เดวิด ลุยซ์ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยิงคนละประตูให้ เชลซี พลิกกลับมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่เอกระหว่างแชมป์เก่า เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีคะแนนนำห่าง 15 คะแนน โดยเจ้าถิ่นจัดทัพ 4-4-2 ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นเพียงสำรองทำให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส และ นิโกลาส์ อเนลกา ยืนล่าตาข่ายร่วมกัน ขณะที่ทีมเยือนวางระบบ 4-4-2 เช่นกัน พอล สโคลส์ คุมเกมตรงกลาง ส่วน ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ได้รับโอกาสยืนหน้าคู่กับ เวย์น รูนีย์
เปิดฉากครึ่งแรก เชลซี เริ่มเกมได้ดุดันกว่าผ่านมาถึงนาที 5 ก็มีลุ้นประตูจากจังหวะที่ นิโกลาส์ อเนลกา กระชากบอลขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนตบเข้ากลาง ฟลอรองต์ มาลูดา ซัดเรียดหน้าเขตโทษ บอลไปตรงตัว เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวรับเข้าซอง
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ค่อยๆตั้งเกมของตัวเองจนได้บุกกดดันอย่างต่อเนื่อง กระทั่งนาที 29 ก็ทำสกอร์ออกนำ 1-0 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ เวย์น รูนีย์ ได้บอลจาก นานี บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษพลิกตัวหนีแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนซัดเข้าเสาแรกหมดสิทธิ์ที่ ปีเตอร์ เช็ก ป้องกันทัน
ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสูสีแต่จังหวะลุ้นประตูแบบชัดเจนมีไม่มากนัก กระทั่งช่วง 5 นาทีสุดท้าย เชลซี มีโอกาสทองจากฟรีคิกระยะ 25 หลา แฟรงค์ แลมพาร์ด ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งแรงจน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดบอลไปเข้าทาง บรานิสลาฟ อีวาโนวิช พยายามซ้ำหน้าประตู แต่นายด่านชาวดัตช์แก้ตัวด้วยการปัดปลายมือ อีกทั้งบอลมาถูกตัว เนมานยา วิดิช ออกมาจากเส้นแบบหวุดหวิด
เชลซี พยายามเคลื่อนเกมให้เร็วขึ้นจนเริ่มต้นดีกว่าในครึ่งหลัง กระทั่ง 54 จากจังหวะที่ ไมเคิล เอสเซียง เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษ อีวาโนวิช โหม่งเสยมาทางเสาสอง เดวิด ลุยซ์ วอลเลย์เสียบเสาเป็นสกอร์ให้แชมป์เก่าตามตีเสมอ 1-1
รูนีย์ เกือบยิงประตูที่สองของตัวเองในเกมและเป็นประตูขึ้นนำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนาที 64 หลังจากได้บอลหลุดเดี่ยวขึ้นมาทางซ้ายจนแตะเข้าไปในเขตโทษ แต่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษไม่เปิดให้เพื่อนกลับเลือกยิงเองจนบอลผ่านหน้าประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย
ด้านเจ้าถิ่นมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นโดยส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ ยูริ เซียร์คอฟ ลงสนามมาแทนที่ อเนลกา และ มาลูดา ตามลำดับ เกมผ่านมาถึงนาที 78 จากการประสานงานระหว่าง ดร็อกบา และ แลมพาร์ด ก่อนที่ เซียร์คอฟ แตะบอลเข้าเขตโทษ คริส สมอลลิง พลาดแหย่เท้าสกัดปีกชาวรัสเซียล้มลงจนเสียจุดโทษ แลมพาร์ด สังหารไม่พลาด เชลซี ออกนำ 2-1
กองหลังของทีมเยือนปั่นป่วนจนเกือบมาเสียประตูอีกในนาที 82 จากจังหวะเตะมุม วิดิช โหม่งเคลียร์มาเข้าทาง เซียร์คอฟ ฮาล์ฟวอลเลย์ไปแฉลบกองหลังชาวเซิร์บชนเสาออกหลังไป ช่วงท้ายเกมสถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด แย่ลงอีกเมื่อ วิดิช ถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงจากการทำฟาวล์ รามิเรส จนโดนไล่ออกจากสนามไป เชลซี รักษาสกอร์อยู่จบจบเกมจึงเป็นฝ่ายเอาชนะไป
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ไมเคิล เอสเซียง, ฟลอรองต์ มาลูดา, รามิเรส, เฟร์นานโด ตอร์เรส, นิโกลาส์ อเนลกา
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เนมายาน วิดิช, คริส สมอลลิง, ปาทริซ เอฟรา, จอห์น โอเชีย, ไมเคิล คาร์ริก, พอล สโคลส์, นานี, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, เวย์น รูนีย์