีที่ 34, เคราร์ด ปิเก นาทีที่ 53, เซย์ดู เกอิตา นาทีที่ 60 และ ชาบี เอร์นานเดซ นาทีที่ 86 ส่วนทีมเยือนตีไข่แตกจาก ยาโรสลาฟ ราคิทสกี นาทีที่ 59 ทำให้ "เจ้าบุญทุ่ม" จ่อเข้ารอบตัดเชือก โดยจะบุกไปเยือนบ้างในวันที่ 12 เมษายนนี้
กิกส์ ปีกจอมเก๋าผีแดงเข้าบอลใส่ เอสเซียง ห้องเครื่องสิงห์บลูส์อย่างน่าเสียวไส้
ตอร์เรส (เสื้อน้ำเงิน) สะกิดบอลลูกนี้ชนเสาชวดสกอร์แรกกับ เชลซี
แลมพาร์ด (8) ซ้ำลูกนี้ก็ยังถูก เอฟรา สกัดคาบเส้น
ดร็อกบา เสียดายยิงให้ เชลซี ไม่ได้
เคราร์ด ปิเก (ซ้าย) กองหลังที่กำลังอินเลิฟยิงให้ บาร์ซา 2 นัดติดต่อกัน
เมสซี ไม่มีชื่อทำสกอร์ แต่ป่วนแนวรับ ชัคห์เตอร์ โดเนทสค์ ได้ไม่น้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น